10 ก.ค 2567 เวลา 10.00น.ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านดอนกลาง หมู่ที่ 6 ต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เพื่อติดตามกรณีฟาร์มหมูในระแวกใกล้บ้านส่งกลิ่นเหม็นรบกวนมานานนับปีจนทนไม่ไหว จนชาวบ้านได้มีการรวมตัวร้องเรียนตามที่เคยเป็นเสนอข่าวเมื่อ ต้นกุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมาแล้วนั้น
ล่าสุดนางสาวนางกฤษณา ภูดอนนา อายุ 34 ปี ตัวแทนและแกนนำของชาวบ้านผู้ได้รับกระทบจากการเลี้ยงสุกร อาชีพค้าขายและเปิดร้านค้าขายของเบ็ดเตล็ด อยู่ระหว่างตรงกลางพื้นที่ของฟาร์มหมูทั้ง 2 แห่ง หลังจากที่เคยร้องเรียนขอความช่วยเหลือจาก อบต.หนองแวง อ.บ้านแพง จ.นครพนม เพื่อหาทางออกจากผลกระทบและความเดือดร้อนร่วมกัน ของปัญหาฟาร์มเลี้ยง จากภาพมุมสูงพบว่า ฟาร์มเลี้ยงสุกรทั้งสองตั้งอยู่ท่ามกลางชุมชนตามที่ร้องเรียน แม้ทางฟาร์มกล่าวอ้างว่าชุมชนได้ย้ายเข้ามาในภายหลังก็ตาม แต่ทางวัดและชาวบ้านหลายหลังคาเรือนต่างยืนยันอยู่มาก่อนที่ทางฟาร์มดัดแปลงคอกวัวาเลี้ยงสุกรด้วยเช่นกัน
ทุกวันนี้ชุมชนยังประสบปัญหาจากกลิ่นเหม็นจากการเลี้ยวสุกรและแมลงวันสร้างที่ไม่ได้มาตราฐานสร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนและผู้สัญจรไปมา ทำให้ชาวบ้านบางคนเกิดภูมิแพ้มีอาการหอบหืดป่วยเป็นโรคทางเดินหายใจ โดยเบื้องต้นชาวบ้านต้องการให้ฟาร์มเลี้ยงสุกรยุติการเลี้ยงดังกล่าวกลางชุมชน อีกทั้งมีการดัดแปลงคอกเลี้ยงวัวมาเลี้ยงสุกรที่ไม่มีมาตรฐาน ซึ่งการพูดคุยเจรจาในครั้งนั้น ทางเจ้าของฟาร์มทั้งสองแห่งต่างรับปากยินยอมกับชาวบ้านหน่วยงานท้องถิ่นขณะนั้น จะเร่งทำการแก้ไขระบบน้ำเสียและดับกลิ่นจากการเลี้ยงไม่ให้กระทบกับชาวบ้านในชุมชน โดยตกลงให้เวลาแก้ไขหรือย้ายฟาร์มเลี้ยงออกนอกพื้นที่ชุมชนภายใน 4 เดือน แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาปัญหาดังกล่าวไม่ได้รับการแก้ไขใดๆจากฟาร์มเลี้ยงสุกร โดยช่วงหน้าฝนกลิ่นทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- สอ.สามัญศึกษาเพชรบูรณ์ประชุมใหญ่ โชว์กำไร 52 ล้าน พร้อมเลือกตั้งกรรมการและผู้ตรวจสอบกิจการ
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
- พิธีเปิดนิทรรศการฟอสซิลช้างดึกดำบรรพ์และสัตว์ร่วมยุคในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
นางกฤษณา ภูดอนนา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว ที่ผ่านมาตนได้เข้าสอบถามถึงปัญหาความคืบหน้าต่อหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่ระดับ อบต.ถึงระดับอำเภอ เนื่องจากปัญหากลิ่นและแมลงวันไม่ได้ลดลง โดยทาง อบต.หนองแวง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบโดยตรง อ้างว่าได้ทำหนังสือขอเครื่องมือมาวัดระดับของกลิ่นไปยัง สำนักงานทรัพยาการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครพนมแล้ว กระทั่งเวลาล่วงเลยมาหลายเดือน จึงเดินทางไปสอบถามความคืบหน้าด้วยตนเองจึงทราบว่า ทาง อบต.หนองแวง ยังไม่เคยมีหนังสือยื่นใดๆไปยัง สนง.ทรัพยาการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทำให้ตนและชาวชุมชนทราบว่าไม่ได้การเหลียวแลและช่วยเหลือจากทางหน่วยงานท้องถิ่นและรับผิดชอบโดยตรง จึงร้องขอให้ ทนายลูกฟูกและผู้สื่อข่าวเป็นสื่อกลางติดตามหาข้อเท็จจริงปัญหาของชาวบ้านต่อไป.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: