สงขลา-สะเดา ผู้ใหญ่บ้านและสารวัตรกำนันพร้อมด้วยตัวแทนชาวบ้าน จำนวนกว่า 200 คน ในพื้นที่ 3 ตำบล 15 หมู่บ้าน อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา ได้เดินทางมายื่นหนังสือพร้อมรายชื่อชาวบ้าน ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้ดำเนินการย้ายนายอำเภอคลองหอยโข่ง ออกจากพื้นที่ ปมนิ่งเฉยชาวบ้านเดือดร้อนเรื่องขยะ
10 ก.ค.2567 จากกรณีผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากตัวแทนชาวบ้านรวม 3 ตำบล 15 หมู่บ้าน ของอำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา เนื่องจากมีบริษัทเอกชนเข้ามาใช้พื้นที่อำเภอคลองหอยโข่ง เป็นจุดทิ้งกองขยะของอำเภอหาดใหญ่ วันละ 250 ตัน
โดยบริษัทเอกชนได้ใช้ถนนเส้นเลียบคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย หรือคลองชลประทาน ของตำบลทุ่งลาน ตำบลโคกม่วงและตำบลคลองหอยโข่ง เพื่อบรรทุกขยะนำไปทิ้ง ซึ่งระหว่างทางบรรทุกขยะไปทิ้งนั้น มีน้ำจากขยะไหลลงพื้นถนน หลังมีการนำขยะไปทิ้งแล้ว ก็ได้มีรถบรรทุกน้ำมาฉีดคราบน้ำ และสิ่งปฏิกูล ทำให้น้ำที่ฉีดบนพื้นถนนไหลลงคลองส่งน้ำทุกวันเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว ทำให้การผลิตน้ำประปาและน้ำดื่ม ที่จะส่งให้กับชาวบ้านเกิดการเหม็นเน่าขึ้นจนไม่สามารถผลิตให้กับชาวบ้าน จนได้รับความเดือดร้อนขยายเป็นวงกว้าง
ชาวบ้านในพื้นที่ กำนันและผู้ใหญ่บ้านทั้งหมด 15 หมู่บ้าน ได้เข้าร้องเรียนกับทาง อบต.คลองหอยโข่ง และนายอำเภอคลองหอยโข่ง เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นถึง 4 ครั้ง แต่ปรากฎว่าทั้ง 2 หน่วยงาน กลับนิ่งเฉย และยังมีการไล่กำนันออกจากห้องประชุมอย่างไม่สนใจใยดี จึงได้มีการร้องทุกข์มายังผู้สื่อข่าวช่วยเป็นสื่อกลาง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ 3 ตำบล 15 หมู่บ้าน อำเภอคลองหอยโข่ง จังหวัดสงขลา จำนวนกว่า 200 คน ได้เดินทางมายื่นหนังสือและรายชื่อชาวบ้านต่อผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้ดำเนินการย้าย นายธีระยุทธ นาวีเดล นายอำเภอคลองหอยโข่ง ออกจากพื้นที่เนื่องจากกลุ่มกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทนพฤติกรรมไม่ไหว อีกทั้งยังไม่มีการแก้ปัญหาให้กับชาวบ้านแต่อย่างใด โดยเฉพาะปัญหารถเก็บขยะที่สร้างผลกระทบอย่างหนัก
ซึ่งชาวบ้านได้ถือป้ายไวนิลที่มีการเขียนประโยคต่างๆเช่น ร่วมกันปกป้องสิ่งแวดล้อม , ไม่เอา ไม่เอา หยะ หาดใหญ่ ,ชาวอำเภอคลองหอยโข่งขอเปลี่ยนนายอำเภอ เป็นต้น มีนายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดสงขลา เป็นตัวแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา รับหนังสือร้องเรียนพร้อมกับนายรุ่งโรจน์ และสุบ ผอ.ศูนย์ดำรงค์ธรรมจังหวัดสงขลาร่วมรับหนังสือร้องเรียน
ทางด้าน นายชัยกร สุวรรณรงค์ สารวัตรกำนัน เปิดเผยว่าวันนี้เป็นกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะหมู่ 3 หมู่ 4 เป็นพื้นที่ที่รถเก็บขยะวิ่งผ่านและเมื่อซักครู่ก่อนที่จะมาศาลากลาง ก็ได้รับทราบข่าวว่ามีปลาในคลองส่งน้ำตายเป็นจำนวนมากอีก
จริงๆแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ตั้งแต่คณะกรรมการแก้ไขขยะอนุญาตจังหวัดสงขลาให้ทางเทศบาลนครหาดใหญ่นำขยะไปทิ้งที่คลองหอยโข่ง ปัญหาต่างๆที่ตนได้ไปคุยทั้งเวทีเล็กเวทีใหญ่กับหน่วยงานไปแล้ว เหมือนกับหน่วยงานกอดปัญหาไว้เท่านั้นไม่เห็นมีการแก้ปัญหาอะไร ที่เป็นรูปธรรมให้ชาวบ้านเชื่อถือได้ ในช่วงที่เกิดปัญหาขึ้นช่วงแรกๆชาวบ้านได้ปิดถนนหน้าวัดเลียบ เพื่อไม่ให้รถเก็บขยะผ่านเนื่องจากชาวบ้านได้รับปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นเน่าและสิ่งปฎิกูล
ต่อมานายอำเภอคลองหอยโข่งได้มาประชุมวันที่ 13 มิถุนายน ที่จังหวัด และวันที่ 14 มิถุนายน ในกลุ่มไลน์กำนันผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอคลองหอยโข่งได้เข้ามาข่มขู่ใช้ข้อความต่างๆตรงตัวกับตนเอง โดยบอกว่าให้สารวัตรกำนันลาออกไปเลย สาเหตุทำตัวไม่เหมาะสม
ซึ่งตนเองรู้สึกไม่ประทับใจเพราะว่าตนเองทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชาวบ้าน แต่ผู้บังคับบัญชาไม่ได้มองปัญหาที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบมานั่งหาวิธีแก้ปัญหา แต่มาใช้วุฒิภาวะที่ต่ำในการใช้ถ้อยคำข่มขู่บอกให้กำนันผู้ใหญ่บ้านลาออกไม่ต่ำกว่า 20 ครั้ง
และยังมีการท้าชกต่อยกับตนเองโดยบอกว่าต่อให้ 2 ยก ส่วนตนก็นิ่งไม่ได้ตอบโต้อะไรอีกทั้งยังมีการใช้ถ้อยคำต่อตนว่า สารวัตรกำนันคลองหลาเบล่อเพ (แปลว่า ไม่ได้เรื่อง ไม่เอาไหน) ซึ่งคำพูดต่างๆที่นายอำเภอใช้นั้นทำลายความรู้สึก เหยียดหยามเกียรติการทำหน้าที่ของตน
ตนจึงได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดใหญ่ ท่านปลัดกระทรวงหมาดไทย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและท่านปลัดจังหวัดสงขลา ทั้งหมด 4 ฉบับ 4 หน่วยงานหลักที่เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง เพื่อให้เข้ามาสอบดูว่าพฤติกรรมแบบนี้ว่าเหมาะที่จะมาเป็นผู้บังคับบัญชาในตำแหน่ง นายอำเภอ หรือไม่
ซึ่งในการคัดเลือกบุคคลที่จะเข้าดำรงตำแหน่งนายอำเภอคลองหอยโข่ง ตนขอซักทีเถอะอย่ามาดำรงค์ตำแหน่งเพื่อรอเกษียณ มาเพื่อให้ประโยชน์กับประชาชนและมาเป็นผู้บังคับบัญชาที่ดีของทุกฝ่ายในพื้นที่คลองหอยโข่งซึ่งหน้าที่หลักเค้าให้เข้าบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับทุกฝ่ายก็ขอฝากไว้ด้วยครับ
ส่วนนายสุรินทร์ สุริยะวงศ์ ปลัดจังหวัดสงขลา บอกว่าทางจังหวัดสงขลาอยู่ระหว่างการตรวจสอบ ส่งเรื่องไปกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้พิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไร ประมาณ 7วัน ถึงจะทราบเรื่อง
ทำให้สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทั้งหมดต่างพอใจพร้อมกับพูดทิ้งท้ายว่า ‘หลังจากนี้อีก 1 สัปดาห์ หากไม่มีความคืบหน้า สารวัตรกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านทั้งหมดจะเดินทางมาที่ศาลากลางอีกครั้ง’ ก่อนที่ทั้งหมดจะเดินทางกลับ
