กรุงเทพฯ – “เขายิงอยู่ในบ้าน” คำตอบที่ทำเอาอึ้ง เมื่อผู้สื่อข่าวถาม ผบก.น.9 เหตุใดจึงปล่อยให้ผู้ที่มีอาการป่วยทางจิต ครอบครองปืนได้ถึง 4 กระบอก และไม่ดำเนินคดี แม้นำออกมายิง
วันที่ 21 กรกฎาคม 2567 พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 (ผบก.น.9) ระบุว่า ยังไม่สามารถสรุปรายละเอียด เหตุสลด นายบุญมา หรือ เสี่ยตุ้ง อายุ 49 ปี เจ้าของโรงพิมพ์ ที่ทะเลาะกับคนในครอบครัวภายในบ้าน แต่สุดท้ายยิงตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม ที่เข้าระงับเหตุ เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย และยังทำร้ายลูกสาวตัวเองบาดเจ็บอีกคน ก่อนพบร่างเสี่ยตุ้ง ถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่ที่ชั้นลอยของบ้าน
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ พ.ต.ท.กิตติ์ชนม์ ได้เดินทางมาระงับเหตุด้วยตัวเอง พร้อม ด.ต.ไชยวัฒน์ อัตโสภณวัฒนา เมื่อถึงบ้าน พบผู้ก่อเหตุและลูก 2 คนอยู่ในบ้าน ญาติขอร้องให้ช่วย จึงพยายามเข้าไปภายในบ้าน เพื่อเข้าประกบตัวผู้ก่อเหตุ
แต่ระหว่างนั้น ลูกของผู้ก่อเหตุวิ่งสวนออกมาทางหน้าประตู ทำให้ตำรวจถูกกระสุนปืนยิงใส่ และไม่รู้ว่าผู้ก่อเหตุตั้งใจยิงหรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามว่า ผู้ก่อเหตุมีอาการป่วยทางจิต แต่เหตุใดจึงปล่อยให้ครอบครองอาวุธปืนได้ถึง 4 กระบอก และมักนำออกมายิงข่มขู่ สร้างความรำคาญและหวาดกลัว จนชาวบ้านใกล้เคียงต้องแจ้งตำรวจให้เข้ามาตรวจสอบ ผบก.น.9 กล่าวเพียงว่า ตำรวจเคยได้รับแจ้งเพียงครั้งเดียว เมื่อปีที่แล้ว ตามที่ได้รับรายงาน
ส่วนเหตุใดจึงไม่ดำเนินคดี ผบก.น.9 กล่าวว่า “เขายิงอยู่ในบ้าน” แต่ไม่ตอบถึงการปล่อยให้ครอบครองปืนถึง 4 กระบอก บอกเพียงว่า “ผมไม่ทราบ”
เมื่อถามว่า การเข้าระงับเหตุของ รอง ผกก.ทำไมถึงประเมินว่า เป็นการจับตัวประกัน ทั้งที่เป็นคนในครอบครัว จนอาจกลายเป็นการกดดันให้ผู้ก่อเหตุเครียดและกดดัน กระทั่งก่อเหตุหรือไม่ พล.ต.ต.ประสงค์ อานมณี ปฏิเสธตอบคำถาม พร้อมแสดงอารมณ์ฉุนเฉียว จ้องหน้าผู้สื่อข่าวที่สอบถามนิ่ง ก่อนกล่าวสั้น ๆ เพียงว่า “พอละ เอาเท่านี้” แล้วเดินหนีออกไปจากวงสัมภาษณ์
อ่านข่าวย้อนหลัง ได้ที่
