เปิดเรื่องราวชีวิตครอบครัวสุดรันทด ลูกชายพิการติดเตียง พ่อเพิ่งป่วยเส้นเลือดในสมองตีบ ไม่สามารถทำงานได้ มีเพียงแม่คนเดียวที่ต้องรับภาระดูแล 2 ชีวิตและไม่สามารถออกไปทำงานหารายได้เข้าบ้านได้ ต้องอาศัยข้าวจากพระที่ออกไปบิณฑบาต มาประทังความหิวบางวันก็ไม่ได้รับหากญาติโยมใส่บาตรน้อย และมีเพียงเงินผู้พิการมาเยียวยาซื้อเครื่องใช้ให้ลูกชายไม่พอจ่ายค่าน้ำไฟ รายเดือน
ข่าวน่าสนใจ:
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวแจ้งการประสานงานขอความช่วยเหลือว่าในพื้นที่อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม มีครอบครัว 3 ชีวิต ซึ่งลูกชายมีความพิการมาแต่กำเนิด ส่วนพ่อเพิ่งป่วยเส้นเลือดในสมองตีบไม่สามารถออกไปทำงานได้ เหลือแม่เพียงคนเดียวที่จะคอยช่วยดูแลลูกชายและสามี โดยมีรายได้จากประกันสังคมในส่วนของผู้พิการและรับเบี้ยคนชรา มาใช้จ่ายซื้อผ้าอ้อม ส่วนอาหารได้จากพระที่ให้จากการออกบิณฑบาต ประทังชีวิตไปวันต่อวัน
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้จึงได้เดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าวและได้พบกับนายวิทชัย หรือนายลี สีเขียว อายุ 57ปี 120 ม.6 ต.บางเลน อ.บางเลน จ.นครปฐมและนางยุพิน กล้วยป่า อายุ 56 ปี ภรรยา และนายนคร พุทธดิสสร อายุ 31 ปี ผู้พิการป่วยติดเตียงด้วยอาการพิการทางสมองมากว่า 31 ปี ซึ่งนางยุพินผู้เป็นแม่ต้องคอยดูแลป้อนข้าว ป้อนน้ำ เช็ดถูทำความสะอาดให้ทั้งเวลาถ่ายหนักและถ่ายเบาป้อนยา อาหารให้ทุกวัน อีกทั้งต้องคอยดูแลสามีที่ป่วยอีกคนด้วยอาการเส้นเลือดในสมองตีบตันต้องไปพบหมอทุกๆ 3 เดือน โดยนางยุพินสามารถออกไปทำงานที่ไหนได้ เนื่องจากมีภาระต้องคอยดูแลทั้ง 2 ชีวิตที่มีอาการป่วย
นางยุพิน บอกว่า ตอนนี้ชีวิตลำบากมากนับว่าเป็นทางตันของชีวิตเลยไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครทุกวันนี้ข้าวก็ไม่มีกินต้องขอข้าวพระที่วัดมากินประทังชีวิตไปวันๆ บางวันถ้าพระท่านไม่เหลือให้ก็ไม่มีกิน ส่วนข้าวสารอาหารแห้งก็ไม่มีเครื่องใช้อุปโภคบริโภคก็ไม่มี ส่วนผ้าอ้อม(แพมเพิร์ส) ก็ต้องไปหามาให้ใส่ให้ลูกชายที่ป่วยพิการติดเตียงอยู่เนื่องจากใช้ชีวิตด้วยท่านั่งไม่ได้จะต้องนอนคว่ำอย่างเดียวเหมือนเด็กทารกที่เกิดมาใหม่ ตนเองวอนผู้ใจบุญที่จะช่วยเหลือแบ่งเบาภาระให้ได้บ้าง ต้องนี้ก็ต้องเลี้ยงหลานอีกหนึ่งคนเพราะพ่อแม่แยกทางกันและหลานก็เรียนหนังสืออยู่อีกด้วย
ส่วนนายวิทชัย หรือลี บอกอีกว่าทุกวันนี้ตนเองป่วยเป็นเส้นเลือดสมองตีบ ไม่สามารถทำงานหาเงินส่งเสียให้ครอบครัวได้ ส่วนหลานที่กำลังเเรียนหนังสือก็ไม่มีเงินที่จะส่งเสียให้ได้เล่าเรียนทุกวันนี้ได้เงินจากประกันสังคมเดือนละ 3,600 บาทมาหล่อเลี้ยงครอบครัว 4 ชีวิต โดยรายได้ก็ไม่พอจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าข้าวสาร ค่ากับข้าวบางวันไม่มีข้าวจะกินต้องนอนอดข้าวทนต่อความหิวได้ยินฟังเสียงกระเพาะร้อง ทุกวันนี้ครอบครัวลำบากมากหากตนเองตายไปภรรยาและลูกหลานจะอยู่กันอย่างไรเพราะถ้าตนเองตายไปเงินประกันสังคมที่รับทุกเดือน เดือนละ 3,600 บาทก็จะหายไปด้วย จึงขอวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือครอบครัวของตนเองได้
” ทุกวันนี้ผมและคนในครอบครัวได้มีข้าวกินก็ได้รับจากพระที่อยู่วัดชุมนุมศรัทธา ที่ท่านเมตตามอบข้าวและอาหารที่ท่านออกบิณฑบาท บางวันท่านได้มาน้อยไม่พอเราก็อดกินวันนั้นไป ซึ่งเมื่อตอนที่ผมสุขภาพดีแข็งแรงก็จะไปช่วยวัดอยู่เป็นประจำและช่วยชาวบ้านช่วยคนแก่ชราอยู่เป็นประจำ แต่ก็ไม่คิดว่าภาพนั้นจะมาเกิดกับตนเองก็และครอบครัว ถ้าตัวผมจะเป็นอะไรไปก่อนครอบครัวจะลำบากขนาดไหนเพราะไม่มีเงินใช้จ่ายงานก็ทำไม่ไหวและวอนผู้ใจบุญเมตตาสงสารช่วยเหลือครอบครัวผมด้วยจะเป็นข้าวสารอาหารแห้งหรืออะไรก็ได้ที่แบ่งเบาภาระครอบครัวตนเองด้วยหรือโทรสอบถามได้
สำหรับ ผู้ที่ประสงค์จะเข้าตรวจสอบข้อมูลสามารถโทรสอบถาม ที่หมายเลย 081-1986324 (นายลี)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: