X

เริ่มแล้ว!!งานมหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู 67 เพื่อส่งเสริมท่องเที่ยวเชิงเกษตร

อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ร่วมกับเกษตรกร จัดงาน“มหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู 2567” เพื่อเปิดโอกาสให้เกษตรกรได้นำทุเรียนป่าละอู และผลไม้ชนิดต่างๆจากสวนมาจำหน่ายให้กับผู้บริโภคโดนตรง รวมทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร มีนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบทุเรียนป่าละอู มาเลือกซื้อทุเรียนทั้งรับประทานเองและเป็นของฝาก ขณะที่เกษตรจังหวัดประจวบฯ ระบุว่าผลผลิตทุเรียนป่าละอูปีนี้อยู่ที่ราว 2,000 ตัน คุณภาพยังคงเดิม

(วันนี้ 27 ก.ค.2567) ที่บริเวณลานจัดกิจกรรม อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายวัชระ กำพร นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ พร้อมคณะผู้บริหารได้ร่วมกันเปิดงาน “มหกรรมผลไม้และของดีป่าละอู 2567” ครั้งที่ 11 มีเกษตรจังหวัดประจวบฯ พาณิชย์จังหวัดประจวบฯ ปลัดอำเภอหัวหิน สหกรณ์การเกษตรห้วยสัตว์ใหญ่ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ สมาคมโรงแรมไทยภาคตะวันตก สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เกษตรกรจากสวนต่างๆในพื้นที่ร่วมพิธีเปิดงาน ตลอดจนนักท่องเที่ยวจำนวนมาก

นายวัชระ กำพร นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ กล่าวว่าตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นพื้นที่ในโครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ เป็นโครงการตามพระราชดำริ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 ได้มอบที่ดินทำกินให้กับเกษตรกร นอกจากทำเกษตรกรรมแล้ว ชาวบ้านส่วนใหญ่ของที่นี่ทั้งเลี้ยงโคนม ทำการเกษตร ปลูกพืชผักผลไม้ต่างๆ และผลไม้ที่สำคัญที่สร้างชื่อเสียงทุเรียนป่าละอู ทำให้เป็นที่นิยมของผู้ที่ชื่นชอบทานผลไม้ เมื่อถึงช่วงฤดูกาลตัดผลผลิตทุเรียนป่าละอูออกสู่ตลาดในช่วงเดือน พฤษภาคม มิถุนายน กรกฏาคม และสิงหาคม ของทุกปี ก็จะมีนักท่องเที่ยวตลอดจนผู้ที่ชื่นชอบบริโภคทุเรียนป่าละอู ต่างเดินทางเข้ามาในพื้นที่มีทั้งไปซื้อที่สวน และตามแผงทุเรียนริมถนนในหมู่บ้านที่เกษตรกรตัดมาจำหน่าย ในปีนี้ราคาอยู่ที่ 250 บาท แต่หากลงไปจำหน่ายในเมืองหัวหิน ราคาก็อยู่ที่ 300 บาท/กก.

ในการจัดงานปีนี้เป็นครั้งที่ 11 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน-3 กรกฏาคม 2567 เพื่อเป็นการเผยแพร่ส่งเสริมของดีตำบลห้วยสัตว์ใหญ่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรและชุมชนในพื้นที่ และเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรในพื้นที่ตำบลห้วยสัตว์เป็นที่รู้จักเพิ่มมากยิ่งขึ้น

ภายหลังจากพิธีเปิดเสร็จแล้ว นายกอบจ.ประจวบฯ นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ ได้เดินเยี่ยมชมบูธของเกษตรกรชาวสวนต่างๆที่นำทุเรียนและผลไม้มาจำหน่าย โดยย้ำขอให้เกษตรกรเลือกตัดผลผลิตที่แก่จัดให้กับผู้บริโภค และบอกด้วยว่าผู้ที่ชื่นชอบบริโภคทุเรียนป่าละอู รอที่จะเลือกซื้อลองลิ้มในรสชาติของทุเรียนป่าละอูที่ขึ้นชื่อ

ทั้งนี้ภายในงานมีการแสดงจากเยาวชนของโรงเรียนอานันท์ การออกบูธจำหน่ายทุเรียน และพืชผักผลไม้ หลายชนิด จากไร่ สวนต่างๆในพื้นที่ การจัดนิทรรศการของหน่วยงานเกษตร การประกวดทุเรียน การประกวดธิดาทุเรียน การแสดงของนักเรียนโรงเรียนอานันท์ การทอผ้าป่าละอู ฯลฯ

ซึ่งในช่วงของการจัดงานทุเรียนป่าละอู ที่นำมาจำหน่ายในงานกิโลกรัมละ 250 บาท และเกษตรกรแต่รายที่นำมาจำหน่ายจะติดสติ๊กเกอร์ชื่อสวน เบอร์โทรศัพท์ คิวอาร์โค๊ต พร้อมรับประกันคุณภาพบริการทั้งปลอก และจัดส่ง ทั้งนี้หากพบปัญหาซื้อทุเรียนในงานไปแล้วอ่อนหรือเสีย สามารถแจ้งโดยทางเกษตรกรจะเปลี่ยนและจัดส่งกลับไปให้ผู้บริโภค

ด้านนางศันสนีย์ เกษตรสินสมบัติ เกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าพื้นที่ปลูกทุเรียนในป่าละอู 4,898 ไร่ มีพื้นที่ให้ผลผลิต 3,012 ไร่ มีเกษตรกร 502 ครัวเรือน ปีปริมาณผลผลิตทุเรียนปี 2567 ราว 2,000 ตัน โดยผลผลิตจะออกมากในช่วงเดือน มิถุนายน-กรกฏาคม-สิงหาคม ซึ่งสภาพของตำบลห้วยสัตว์ใหญ่ เป็นพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ อากาศเหมาะสมทำให้รสชาติทุเรียนป่าละอูเป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค ซึ่งในเดือนมิถุนายน มีผลผลิต 617.66 ตัน ส่วนในเดือนกรกฏาคมนี้ มีผลผลิต 1101.75 ตัน ซึ่งจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งปีนี้ทุเรียนป่าละอูมีการจำหน่ายผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์ของแต่ละสวถึง70%

ทุเรียนป่าละอู ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ สำนักเครื่องหมายการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ มีผู้ยื่นขอใช้ตราสัญลักษณ์ GI ทั้งสิ้น 226 ราย พื้นที่รวม 2,919 ไร่เศษ ยืนยันว่าถึงแม้ผลผลิตทุเรียนป่าละอูปีนี้จะมีน้อยจากสภาวะภัยแล้ง แต่คุณภาพยังคงเหมือนเดิม

นายสราวุธ ลิ้มอรุณรักษ์ นายก อบจ.ประจวบฯกล่าวว่า ช่วงนี้ก็จะเป็นช่วงที่ผู้บริโภคต่างเดินทางขึ้นมาเที่ยวชมสวนทุเรียนที่ป่าละอู และไม่ลืมที่จะต้องซื้อทุเรียนป่าละอู ติดไม้ติดมือกลับไปเป็นของฝากถึงแม้ราคาทุเรียนภายในงานราคากิโลกรัมละ 250 บาท แต่ละลูกก็จะมีน้ำหนักตั้งแต่ 1 กิโลกรัมขึ้นไปจนถึง 3 จนถึง4 กิโลกรัมก็มี

โดยขณะนี้ทุเรียนป่าละอูแต่ละสวนก็จะมีออเดอร์เข้ามาจากการสั่งจองทางออนไลน์กันเป็นจำนวนมาก สิ่งสำคัญนอกจากการส่งเสริม สร้างรายได้ ให้เกษตรกรแล้ว ยังถือว่าเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่งด้วย

นางชลทิพย์ ล้ำเลิศ เจ้าของไร่ทุเรียนทิพย์โอชาคีรี หมู่ 9 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ กล่าวว่าทุเรียนป่าละอูเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ซึ่งมีรสชาติ หวาน มันอร่อย เม็ดลีบเล็ก เนื้อทุเรียนหนา ปีนี้ถึงแม้จะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งบ้างทำให้ผลผลิตที่ไร่ลดลงไปบ้าง มีเพียง 1,000 กว่า ลูก ซึ่งหลังเปิดรับออเดอร์เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีลูกค้าสั่งเข้ามาและทางไร่ก็จัดส่งไป รวมทั้งนำไปจำหน่ายที่ตลาด อตก.กรุงเทพฯ หากแกะเนื้ออยู่ที่ 1,300-1,800 บาท/กก.และจำหน่ายในไร่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเที่ยวชมสวนกันได้ โดยการจัดงานครั้งนี้ก็ถือว่าดีเพราะเกษตรกรก็นำทุเรียนคุณภาพมาจำหน่ายในราคา 250บาท/กก. ซึ่งส่วนใหญ่ที่จัดส่งไปก็ราคา 290 บาท/กิโล และยิ่งไปจำหน่ายที่กรุงเทพฯก็อยู่ที่กว่า300-350บาท/กก.

ขณะที่เกษตรกรรายอื่นๆที่มาออกบูธ ก็ยอมรับว่าปีนี้ผลผลิตลดลงจากภัยแล้ง แต่ก็ยังจำหน่ายได้เหมือนเดิม ซึ่งผู้บริโภคมาถึงสวนและสั่งออกเดอร์เข้ามาทางเพจ การจัดงานก็เป็นอีกทางเลือกที่ทำให้ผู้บริโภคมาพบกับเกษตรกรเจ้าของสวนจริงๆ ยอมรับว่าตลาอดออนไลน์เข้ามีบทบาทสำคัญในปัจจุบัน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน