วันที่ 7 ก.ค.67 เวลา 07.00 น. ที่บริเวณลานพญาศรีสัตตนาคราช จ.นครพนม นายสมชาย. วิทย์ดำรงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมคนที่ 40 /ประธาน ประธานมูลนิธิพญาศรีสัตตนาคราช เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช โดยมีนางรณิดา เหลืองฐิติสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และผู้มีจิตศรัทธาร่วมในพิธี เพื่อความเป็นสิริมงคลและให้การจัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ประจำปี 2567 เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ตลอดระยะเวลา 7 วัน
สำหรับกำหนดการจัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราชประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 7-13 กรกฎาคม 2567 ณ ลานพญาศรีสัตตนาคราช ริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม เพื่อสืบสานตำนานความเชื่อความศรัทธาชาวลุ่มน้ำโขงที่มีต่อพญานาค ส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมในการยกระดับเข้าสู่เมืองหลัก และกระจายได้จากการท่องเที่ยวสู่ชุมชน สนับสนุน Soft Power ตามนโยบายของรัฐบาล อีกทั้งเป็นการยกระดับแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม มีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน สื่อมวลชน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟัง การจัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราชปีนี้ถือว่ายิ่งใหญ่กว่าทุกปีที่ผ่านมา มีการรวมพลังแห่งความเชื่อและความศรัทธา ร่วมสร้างเครื่องบวงสรวงพานบายศรีสูง 7 เมตร 70 เซนติเมตร จากดอกไม้สดและใบตองสด ถือว่าเป็น 3 ที่สุดของพานบายศรีคือ สูงที่สุด สวยที่สุด และใหญ่ที่สุด โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณในการจัดทำพานบายศรีจากผู้มีจิตศรัทธาภาคประชาชนถึง 2 แสนบาท และมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมาย ประกอบด้วย พิธีบวงสรวงและรำบูชาพญาศรีสัตตนาคราช ตลอดระยะเวลา 7 วัน จาก 12 อำเภอ นางรำสวมใส่ชุดพื้นเมืองตามอัตลักษณ์กลุ่มชาติพันธุ์ 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ ได้แก่ ชาติพันธุ์ไทอีสาน ไทญ้อ ไทแสก ไทข่า ไทกะเลิง ไทโส้ ผู้ไท ไทกวน ไทตาด ชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม และชาวไทยเชื้อสายจีน รวมทั้งผู้ศรัทธาและนักท่องเที่ยวทั่วไป ไม่น้อยกว่าวันละ 700 คน โดยเฉพาะวันที่ 7 กรกฎาคม 2567 (วันที่ 7 เดือน 7) ซึ่งเป็นวันเปิดงาน เวลา 07.00 น. มีพิธีบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ตามความเชื่อศาสนาพราหมณ์ เวลา 17.00 น. จัดแสดงโขน เรื่องรามเกียรติ์ ตอน พระรามราชสุริยวงศ์ โดยวิทยาลัยนาฎศิลปกาฬสินธุ์ ใช้นักแสดง 100 คน เวลา 19.39 น. เคลื่อนขบวนแห่เครื่องพานบายศรีบูชาพญาศรีสัตตนาคราชที่มีความสูง 7 เมตร 70 เซนติเมตร พร้อมขบวนนางรำไม่น้อยกว่า 1,000 คน และแขกรับเชิญพิเศษ “น้องน้ำตาล” ชลิตา ส่วนเสน่ห์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2559 “น้องชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์ นักกีฬาวอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทย จากหน้าธนาคาร ธ.ก.ส. ถนนนิตโย ไปยังลานพญาศรีสัตตนาคราช เพื่อประกอบพิธีกล่าวคำบูชาหน้าองค์พญาศรีสัตตนาคราช และประกอบพิธีเปิดงาน โดยนายเสริมศักดิ์ พงษ์พาณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การแสดงชุดวิถีถิ่น วิถีชน เมืองศิวิไลซ์ พร้อมรำบวงสรวงประกอบเพลง 7 ชุดการแสดง มีการถ่ายทอดสดผ่าน NBT อีสานช่วงเวลา 19.00 – 21.00 น. ด้วย ส่วนอีก 6 วันของการจัดงานมีขบวนแห่เครื่องพานบายศรีบูชาพญาศรีสัตตนาคราช พร้อมขบวนนางรำไม่น้อยกว่า 700 คน และแขกรับเชิญพิเศษทุกวัน ได้แก่ วันที่ 8 กรกฎาคม 2567 “น้องอีฟ” ไอยวรินญร์ ชื่นชอบ ดาราช่อง 8 วันที่ 9 กรกฎาคม 2567 “น้องพูลิม” ณิชกานต์ แก้วอินธิ ศิลปินสังกัด Workpoint Entertainment วันที่ 10 กรกฎาคม 2567 “มาดามเพี๊ยซ” กนกลดา วิชากุล และ “ครูเล้ง” ราชนิกร แก้วดี วันที่ 11 กรกฎาคม 2567 “น้องบิ๊นท์” สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ Miss Grand International 2016 วันที่ 12 กรกฎาคม 2567 การแสดงโชว์บูชาพญานาค โดยคุณปรานอม บุญยเลี้ยง พร้อมทีมงานคุณแม่กระแตอาร์สยาม และวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 “น้องแน๊ต” ลภัสรดา จริญวงศ์ ส่วนอื่น ๆ ภายในงานตลอดระยะเวลา 7 วัน เช่น การออกโรงทานจากผู้มีจิตศรัทธา การจำหน่ายสินค้า OTOP การจำหน่ายสินค้าถนนคนเดิน คาราวานสินค้า มหกรรมอาหาร การแสดงศิลปะวัฒนธรรม(หมอลำ) การแสดงศิลปะวัฒนธรรมเพื่อการท่องเที่ยว 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ ขบวนคาร์นิวัล เป็นต้น
นอกจากนี้ในวันเปิดงานยังได้รับเกียรติจากเจ้าแขวงคำม่วน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มาร่วมเป็นเกียรติในพิธีเปิดงาน พร้อมนางรำมาร่วมรำบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราชด้วย เป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมและเชื่อมความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศอีกด้วย ด้านการอำนวยความสะดวกและการจราจร ได้มีประกาศหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจรจังหวัดนครพนม เรื่อง การห้ามเดินรถในถนนบางสาย ช่วงการจัดงานบวงสรวงพญาศรีสัตตนาคราช ประจำปี 2567 ดังนี้ ห้ามรถทุกชนิดเดินรถในเส้นทางถนนสุนทรวิจิตร ช่วงสามแยกถนนนิตโยบรรจบถนนสุนทรวิจิตร ถึงสามแยกถนนทัศนปทุม ตั้งแต่เวลา 13.00 – 24.00 น. ของวันที่ 7-13 กรกฎาคม 2567 และห้ามรถทุกชนิดเดินรถในเส้นทางถนนนิตโย ช่วงสี่แยกถนนนิตโยตัดกับถนนบำรุงเมือง บรรจบกับถนนสุนทรวิจิตร ตั้งแต่เวลา 13.00 – 24.00 น. ของวันที่ 7 – 13 กรกฎาคม 2567 ซึ่งประกาศนี้ มิให้ใช้บังคับกับรถฉุกเฉินทางการแพทย์ หรือรถที่ได้รับอนุญาตจากหัวหน้าเจ้าพนักงานจราจร หรือเจ้าพนักงานจราจร..
