ฉะเชิงเทรา – ชาวบ้านรวมพลยกทัพ จ่อขับพลังงานจังหวัดแปดริ้ว อ้างถูกสอดใส้ทำโครงการโดยไม่ผ่านประชาคมรับฟังความคิดเห็นแบบเดียวกับชาวบ้าน ชิงนำเงินกองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้าบางปะกงไปทำโครงการอื่น ที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนในชุมชนหรือเกี่ยวกับการพัฒนาในพื้นที่ผู้ได้รับผลกระทบในรัศมี 5 กม.
วันที่ 19 ก.ค.67 เวลา 09.50 น. ที่บริเวณศาลาจตุรมุข (ศาลาไทย) หน้าศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านจากในพื้นที่ อ.บางปะกง จำนวนกว่า 100 คน ได้เดินทางมารวมตัวชูแผ่นป้ายกระดาษ เขียนข้อความต่อว่าหน่วยงานราชการและพลังงานจังหวัดฉะเชิงเทรา ทั้งยังมีการปราศรัยต่อว่าในเชิงประชดประชัน ซึ่งข้อความบนแผ่นป้ายประกอบ “ขอหมูแต่ได้หมา จากกองทุนโรงไฟฟ้า” ส่วนราชการไม่ใช่เทวดาที่ไม่ต้องทำประชาคมเพื่อขอใช้เงินกองทุนแบบเดียวกันกับชาวบ้าน
ข่าวน่าสนใจ:
- ปราจีนบุรี ชมรมจักรยานเพื่อสุขภาพ ปั่นปันน้ำใจ ฉะเชิงเทรา-หนองคาย
- ค่ายรถยนต์ ผุดบูธเพิ่มช่องทางปั๊มยอดช่วงปลายปี หลังตลาดยังซบยาวต่อเนื่อง
- จนมุมเพราะไก่ชน!! ตำรวจบางละมุงวางแผนเหนือเมฆ หลอกแก๊งค์ค้ายานรกมาซื้อไก่ชน ก่อนตามรวบยกแก๊งค์ ยึดยาบ้าแสนเม็ด - ไอซ์ 1 กก. พร้อมรถ 2 คัน…
- สจ.ธรรมชาติ ไม่มาศาลฉะเชิงทรา ส่งสองทนายคู่หูยื่นฟ้องอัจฉริยะแทน
กองทุนพัฒนาไฟฟ้าเพื่อชาวประชาหรือเพื่อใคร เงินกองทุนไฟฟ้ามาจากภาษีชาวบ้านแต่ไม่อยากให้ชาวบ้านได้ใช้ ทั้งยังปราศรัยระบุว่า เงินกองทุนที่ถูกเก็บมาจากชาวบ้านทั้งค่า FT ทั้งภาษีที่ถูกบวกเพิ่ม แต่จะนำเงินไปใช้ตามอำเภอใจ ต่อไปอาจไม่ต้องมีกองทุนพัฒนาโดยรอบโรงฟ้า เพราะชาวประชาไม่ได้ใช้ โดยขอให้ทำเป็นโครงการเยียวยาลดค่าไฟฟ้าให้แก่ปราชาชนผู้อยู่โดยรอบโรงไฟฟ้า ในรัศมี 5 กม.แทน
สอบถาม นายนพพร ทองคำ อายุ 57 ปี อยู่บ้านเลขที่ 41 ม.15 ต.บางปะกง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า วันนี้ชาวบ้านได้เดินทางมารวมตัวกัน พร้อมสอบถามไปยังทางสำนักงานพลังงานจังหวัดฉะเชิงเทรา เกี่ยวกับกรณีเรื่องการแอบสอดไส้โครงการที่จะนำเงินจากกองทุนพัฒนารอบโรงไฟฟ้าบางปะกง ที่มีการจัดสรรแบ่งมาให้ผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยรอบพื้นที่ในรัศมี 5 กม. ได้นำไปใช้ทำโครงการพัฒนาพื้นที่และยกระดับคุณภาพชีวิต
แต่ทางพลังงานจังหวัดกลับได้มีการเตรียมโครงการที่ไม่เกี่ยวข้องกับคนในพื้นที่เข้ามสอดแทรก เพื่อใช้เงินจากงบพัฒนาพื้นที่กองทุนรอบโรงไฟฟ้า ซึ่งมีประมาณปีละกว่า 100 ล้านบาท โดยที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการขอนำเงินไปใช้เช่นเดียวกับชาวบ้าน ที่ชาวบ้านในแต่ละชุมชน หมู่บ้านนั้น จะต้องทำการประชุม ทำประชาคมหมู่บ้าน เพื่อรับฟังเสียงข้างมากและความต้องการของชุมชนก่อนจึงจะทำโครงการเพื่อใช้เงินจากกองทุนรอบโรงไฟฟ้า
ซึ่งต้องมีขั้นตอนและต้องใช้ระยะเวลาที่ยาวนาน กว่าจะได้เป็นมติเสียงของประชาชนในชุมชนออกมา เพื่อเสนอขอใช้เงินจากกองทุนรอบโรงไฟฟ้า ก่อนนำเงินมาใช้ทำโครงการตามที่ชาวบ้านต้องการอย่างแท้จริง แต่ทางพลังงานจังหวัด กลับจะนำเอาเงินตรงส่วนนี้ ไปดำเนินโครงการอื่นนอกเหนือจากชุมชนและไม่เกี่ยวข้องอะไรกับคนในพื้นที่โดยรอบโรงไฟฟ้าในรัศมี 5 กิโลเมตรแต่อย่างใด นายนพพร กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: