หนุ่มวัย 43 ปี ชาวบุรีรัมย์ ตัดสินใจเอาปืนปากกายิงตัวเองเสียชีวิตคาบ้านพัก แม่เผยลูกชายเคยเป็นช่างประจำศูนย์บริษัทขายรถยนต์ ไปไม่ไหวออกมาขายอาหารตามสั่ง ขายไม่ได้เพราะคนขายเยอะ หันมาขายแซนวิช ยังขายไม่ได้เพราะเศรษฐกิจไม่ดี หาทางออกไม่ได้จนป่วยซึมเศร้า สุดท้ายยิงขมับตัวเองตายคาบ้าน
วันที่ 7 ก.ค.67 เมื่อเวลา 13.00 น. ร.ต.อ บุญญสิทธิ์ บุญขาว รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กู้ชีพ อบต.สวายจีก มีคนถูกยิงเสียชีวิต จึงรายงาน พ.ต.อ จำรัส ศิริเลี้ยง ผกก.สภ.เมืองบุรีรัมย์ พร้อมชุดสืบสวนเข้าร่วมตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ในต.สวายจีก อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ดัดแปลงเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ภายในห้องนอนพบนายสุรศักดิ์ หรือไผ่ อายุ 43 ปี เจ้าของร้านนอนเสียชีวิต อยู่ภายในห้องนอน ในสภาพศพสวมเสื้อยึดสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีดำนอนหงายอยู่บนที่นอนเลือดไหลนองทั่วบริเวณ และยังพบอาวุธปืนปากกา ขนาด.38 หล่นอยู่ข้างตัว คาดเสียชีวิตมาประมาณ 10 ชม.ตรวจสอบไม่พบร่องรอยของการรื้อค้นภายในบ้าน พบเพียงขมับขวามีร่องรอยของกระสุนปืนเข้าที่ขมับขวากระสุนฝังใน
นายเสวย อาจทวีกุล อายุ 64 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ อบต.สวายจีก เล่าว่า ได้รับแจ้งมีคนหมดสติอยู่ภายในบ้าน หลังรับแจ้งได้เข้ามาตรวจสอบพบว่าห้องถูกล็อคแต่เรียกไม่ตอบจึงพังหน้าต่างเข้าไปพร้อมกับญาติเจ้าของบ้าน พบมีกองเลือดบนที่นอน และพบอาวุธปืนอยู่ข้างลำตัว จึงคิดว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบดังกล่าว
สอบถามนางสวัสดิ์ อายุ 65 ปี แม่คนเสียชีวิต เล่าว่าก่อนหน้านั้นลูกชายทำงานเป็นช่างซ่อมรถยนต์ที่ศูนย์บริการรถยนต์แห่งหนึ่งในตัวเมืองบุรีรัมย์ ทำงานกับศูนย์บริการแห่งนี้มาเกือบ 10 ปี
เมื่อประมาณ 2 ปี ที่ผ่านมาลูกชายได้ลาออกมาเปิดร้านอาหารตามสั่ง แต่ขายไม่ดีประสบปัญหาขาดทุนเพราะมีคนตกงานหันมาเปิดร้านอาหารประเภทนี้เป็นจำนวนมาก และล่าสุดประมาณ 1 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายหันมาขายแซนวิชคู่กับอาหารตามสั่ง โดยใช้วิธีชายหน้าร้านและทางออนไลน์ แต่ก็ยังขายไม่ได้ ทำให้ลูกชายมีอาการคล้ายคนเครียด ไปพบแพทย์ ระบุป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ที่ผ่านมาพยายามปลอบใจลูกชายว่า เราไม่มีภาระอะไรมากเพราะครอบครัวไม่มี แต่ไม่คิดว่าลูกชายจะมาคิดสั้นแบบนี้
