แม่บุกร้องศูนย์คุ้มครองสิทธิ์ฯร้อยเอ็ด ช่วย 2 พี่น้อง หลุดพ้นจากครอบครัวที่มีสิ่งแวดล้อมไม่ปลอดภัย
น.ส.ต่าย (นามสมมุติ) พร้อมญาติได้เดินทางไปที่ศูนน์ประสานงานคุ้มครองสิทธิ์ และช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน คณะกรรมการอัยการภาคประชาชนจังหวัร้อยเอ็ด เพื่อขอความช่วยเหลือ โดยมีนายชานนท์ ลิขิตบัณฑูร ประธานคณะกรรมการคุมครองสิทธิ์ภาคประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด และนายวรากร วิชระอนนท์ เลขาคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ ฯ ให้การต้อนรับ และสอบถามถึงสาเหตุที่มาร้องขอความช่วยเหลือ จากนั้นคณะกรรมการฯ ได้ประสานไปยัง พ.ต.ท.บุณถิ่น วันภักดี อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อมาร่วมรับทราบปัญหา และให้คำปรึกษาทางกฏหมาย น.ส.ต่าย บอกว่า ตนเองเป็นชาว อ.โพธิ์ชัย จ.ร้อยเอ็ด แต่งงานกับสามี มีลูก 2 คน ปัจจุบันคนเล็กเป็นชาย อายุ 10 ปี คนโตเป็นหญิง อายุ 16 ปี ภายหลังได้แยกทางกับสามี ตนเองต้องไปทำงานที่ต่างจังหวัด จำเป็นต้องฝากลูกทั้ง 2 คนให้อยู่ในความดูแลของพ่อ และน้องชาย
ล่าสุดทราบจากทางโรงเรียนว่า ลูกสาวตน ซึ่งกำลังเรียนชั้น ม.4 มีพฤติกรรมมักง่วงนอน และหลับในเวลาเรียน ทางคณะครูจึงออกไปเยี่ยมบ้านเพื่อทราบปัญหา พบว่ามีความเป็นอยู่ที่ไม่เหมาะสม ไม่มีความปลอดภัย เพราะมีข้อมูลว่าน้องชายตนเองที่ดูแลหลานมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เหม่อลอย บ้างครั้งอาละวาด ทำลายข้าวของ บางครั้งทำร้ายพ่อตนเอง อีกทั้งมีพฤติกรรมชอบแอบดูความเคลื่อนไหวของลูกสาวเวลาเข้าห้องน้ำ หรือเวลานอน จึงประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง อ.โพธิ์ชัยผู้บริหารท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อหาทางช่วยเหลือ นำบุคคลในครอบครัวไปตรวจหาสารเสพติด และเข้าสู่กระบวนการบำบัด ส่วนเด็กคณะกรรมการชุมชนห่วงเรื่องความปลอดภัย จึงประสานไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อช่วยนำตัวลูกกทั้ง 2 คนไปอยู่ในความดูแล หลังจากที่ลูกทั้ง 2 คนไปอยู่ในความดูแลของบ้านพักเด็กฯ ไม่คุ้นขินกับสถานที่เพราะต้องอยู่เพียงลำพังสองพี่น้อง จีงได้พยายามหาทางติดต่อให้แม่มารับออกไปอยู่ที่อื่น ตนทราบเรื่องก็ตกใจและสงสารลูกมาก เพราะพ่อของตนไม่บอก จึงโทรสอบถามเจ้าหน้าที่ว่าจะรับเด็กออกมาจากศูนย์อย่างไร เจ้าหน้าที่บอกว่ามีขั้นตอนและต้องมีเอกสาร หลักฐานหลายอย่างมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ สอบถามอย่างละเอียดและมั่นใจว่าเมื่อนำเด็กออกไปแล้วจะต้องไม่เกิดปัญหาตามมา ตนเกิดความไม่สบายใจ และได้รับคำแนะนำจากเพื่อนว่า ให้ไปปรึกษาและขอความช่วยเหลือ จากศูนย์ประสานงานคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ภาคประชาชนจังหวัดร้อนเอ็ด จึงเดินทางเข้ามายื่นความจำนงขอความช่วยเหลือ หลังจากทางศูนย์สอบถามและบันทึกข้อมูลความต้องการและตรวจสอบสิทธิ์ต่างๆเรียบร้อยแล้ว จึงพา น.ส.ต่าย(นามสมมุติ) เดินทางไปยังบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีนายสุนทรธรรม สาระโป นายก ทต.อัคคะคำ และพ่อของ (น.ส.ต่าย ) มาร่วมเป็นสักขีพยาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็ได้พาเด็กมาส่งเข้าสู่สู่อ้อมกอดของผู้เป็นแม่ สร้างความดีใจให้กับลูกๆเป็นอย่างมาก ก่อนที่จะยื่นเอกสารเพื่อขอรับลูกทั้ง 2 คนไปอยู่ในความดูแลที่ต่างจังหวัดด้วยพร้อมกล่าวขอบคุณท่านอัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิ์และคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิ์ภาคประชาชนจังหวัดร้อยเอ็ด ที่ช่วยคิดหาทางออกให้และช่วยเหลือเป็นอย่างดี
นายวัลลภ นาเมืองรักษ์ หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า เนื่องจากเราได้รับรายงานว่า พบครอบครัว ที่มีการเลี้ยงดูเด็กไม่เหมาะสม เราก็ให้เจ้าหน้าที่ หรือนักสังคมสงเคราะห์ลงไปสืบเสาะ ประชุมคณะกรรมการคุ้มครองเด็กระดับตำบล หาข้อมูลสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ถ้าพบผู้ปกครองหรือผู้เกี่ยวข้อง เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ก็จะมีหน่วยงานทั้งพนักงานสอบสวน ฝ่ายปกครอง ลงไปเช็คอีกทีว่า จริงหรือไม่อย่างไร ถ้าจริง เราต้องนำเด็ก ออกมาก่อนเป็นระดับแรก เพื่อไม่ให้ เกิดเหตุกับเด็ก จากนั้นเราก็จะมีนักสังคมสงเคราะห์ไปสืบเสาะหาผู้ปกครองที่เกี่ยวข้องกับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นปู่ ย่า ตา ยาย หรือพ่อ แม่ และมีความพร้อมที่จะรับเด็กไปอยู่ในความดูแล เราก็จะลงไปตรวจสอบสภาพแวดล้อมที่รับเด็กไปอีกที ถ้ามีความพร้อมและปลอดภัย จึงจะอนุญาตให้นำเด็กไป นั่นคือขั้นตอนของศูนย์เรา ซึ่งศูนย์เราเป็นศูนย์แรกรับ ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก เป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว ตาม พรบ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัว หากพบพ่อ แม่ ลูก เมีย หรือคนในครอบครัว ถูกกระทำรุนแรง เราก็จะให้เข้ามาพักที่นี่ได้ ไม่ใช่เฉพาะเด็กอย่างเดียว
ประชาชนทั่วไป มีทุกข์ พบปัญหา โทรมาที่ ศูนย์ช่วยเหลือทางสังคมสายด่วน พม. 1300 เรามีเจ้าหน้าที่คอยรับเรื่อง และดำเนินการภายใน 24 ชั่วโมง หรือสอบถามได้ที่บ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดร้อยเอ็ด เลขที่ 3 3 3 หมู่ 5 ต. นิเวศน์ อ.ธวัชบุรี รหัสไปรษณีย์ 45170 โทรศัพท์ 043 569461
