วันที่ 21 ก.ค.67 พ.ต.ต.จำรัส ศรีหาตา สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งเหตุจากศูนย์วิทยุ 191 ว่า มีคนผูกคอตาย ที่บ้านดงสว่าง หมู่ 7 ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานแพทย์เวร รพ.นครพนม รุดไปตรวจสอบพร้อมรถกู้ชีพ อบต.บ้านผึ้ง ที่เกิดเหตุบ้านครึ่งปูนครึ่งไม้ติดพื้น ริมถนนสายดอนม่วง-โพนสวรรค์ พบร่างนายกฤษณะ หรือ จ๊อด อายุ 28 ปี ชาวบ้าน บ้านดงสว่าง ต.บ้านผึ้ง อ.เมือง จ.นครพนม ใช้เชือกไนล่อนสีแดง ยาวประมาณ 2 เมตร ผูกคอที่คานบริเวณห้องครัว ตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้าย สันนิษฐานว่าขาดอากาศหายใจนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงกู้ร่างลงมาชันสูตร สภาพบ้านผู้เสียชีวิตเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ผู้เสียชีวิตผูกคอตัวเองด้วยเชือกไนลอนสีส้มในห้องครัวไม่ใส่เสื้อ ใส่กางเกงวอร์ม
จากสอบถาม นางมลีแดง อายุ 56 ปี มารดาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปเรียก นายกฤษณะ ลูกชายเพื่อจะให้ไปเฝ้าปู่ซึ่งป่วย และรักษาตัวอยู่ รพ.นครพนม เรียกอยู่นานลูกไม่มีเสียงตอบ เอะใจจึงรีบปืนหน้าต่างเข้าไปดู ไม่พบตัวพบแต่ผ้าห่ม จึงรีบวิ่งไปที่ห้องครัว ก่อนพบร่างแขวนคาขื่อเสียชีวิตแล้วนางมลีแดง กล่าวยอมรับว่า ลูกชายเสพยาเสพติดนานหลายปี และเป็นผู้ป่วยจิตเวช ไม่ไปรับยามานาน 3 เดือน มักหูแว่วและมีอาการการหลอนยา คาดว่าอาจเป็นสาเหตุการเสียชีวิต หลังแพทย์ชันสูตรพลิกศพ ญาติไม่ติดใจสาเหตุการตาย จึงมอบร่างนายกฤษณะให้ญาติ เพื่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป
ด้าน นางฉวีวรรณ ขันธวิขัย กำนัน ต.บ้านผึ้ง กล่าวถึงยาเสพติดว่า ปัจจุบันซื้อง่าย ขายคล่องจากเมื่อก่อนเม็ดละ 300 บาท เดี๋ยวนี้เม็ดละ 20 บาท ผู้ปกครองให้เงินลูกไปซื้อขนมสิ่งที่ได้มาคือยาบ้า ราคามันถูก เรื่องกฎหมายอายุต่ำกว่ากฏหมายกำหนดไม่มีความผิด เข้าสถานพินิจไม่ติดคุกเหมือนผู้ใหญ่ ผู้ค้าจะรู้จึงเบนจุดเป้าหมายมาที่เด็ก ฝ่ายปกครองจะเป็นหน่วยงานอันดับหนึ่งที่เข้าถึงและเป็นที่พึ่งของชุมชนมากที่สุด จึงฝากผู้มีกฏหมายอยู่ในมือเอาจริงเอาจริงในเรื่องนี้
