X

สาวใต้ร้องถูกตำรวจจับจนได้รับบาดเจ็บและถูกตั้งข้อหากรรโชกทรัพย์

ราชบุรี    ในวันนี้( 19 ก.ค. 67) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนางสาวจุฑารัตน์  เพชรรักษ์  เจ้าของผู้ประกอบการขนส่งแห่งหนึ่งในภาคใต้  และนายชาติ   แก้วตาทิพย์   นักแสดงอิสระ  และเป็นที่ปรึกษา กก.ตร.จ.สมุทราปราการ  ว่าถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของตำรวจภูธรภาค 7 และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของกองกำกับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี  จับกุมที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในต.ดอนทราย  อ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี  พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์  แต่ช่วงขณะเข้าจับกุมนั้นถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้อาวุธปืนจี้ อีกทั้งพยายามยึดและกดให้หมอบลงกับพื้นก่อนจะใส่กุญแจมือ  ทำให้ร่างกายได้รับบาดเจ็บ และมีร่องรอยที่เกิดจากการกระของเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ซึ่งเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุโดยนำคลิปจากกล้องวงจรปิดที่เผยให้เห็นพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในหลายมุมมาให้เป็นหลักฐานด้วย  ซึ่งในเรื่องนี้ได้นำหลักฐานทั้งหมดเข้าร้องเรียนกับ พ.ต.อ.สายฟ้า  จิราวรรธนสกุล    รอง ผบก.ภ.จว.ราชบุรี  ด้วย

       โดยนางสาวจุฑารัตน์  เพชรรักษ์  เจ้าของผู้ประกอบการขนส่งแห่งหนึ่งในภาคใต้  ได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ที่ผ่านมาได้ไปขอเช่ารถบรรทุกสิบล้อกับผู้ประกอบการให้เช่ารถบรรทุกรายหนึ่งเพื่อนำมาวิ่งขนส่งสินค้าโดยทำสัญญาเช่า 3 ปี แต่เช่ามาได้เพียง 1 ปี ผู้ประกอบรถบรรทุกให้เช่าได้มาขอยกเลิกสัญญาเช่าและขอคืนรถ  โดยจะจ่ายค่าเสียหายให้กับตนเอง  เป็นเงิน 350,000 บาท ซึ่งก็มีการตกลงพร้อมกับทำหนังสือสัญญายกเลิกการเช่า  ซึ่งหนังสือดังกล่าวนั้นให้ทางทนายความเป็นผู้ทำหนังสือ  และในวันที่ 13 ก.ค.67  ที่ผ่านมาได้นัดคืนรถที่บริเวณปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุเนื่องจากรถที่เช่ามานั้นได้วิ่งส่งของในบริเวณดังกล่าว  ซึ่งในวันที่เกิดเหตุผู้ประกอบการรถบรรทุกเช่าก็มารับมอบรถคืนที่ปั๊มพร้อมทั้งขอจ่ายเงินสดจำนวน 200,000 บาท ให้ แต่ส่วนอีก 150,000 บาท นั้นตนให้ไปจ่ายเป็นค่ารถผ่อนรถเก๋งที่ซื้อในนามของผู้ประกอบการรถบรรทุกให้เช่าแต่ตนนั้นเป็นคนผ่อนค่ารถ  เนื่องจากทำธุรกิจกันมานานจึงเกิดความไว้ใจ โดยตนนั้นนัดให้นายชาติ   แก้วตาทิพย์   นักแสดงอิสระ  และเป็นที่ปรึกษา กก.ตร.จ.สมุทราปราการ  มาช่วยดูเรื่องของเอกสารที่ปั๊มด้วย   และเมื่อมาถึงที่ปั๊มก็มีการจ่ายเงิน 2 แสนบาท  และตนกำลังจะให้ทางผู้ประกอบการรถบรรทุกให้เช่าเซ็นต์เอกสารยกเลิกสัญญา  พร้อมทั้งกำลังนับเงินที่ได้รับมาบริเวณท้ายรถ     จู่ๆก็มีผู้ชาย 2 คนซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจ เข้ามาพยายามยึดและกอดรัดตนเองเพื่อใส่กุญแจมือและกดบังคับให้นั่งลง  ด้วยความตกใจคิดว่ามีโจรมาปล้นจึงได้ตะโกนเรียกนายชาติให้มาช่วย  ซึ่งนายชาติที่อยู่อีกฝั่งของปั๊มได้วิ่งเข้ามาจะช่วยแต่ก็ถูกตำรวจอีกหลายคนที่อยู่ในบริเวณนั้นล็อคตัวไว้  โดยมีตำรวจคนที่ยึดตนไว้นั้นใช้ปืนจ่อและห้ามไม่ให้นายชาติมาช่วย   พร้อมทั้งแจ้งข้อกล่าวหาว่าตนนั้นถูกจับในข้อหากรรโชกทรัพย์ ซึ่งขณะที่ตนถูกกระทำนั้นก็มีผู้ประกอบการรถบรรทุกและคนที่อ้างว่าเป็นทนายของเขายืนดูอยู่ด้วย  โดยไม่ได้เข้ามาช่วยเหลือแต่อย่างใด  จนมาทราบว่าเจ้าของรถบรรทุกนั้นเป็นคนแจ้งตำรวจมาจับ  ก่อนจะถูกพาตัวมาที่สภ.ปากท่อ  จ.ราชบุรี  และทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำจนเกือบสว่าง  ซึ่งตนก็นำหลักฐานและเอกสารทั้งหมดให้ทางพนักงานสอบสวนดูแล้ว   ส่วนที่ร่างกายนั้นมีบาดแผลฟกช้ำที่ขา  ที่ลำตัว และที่ข้อมือจากการถูกใส่กุญแจมืออย่างแน่นหนา  เหมือนเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญที่ก่อคดีใหญ่ๆ  หลังจากสอบปากคำเสร็จนายชาติ  ได้ทำเรื่องขอประกันตัวให้ในวงเงิน 70,000  บาท ก่อนจะไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อนำใบแพทย์มาใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความกลับกับตำรวจทั้งหมดซึ่งทราบว่ามี 15 คน และผู้ประกอบการให้เช่ารถบรรทุก  พร้อมกับทนายความ  ในข้อหา  ร่วมกันแจ้งความเท็จ  ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยว   ร่วมกันทำร้ายร่างกายและทรมานให้ได้รับอันตรายทั้งกายและจิตใจ   ปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และข้อหาอนาจารเพราะถูกจับตำรวจที่มาจับกุมจับหน้าอกและจับอวัยะเพศ  และจะดำเนินคดีทั้งหมดให้ถึงที่สุด  เพราะตนเองนั้นเป็นแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ถูกกระทำที่รุนแรงเกินเหตุ

   ส่วน นายชาติ   แก้วตาทิพย์   นักแสดงอิสระ  และเป็นที่ปรึกษา กก.ตร.จ.สมุทราปราการ  ก็บอกว่าตนเองนั้นแค่จะมาดูเรื่องเอกสารให้กับนางสาวจุฑารัตน์  ซึ่งนับถือกันเป็นพี่น้อง  แต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ปืนขู่จะยิงและยังทำร้ายร่างกายโดยการเตะสกัดขาให้ล้ม และใช้เท้าเหยียบหลายครั้งเพื่อให้ตนนั้นหมอบกับพื้น ก่อนจะใส่กุญแจมือ  พร้อมทั้งตั้งข้อกล่าวหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์  ซึ่งตนนั้นมีบาดแผลฟกช้ำหลายแห่งแต่เมื่อมีการสอบสวนแล้วพบว่าตนนั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้  ตำรวจก็ยอมไขกุญแจมือออกและปล่อยตัวไป  ซึ่งในเรื่องตนมองว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ทำเกินกว่าเหตุ  แค่ผู้หญิงคนเดียวถึงกับต้องใช้วิธีการจับกุมที่รุนแรงเกินไป  และเมื่อตนในฐานะพลเมืองดีจะเข้าไปช่วยก็ยังถูกทำร้ายร่างกายและถูกจับโดยไม่ได้สอบถามถึงเรื่องราวความเป็นมา  แต่พอรู้ข้อเท็จจริงก็รีบปล่อยตัว  ซึ่งเรื่องนี้ตนจะเดินหน้าร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้ทั้งหมด และจะไม่มีการยอมความเด็ดขาดเพราะไม่อยากให้ไปทำกับคนอื่นอีก

     นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายอีก 3 รายเดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.ปากท่อ  ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนี้ด้วยเพราะในช่วงที่เกิดเหตุยืนอยู่ที่รถบรรทุกสิบล้อที่จะนำมาคืนให้กับเจ้าของและเมื่อเห็นว่านางสาวจุฑารัตน์  และนายชาติ ถูกทำร้ายร่างกายก็จะเข้าไปช่วยแต่กลับถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คุมเชิงอยู่ด้านนอกล็อคตัวไว้ด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สายชล โอชะขจร

สายชล โอชะขจร

ผู้สื่อข่าวราชบุรี