ตรัง-เศรษฐกิจแย่กระทบหนักร้านค้า สถานประกอบการกลางคืน ลูกค้าลดลง 40%
โดยที่ร้านสังข์ ข้าวต้ม ถนนวิเศษกุล ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง นางสาวณัฐนพิน ลิ่มเส้ง เจ้าของร้าน บอกว่า ตอนนี้ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา16.00 น. – 23.00 น. เดิมคนจะคึกคักตั้งแต่ร้านเปิด ไปจนถึงประมาณเที่ยงคืนถึงตี 1 แต่นับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา บรรยากาศค่อนข้างจะเงียบเหงาประมาณ 1-2 ทุ่ม ถนนหนทางก็จะเงียบ เพราะไม่มีคน ร้านอื่นๆก็สภาพเช่นเดียวกันทุกร้าน ลูกค้าหายไปประมาณร้อยละ 40 -50 เพราะเศรษฐกิจไม่ดี จากการสอบถามลูกค้า ทราบว่าข้าวของราคาแพง วัตถุดิบราคาสูง ทำกินในครัวเรือนประหยัดกว่าการออกมาทานนอกบ้าน ร้านค้าจึงกระทบหนัก ขณะที่วัตถุดิบอาหารสด อาหารทะเล พืชผัก เครื่องปรุงราคาแพง ต้นทุนสูงขึ้นมาก ขณะที่ก๊าซซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญในการทำอาหาร มีการปรับราคาขึ้นแล้วตั้งแต่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา ถังละ 15 บาท ขณะที่ราคาอาหารปรับขึ้นไม่ได้ กลัวจะยิ่งกระทบลูกค้า ทั้งนี้ หากรัฐขึ้นค่าแรงอีก พนักงานก็คงต้องสลับกันหยุด เพราะทำทุกวันเหมือนเดิมคงสู้ไม่ไหว รัฐควรเร่งหาทางลดราคาสินค้าวัตถุดิบช่วยปชช. ร้านอาหาร
เช่นเดียวกับร้าน DEED CLUB สถานบันเทิงชื่อดังในจ.ตรัง นายประสิทธิ สำนักเหยา ผู้ประกอบการ บอกว่า ปัญหาเศรษฐกิจ ข้าวของสินค้า วัตถุดิบราคาแพง ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่ทั้งประชาชนทั่วไป และร้านอาหาร สถานบันเทิง ประชาชนปรับตัวประหยัดออกเที่ยวนอกบ้านน้อยลง ขณะที่ร้านอาหาร สถานประกอบการต้นทุนสูง แต่ปรับราคาขึ้นไม่ได้ โดยเฉพาะสถานบันเทิงนั้น คนจะมาเที่ยวตอนกลางดึกหลังจากทานอาหารแล้ว จะประหยัดสั่งเฉพาะเครื่องดื่ม อาหารเล็กน้อย และมีเวลาขายน้อย ช่วงเวลาประมาณเที่ยงคืนถึงตี 2 พอตี 1 คนก็หยุดสั่ง ถ้ามีคอนเสิร์ตโต๊ะก็ขายได้น้อยปัญหาเหมือนกันทุกร้าน ขณะที่ในพื้นที่ภาคใต้ ช่วงนี้เป็นช่วงฤดูฝน เศรษฐกิจสำคัญขึ้นกับยางพารา ก็กรีดไม่ได้ คนไม่มีกำลังซื้อ นักท่องเที่ยวน้อย รัฐบาลควรมีมาตรการลดราคาสินค้า ลดค่าครองชีพประชาชน กระตุ้นการท่องเที่ยว และไม่เห็นด้วยแจกเงินดิจิทัลไม่ใช้แนวทางแก้ปัญหาที่ยั่งยืน ไม่เห็นด้วยปรับขึ้นค่าแรง เพราะขณะนี้ทุกร้านก็หนักอยู่แล้ว ของตนเองมีพนักงาน 150 คน ตอนนี้พยายามปรับรายจ่ายไม่จำเป็นออกเท่าที่จะทำได้ รวมทั้งขอความร่วมมือปรับฐานเงินเดือนพนักงาน 3 เดือน หากเศรษฐกิจดีขึ้นก็จะปรับคืนให้ พนักงานก็ช่วยกันเต็มที่ และในนามตัวแทนสถานบันเทิงทั่วประเทศ ขอทวงถามผลสรุปนโยบายรัฐบาลนำร่องสถานบริการเปิดถึงตี 4 จำนวน 5 แห่ง (กรุงเทพมหานคร, ภูเก็ต, ชลบุรี,เชียงใหม่ และอ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี) เพื่อกระตุ้นการขาย กระตุ้นท่องเที่ยวและเศรษฐกิจ ผ่านมานานแล้ว ได้ผลเป็นอย่างไร ควรแจ้งผู้ประกอบการทราบ และอยากให้ขยายพื้นที่ ขยายเวลาเปิดถึงตี 4 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะขณะนี้สถานบริการ สถานบันเทิงทั่วประเทศย่ำแย่ตามกัน หลายแห่งทยอยลดวันเปิดบริการ เลิกจ้างพนักงานรายเดือนหันจ้างรายวันแทน บางแห่งลดเงินเดือนพนังงาน หลายแห่งเป็นร้านเล็กๆเงินทุนน้อยต่างทยอยปิด
