ชัยภูมิ – กกต.เตรียมจัดเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ.ชัยภูมิ หลัง”อร่าม โล่ห์วีระ” ชิงลาออกก่อนกำหนดที่เหลือเวลาจะครบวาระอีกเพียงไม่เกิน 180 วันแล้ว ที่ต้องมีการจัดการเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ.ชัยภูมิ ขึ้นใหม่ภายใน 60 วัน กก.ต.เตรียมรับเดสมัคร 8-12 ก.ค.67 ณ ห้องประชุม อบจ.ชัยภูมิ พร้อมกำหนดเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 11 ส.ค.67 นี้ เปิดตัวคู่แข่งว่าที่ผู้สมัครจับตาสนามเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ.ชัยภูมิ ศึกช้างชนช้างสายการเมืองระดับชาติ 2 พรรคใหญ่ หนุนผู้ลงสมัครแข่งเดือด!
( 28 มิ.ย.67 ) ล่าสุดความคืบหน้าหลัง นายอร่าม โล่ห์วีระ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ( นายก อบจ.ชัยภูมิ ) คนปัจจุบัน ที่ดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.มาตั้งแต่ช่วงปี 2563 ตั้งแต่มีการเลือกตั้งนายก อบจ.ชัยภูมิ ครั้งล่าสุดที่ผ่านมาชนะการเลือกตั้งได้เข้ารับตำแหน่งมาต่อเนื่องเกือบ 4 ปี ที่ผ่านมา แต่ได้มีการยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ทั้งที่เหลือเวลาจะครบวาระการดำรงตำแหน่งเป็นนายก อบจ.ชัยภูมิ เหลืออีกเพียง 180 วัน เพื่อให้มีผลให้ตนเองพ้นจากตำแหน่งในวันที่ 18 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา
และได้ออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนผ่านไปถึงประชาชนในพื้นที่ครั้งนี้ด้วยว่า กรณีการลาออกจากตำแหน่ง นายก อบจ.ชัยภูมิ ก่อนที่ตนเองจะครบวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 18 ธ.ค.67 ปีนี้ ที่เหลือเวลาอีกไม่เกิน 180 วัน นั้น
ก่อนที่ตนเองจะตัดสินใจหลังยื่นหนังสือลงวันที่ 17 มิถุนายน 2567 ว่าด้วยเรื่องขอลาออกจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ (นายก อบจ.ชัยภูมิ) ผ่านท้องถิ่นจังหวัดชัยภูมิ โดยขอลาออกจากตำแหน่งครั้งนี้ให้มีผลที่ตนเองได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ นายก อบจ.ของตนเองมาตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2567 เป็นต้นมาแล้ว
โดย นายอร่าม โล่ห์วีระ กล่าวว่า ที่ตนลาออกก่อนหมดวาระ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับจังหวัดอื่นที่ก็มีนายก อบจ.ลาออกจากตำแหน่งก่อนหมดวาระในช่วงนี้เช่นกัน ตนเองขอยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกัน
เพราะเหตุผลในส่วนที่ตนเองลาออกก่อนครบวาระ เพราะเป็นการที่จะได้เข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อีก 1 วาระ ที่กฏหมายระบุให้เป็นนายก อบจ.ได้ไม่เกิน 2 วาระๆละ 4 ปี ซึ่งเห็นแนวทางที่จะได้ดำเนินการลงไปแก้ไขปัญหาในกับประชาชนในพื้นที่ ถ้าตนเองไม่ลาออกในวันนี้ ก็จะต้องรอให้ครบวาระ ซึ่งจะมีการครบวาระในวันที่ 18 ธันวาคม 2567 นี้ แต่ตนคิดว่าถ้าอยู่ไปต่อที่เหลือเวลาไม่นานกี่เดือน หรือไม่เกิน 180 วันเท่านั้น จนครบวาระนั้นก็ไม่สามารถจะดำเนินการเบิกจ่ายงบประมาณลงไปพัฒนาช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ในช่วงเวลาที่เหลืออยู่ได้ก่อนที่จะหมดวาระในปีนี้ได้
จึงตัดสินใจลาออกก่อนครบวาระที่เหลือ 180 วัน ซึ่งก่อนที่จะครบ 180 วัน ก็ต้องลาออกในวันที่ 18 มิถุนายน 2567 นี้ จึงต้องขอลาออกก่อนกำหนด เพื่อที่จะได้มีการทำการเลือกตั้งใหม่ขึ้นใหม่ได้ภายในเวลาไม่นานจากนี้ไปอีกไม่เกินอีก 60 วัน ที่จะถึงนี้ เพราะถ้าในช่วงปลายปีนี้หากเกิดมีปัญหาต่างต่างๆไม่ว่าน้ำท่วม หรือ มีอุทกภัยในช่วงที่ตนเองนั้นยังคงดำรงตำแหน่งอยู่ไม่อีกนาน แต่ก็ไม่สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้ ก็จะทำให้ชาวบ้านได้รับผลกระทบ
จึงเป็นที่มาขอการลาออกก่อนกำหนดครั้งนี้ขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ทำการเลือกตั้งใหม่ ที่จะได้ นายก อบจ.ใหม่อีกวาระนานมากขึ้น 4 ปี เพื่อที่จะได้เข้ามาบริหารงานมีงบประมาณเข้ามาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้ต่อเนื่องนานมากขึ้นในภายภาคหน้าอย่างต่อเนื่องต่อไปได้ ตนเองก็ผ่านมาเกือบจะครบวาระ 4 ปีแล้ว ซึ่งเป็นมาได้เป็น นายก อบจ.แล้วเพียง 1 สมัย ซึ่งตนเองก็คิดว่าจะลงแข่งขันอีกในสมัยหน้าในครั้งนี้ได้อีก ที่ถึงแม้ในปัจจุบันอายุจะมากกว่า 73 ปี แล้วในปัจจุบัน แต่สุขภาพก็ยังแข็งแรงดีและยังพร้อมที่จะขอทำงานเพื่อบ้านเมืองชัยภูมิ ต่อไปได้อีกสมัย เพื่อจะขอกลับมาดำรงตำแหน่ง นายก อบจ.ชัยภูมิ ให้ได้ครบ 2 สมัย เพื่อบริหารงานของ อบจ.ชัยภูมิ ให้ต่อเนื่องให้ต่อไปได้
ด้าน นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้มีการแจ้งให้ กกต.ชัยภูมิ เพื่อให้มีการดำเนินการจัดเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ.ชัยภูมิ ขึ้นใหม่จากนี้ในเวลาอีกไม่เกิน 60 วัน ตามที่กฏหมายกำหนด
ซึ่งล่าสุด ทาง กกต.ชัยภูมิ ได้เตรียมดำเนินการจัดการเลือกตั้ง นายก อบจ.ใหย่ในครั้งนี้แล้ว หลังมีการออกออกจากตำแหน่งของนายก อบจ.ชัยภูมิ ก่อนกำหนดครบวาระ ที่ครั้งนี้ทาง กกต. ได้มีการกำหนดวันรับสมัครในช่วงวันที่ 8-12 กรกฎาคม 2567 ที่จะเตรียมใช้สถานที่รับสมัครเลือกตั้งซ่อม นายก อบจ.ชัยภูมิ ขึ้นในสถานที่หอประชุม อบจ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้แล้ว และจะมีการจัดวันเลือกตั้ง นายก อบจ.ชัยภูมิ ครั้งใหม่ในวันที่ 11 สิงหาคม 2567 นี้
ขณะที่ด้าน น.ส.สุรีวรรณ อาคาศัย ภรรยา นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.พรรคภูมิใจไทย เขต 3 จ.ชัยภูมิ ซึ่งเธอในปัจจุบันยังมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลปัจจุบันอีกด้วย ที่ประกาศตัวเป็นว่าที่ ผู้สมัครที่เตรียมความพร้อมที่จะลงสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ด้วย
โดย น.ส.สุรีวรรณฯ เปิดเผยว่า ในส่วนตัวเองที่ก็งงๆเหมือนกันว่ามีการลาออกจากตำแหน่งนายก อบจ.ชัยภูมิ ก่อนกำหนดทำไม ที่ก็เตรียมตัวที่จะสมัครชิงนายก อบจ.ชัยภูมิ อยู่แล้วตามเวลาที่จะหมดวาระในเดือน ธ.ค.67 นี้ ที่ตำแหน่งนายก อบจ.ชัยภูมิ ปัจจุบัน ยังเหลือเวลาอีกกกว่า 180 วัน แต่เมื่อมีการลาออกก่อนกำหนด ตนเองก็พร้อมที่จะขอเป็นทางเลือกในการลงสมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.ชัยภูมิ ครั้งใหม่ในครั้งนี้ด้วย และพร้อมที่จะมีแนวทางมีนโยบายมาเสนอตัวเป็นทางเลือกใหม่ให้กับชาวชัยภูมิ ด้วย ที่จะนำเสนอให้ประชาชนชาวชัยภูมิ ให้มีทางเลือกใหม่ ก่อนที่จะมีเลือกตั้ง นายก อบจ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ด้วย
ซึ่งเป็นที่น่าจับตาว่า ในการเลือกตั้งซ่อม ชิงนายก อบจ.ชัยภูมิ ที่มีการลาออกก่อนกำหนดครอบวาระในครั้งนี้ เป็นที่น่าจับตาว่าจะจะเป็นสนามเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายก อบจ.ในวันที่ 11 ส.ค.2567 นี้ จะแข่งเดือดและเป็นศึกช้างชนช้างครั้งสำคัญก็ว่าได้ ระหว่างสายผู้สมัครที่ประกาศตัวจะลงแข่งขันชิง นายก อบจ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ด้วย
ที่มาจาก 2 สายพรรคการเมืองระดับชาติในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ จาก 2 พรรค อย่างพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) และภูมิใจไทย (ภท.) ที่ต่างฝ่ายต่างมีแรงหนุนจาก ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ด้วยที่ นายอร่าม โล่ห์วีระ ที่อดีตเคยเป็น ส.ส.หลายสมัยเป็นนักการเมืองรุ่นเก๋าตระกูลดังทางการเมืองระดับชาติ ของตระกูล”โล่ห์วีระ” ที่ชิงลาออกจากตำแหน่ง นายก อบจ.ครั้งนี้ก่อนครบวาระ เป็นการชิงไหวชิงพริบกันทางการเมืองรุ่นเก๋าอีกครั้ง ที่หวังจะลงสมัครขอกลับมาลงสมัครชิงแชมป์เป็น นายก อบจ.อีกสมัย ที่มีฐานการเมืองหนุนจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ที่มีลูกชาย นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ เป็น ส.ส.เขต 7 ของชัยภูมิ ในปัจจุบันและมีสายสัมพันธ์สนิทสนมกับ ร.อ.ธรรมมัสฯ อีกด้วย
ต้องมาเจอคู่แข่งคนสำคัญ สายพรรคภูมิใจไทย( ภท. )ที่ น.ส.สุรีวรรณ อาคาศัย เป็นภรรยาของ นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ภท. เขต 3 จังหวัดชัยภูมิ อีกคนก็จะส่งภรรยาตัวเองคือ น.ส.สุรีวรรณ นาคาศัย ลงชิงตำแหน่งนายก อบจ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ด้วย ซึ่ง น.ส.สุรีวรรณ ในปัจจุบันที่ยังมีดีกรีมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่ง น.ส.สุรีวรรณฯ ยังเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในปัจจุบันอีกด้วย
