ฉะเชิงเทรา – ชาวบางปะกงบอกดีใจ ที่ได้เห็นผู้ที่เข้ามาอาสาเป็นตัวแทนทำงานให้ท้องถิ่น ตั้งใจในการทำงานแม้จะมีอุปสรรค ที่ไม่สามารถนำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนสู่สภาท้องถิ่นได้ หลังประธานสภาบางปะกงพรหมเทพรังสรรค์ หักดิบปิดสมัยประชุมกลางคัน ก่อนลุกเดินหนีสมาชิกที่กำลังจะอภิปรายนำเสนอปัญหา พร้อมฝ่ายบริหารออกไปจากห้องประชุม ตามหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวานนี้
วันที่ 29 มิ.ย.67 เวลา 13.30 น. นางอรพรพรรณ สังวรนิตย์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 15 ม.12 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า หลังจากที่ได้ติดตามไปดูกลุ่มสมาชิกสภาเทศบาลบางปะกงพรหมเทพรังสรรค์ จำนวน 5 คนและมี สท.ลงชื่อร่วมร้องเรียน 1 คน ได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวานนี้ในกรณีที่ฝ่ายบริหารพากันลุกหนีเดินออกไปจากห้องประชุมสภา
ข่าวน่าสนใจ:
หลังจากประธานสภาได้สั่งปิดการประชุมโดยที่ไม่ยินยอมให้ สท.ผู้เป็นตัวแทนของประชาชน นำเสนอปัญหาความเดือดร้อนที่ชาวบ้านกำลังได้รับผลกระทบในพื้นที่ สู่การพิจารณาแก้ไขดังกล่าวนั้นว่า เมื่อวานนี้ตนได้เป็นตัวแทนของชาวบ้านที่ได้ติดตามกลุ่ม สท. 5 คนไปยังที่ศาลากลางจังหวัด เพื่อดูว่าสมาชิกสภาเทศบาลซึ่งเป็นตัวแทนที่ตนได้เลือกเข้าไป ได้สนใจหรือพยายามที่จะแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านจริงหรือไม่ และมีอุปสรรคตามคำบอกเล่าว่าไม่สามารถอภิปรายนำเสนอสู่สภาได้จริงหรือไม่
หลังตนได้ไปเห็นแล้วว่า กลุ่ม สท.ผู้เป็นตัวแทนได้เข้าไปร้องเรียนยังที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.ฉะเชิงเทรา จริง และมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้นจริงตามที่ สท.ได้มาให้คำตอบแก่ชาวบ้านว่า ไม่สามารถนำเสนอปัญหาที่เกิดขึ้นสู่สภาได้ ก็รู้สึกดีใจและไม่ผิดหวังที่ได้ลงคะแนนเสียงเลือกพวกเขาเข้าไปทำงาน แม้จะแก้ปัญหาไม่ได้ตามที่เราต้องการก็ตาม แต่ก็ยังดีใจที่ได้เห็นพวกเขาตั้งใจที่จะทำงานให้แก่ประชาชน
โดยตนได้เสนอเรื่องความเดือดร้อนผ่านทาง สท.เขตไป ถึงปัญหาเกี่ยวกับถนนเส้นทางการสัญจรในหมู่บ้านที่ได้รับความเสียหาย ทำให้การเดินทางสัญจรไม่สะดวก เนื่องจากมีหลุมบ่อจำนวนมากจนอาจทำให้ผู้ใช้เส้นทางผ่านได้รับอันตราย เพราะมีน้ำท่วมขังในหลุม และเคยมีเด็กนักเรียนขับรถ จยย.มาประสบอุบัติเหตุล้มลงเพราะตกหลุมจนได้รับบาดเจ็บมาแล้ว รวมถึงตนเองก็ยังเคยขับรถมาตกหลุมล้มมาแล้วด้วยเช่นเดียวกัน
ที่ผ่านมาเคยแจ้งผ่านทางตัวแทน (สท.) ไปหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่รู้ว่าทางผู้นำชุมชนทางสมาชิกสภาเทศบาล ได้ติดตามทำให้หรือไม่ แต่หลังจากที่ได้ขออาสาติดตามไปดูจึงทราบว่าเขาได้พยายามทำให้เราจริง และเขาไม่ได้หลอกลวงเรา นางอรพรพรรณ กล่าว
ขณะเดียวกัน นายณัทเดชาธร พันธ์ผูก และนายสุวรรณ์ กลิ่นนาค สท.เขต 2 ที่ได้เดินทางไปยื่นเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของประธานสภาเทศบาลบางปะกงพรหมเทพรังสรรค์ กรณีปิดการประชุมสภาหนี โดยไม่ยอมให้สมาชิกอภิปรายนำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านได้ ได้นำพาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูสภาพความเป็นจริงตามท้องถนน ที่เป็นอุปสรรคในการเดินทางสัญจรของประชาชน ที่บริเวณถนนเลียบคลองบุญประกอบ (คลอง 1) ม.15 ที่มีสภาพเป็นหลุมลึก
แต่ทางผู้นำชุมชนได้ใช้เงินส่วนตัวนำหินคลุกมากลบไว้ชั่วคราวแล้ว และถนนคลองขุนสมัคร ม.17 ที่ยังคงมีสภาพเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่จำนวนมากหลายแห่ง โดยมีน้ำขังท่วมขวางเต็มพื้นที่ของถนนจนเป็นอุปสรรคในการเดินทาง รวมถึงถนนคู่ขนานเลียบคลองพิบูลย์สงคราม (คลอง 2) ม.16 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสำนักงานเทศบาลบางปะกงพรหมเทพรังสรรค์ ที่มีสภาพทรุดตัวแตกร้าวและมีหลายจุดอยู่ในสภาพเอียงสไลด์เทลงไปในลำคลอง
พร้อมระบุว่าเทศบาลบางปะกงพรหมเทพรังสรรค์ มีเงินงบประมาณในการบริหารจัดการดูแลพื้นที่มากถึง 120 ล้านบาท เป็นงบจัดเก็บจากรายได้ภาษีบำรุงท้องที่ 96 ล้านบาทและงบสนับสนุนจากทางรัฐบาล 24 ล้านบาท แต่ยังคงมีถนนที่ไม่ได้รับการดูแลเป็นหลุมบ่อจำนวนมาก บางแห่งชำรุดทรุดโทรมมานานหลายปีแต่ยังไม่ได้รับการแก้ไข โดยเฉพาะถนนคลองขุนสมัครใน ม.17 ที่มีสภาพเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่และมีน้ำท่วมขังขวางอยู่เต็มถนนนั้น
ในอดีตเคยเป็นคลองที่เสื่อมสภาพแล้ว และไม่มีใครใช้งานมานานกว่า 20 ปี เมื่อครั้งที่เทศบาลบางปะกงพรหมเทพรังสรรค์ยังเป็น อบต.อยู่ ได้มีการพัฒนานำมาเป็นถนนเส้นทางสัญจรให้แก่ชาวบ้านได้ใช้เดินทางผ่าน แต่เมื่อยกฐานะขึ้นมาเป็นเทศบาลแล้ว กลับอ้างว่าไม่สามารถนำเงินงบประมาณออกมาใช้ในการซ่อมแซมได้ ทั้งที่เมื่อก่อนทาง อบต.ยังเคยใช้เงินงบประมาณออกมาทำได้ และมีการปิดป้ายประกาศโครงการในการจัดจ้างเหมา โดยใช้เงินงบประมาณให้ประชาชนทั่วไปได้เห็นว่าสามารถใช้เงินงบประมาณมาซ่อมแซมได้ นายณัทเดชาธร กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: