สำนักข่าว UtusanTv มาเลเซีย ได้ลงบทความที่น่าสนใจอีกประเด็นที่ถือว่าเป็นข่าวสำคัญขอคณะพูดคุยสันติสุข ในเรื่อง การแต่งตั้งอดีตผู้อํานวยการสภาความมั่นคงแห่งชาติ Datuk Mohd Rabin Basir เป็นผู้อํานวยความ สะดวกของรัฐบาลมาเลเซียคนใหม่ส-หรับกระบวนการพูดคุยสันติภาพจังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศ ไทยซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของมาเลเซียภายใต้การนําของ นายกรัฐมนตรี Datuk Seri Anwar Ibrahim ในการสร้างสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศ ไทย เป็นการแสดงให้เห็นว่า นายกรัฐมนตรี อันวาร์ มุ่งมั่นที่จะพิสูจน์ว่ามาเลเซียเป็นประเทศที่รักสันติภาพ
Mohd Rabin มีความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่เพื่อให้บรรลุความสําเร็จในการสร้างสันติภาพในพื้นที่ ดังกล่าว และตามที่ได้ระบุโดย ผู้อำนวยการสภามั่นคงแห่งชาติคนปัจจุบัน Datuk Raja Nurshirwan Zainal Abidin “รัฐบาลมีความมั่นใจอย่างมากในความสามารถของ Mohd Rabin ในการบรรลุภารกิจนี้อย่างดี มี ประสิทธิภาพ สามารถบรรลุผลในเชิงบวกและมีนัยสําคัญต่อกระบวนการสันติภาพที่กําลังดําเนินอยู่”
Raja Nurshirwan ยังหวังว่า Mohd Rabin จะมีบทบาทที่มีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์มากขึ้นใน การเร่งความพยายามในการสร้างสภาพแวดล้อมที่สงบสุขในภูมิภาคชายแดนใต้ของไทย
นั่นคือความหวังอันบริสุทธิ์ของมาเลเซีย แต่จะสําเร็จหรือไม่? การเปลี่ยนแปลงผู้อํานวยความ สะดวกนั้นจะรับประกันกระบวนการพูดสันติภาพให้ประสบความสําเร็จหรือไม่? Mohd Rabin จะสามารถ ทําให้ความฝันของรัฐบาลมาเลเซียที่ต้องการให้ความขัดแย้ง ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ ประเทศไทยเป็นเวลา 21 ปีจะสิ้นสุดลงได้หรือไม่?
ในแง่ของประสบการณ์ผู้เขียนไม่ได้ปฏิเสธความสามารถและประสบการของ Mohd Rabin ในการ ปฏิบัตหิ น้าที่ดังกล่าว นอกจากเคยดํารงเป็นผู้อํานวยการสภาความมั่นคงแห่งชาติแล้ว Mohd Rabin ยังเคย ดํารงตําแหน่งเป็นเจ้าหน้าที่พิเศษที่สถานทูตมาเลเซียที่ Sdyney, กงสุลที่ศาลใหญ่มาเลเซียในอินเดีย, เลขานุการคนที่สองของสถานทูตมาเลเซียในกัมพูชา และทําหน้าท่ีเป็นเลขานุการคนที่หนึ่งที่สถานทูตมาเลเซียในประเทศพม่า
ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าใครจะเป็นผู้อํานวยความสะดวกของมาเลเซีย เพราะแน่นอนว่าบุคคลที่ได้รับ การคัดเลือกมีความน่าเชื่อถือ มีความสามารถ และสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ แต่คําถามคือกระบวนการพูดคุย สันติภาพมีการเจรจากับฝ่ายที่ถูกต้องโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนหรือไม่?
ความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยเพื่อให้เกิดความสําเร็จของกระบวนการพูดคุยสันติภาพนั้นไม่มีข้อ สงสัยใด ๆ แต่มีประเด็นข้อถกเถียงเกี่ยวกับคณะพูดคุยแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติ BRN นั้น เป็นบุคคลที่มี ความสามารถและมีอํานาจอย่างแท้จริงในการยุติความขัดแย้งดังกล่าวหรือไม่?
เพราะจนถึงวันนี้ แม้ว่าจะมีการประชุมอย่างเป็นทางการถึง 7 ครั้ง และมีการประชุมทางเทคนิคถึง 11 ครั้งแล้ว แต่กระบวนการสันติภาพก็เหมือนถึงทางตัน อย่างที่ผู้คนพูดว่า “ปลายอุโมงค์ยังคงมืดมน” ซึ่งหมายความว่าหากเป็นความจริงที่คณะตัวแทน BRN ที่เข้าร่วมการประชุมเป็นตัวแทนของกลุ่มแบ่งแยก ดินแดนจริง คงจะไม่มีความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยเกิดขนึ้ อีกแน่นอน นี่เป็น เพราะการเจรจาเพื่อกระบวนการสันติภาพกําลังดําเนินอยู่ แต่น่าแปลกทุกครั้งที่มีเจรจาแล้วจะมีการโจมตี ด้วยระเบิดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยตลอดมา
หากเป็นความจริงคณะตัวแทนพูดคุย BRN มีอํานาจและมีอิทธิพลแน่นอนว่าการก่อเหตรุนแรงที่ทํา ให้ประชากรมุสลิมกลายเป็นเหยื่อจะไม่เกิดขึ้น เหตุการณ์ก่อการร้ายพิสูจน์ให้เห็นว่าคณะผู้แทนพูดคุย BRN ไม่มีอํานาจอะไรเลย
ยังมีรายงานว่า มีความขัดแย้งภายในระหว่างปีกการเมืองและปีกการทหารใน BRN เอง ซึ่งมีรายงาน ด้วยว่าผู้ที่มาเจรจาเป็นปีกการเมืองในขณะที่ปีกการทหารไม่ได้ถูกนํามารวมกันโดยผู้นําบีอาร์เอ็น ด้วยเหตุนี้ ทุกครั้งที่มีการประชุมการโจมตีด้วยระเบิดยังคงเกิดขึ้น
ดังนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าความพยายามของมาเลเซียจะไม่สูญเปล่าหรือเสียเวลาในฐานะผู้อํานวยความ สะดวก Mohd Rabin ควรทบทวนว่ามีบุคคลที่มาเป็นตัวแทนของ BRN บนโต๊ะเจรจาที่สามารถตัดสินใจและ หยุดการก่อการร้ายได้หรือไม่
และ Mohd Rabin ยังสามารถตรวจสอบว่ามีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอื่น ๆ ที่ควรเข้าร่วมในการเจรจา สันติภาพหรือไม่
มันน่าเบื่อถ้ามีการประชุมหลายครั้ง มีผู้อํานวยความสะดวกกี่คนมีการเปลี่ยนแปลง แต่พื้นที่จังหวัด ชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยก็ไม่สงบสุขเช่นกัน ในทางกลับกันทุกวันมีเหตุการณ์ความรุนแรงและกล่าว กันว่าเป็นผลมาจากการกระทําของ BRN
สถานการณ์ดังกล่าวเป็นเครื่องเตือนใจว่า เมื่อมีการการเปลี่ยนผู้อํานวยความสะดวกคนใหม่ แต่คณะ ผู้แทนฝ่ายแบ่งแยกดินแดนได้พิสูจน์แล้วว่าสร้างประโยชน์ใด ๆ ต่อการเจรจาสันติภาพ
ในเมื่อมีเรื่องที่พูดถึงเกี่ยวข้องกับการการลดเหตุการณ์การก่อการร้ายการปรึกษาหารือสาธารณะและ การแก้ปัญหาทางการเมือง ไม่สามารถบรรลุฉันทามติใด ๆเนื่องจากเหตุผลของคณะพูดคุย BRN ที่อยู่ในที่ ประชุมจะต้องอ้างถึง “ผู้มีอํานาจสูงสุด” ก่อน ดังนั้นมีจําเป็นอะไรที่ BRN เป็นตัวแทนคณะพูดคุยฯ ถ้า เพียงแต่เพื่อดื่มกาแฟในโรงแรมห้าดาวและเพลิดเพลินกับการปฏิบัติพิเศษในฐานะตัวแทนของฝ่ายแบ่งแยก ดินแดนเท่านั้น
ถ้ามีอํานาจก็คงจะลงมติที่โต๊ะเจรจา และไม่จําเป็นต้องประชุมกันหลังประชุม แต่สุดท้ายก็เสียเวลา เสียพลัง และเงิน จนมีคําว่า “BRN ต้องการเอกราช เราคือคนที่เสียเงิน”
ในฐานะเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ใน สมช. มาเลเซีย Mohd Rabin เข้าใจดีว่าค่าใช้จ่ายในการดําเนิน กระบวนการพุดคุยสันติภาพดังกล่าวสูงเพียงใด หากนํามาซึ่งผลลัพธ์ก็ไม่มีปัญหา แต่จนถึงขณะนี้ความ จริงจังของไทยและความมุ่งมั่นของมาเลเซียในการนําสันติภาพมาสู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ ประเทศไทยดูเหมือนจะถูกเล่นโดยBRN โดยเจตนาแอปแฝง
ดังนั้นจึงเป็นการสมควรที่ Mohd Rabin ได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ ในรัฐบาล มาเลเซีย เพื่อตรวจสอบคุณสมบัติของคณะพูดคุยฯ BRN ในการประชุมกระบวนพูดคุยการสันติภาพ อย่า ประนีประนอมอีกต่อไป ในเรื่องของการกําหนดสมาชิกของคณะกรรมการที่คู่ควรที่จะเป็นตัวแทนของฝ่าย แบ่งแยกดินแดน ไม่มีประโยชน์ในการเปลี่ยนผู้อํานวยความสะดวกหากผลลัพธ์เหมือนกันเนื่องจากการเจรจากับฝ่ายที่ไม่ถูกต้อง..
https://utusantv.com/2024/07/06/fasilitator-bertukar-tapi-panel-brn-tak-berubah-rundingan-damai-tetap-gagal/?swcfpc=1
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: