ราชบุรี หลังจากที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคก้าวไกล ได้ลงพื้นที่จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 22 ก.ค.67 ที่ผ่านมา เพื่อมาเปิดตัวนายชัยรัตน์ ( หวุน ) ศักดิ์อิสระพงศ์ ผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดราชบุรี แทนนายวิวัฒน์ นิติกาญจนา นายกอบจ.ราชบุรี ที่ชิงลาออกก่อนจะหมดวาระเมื่อวันที่ 11 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ซึ่งทางกกต.จ.ราชบุรี ได้ทำการเปิดรับสมัครในวันที่ 30 ก.ค. – 3 ส.ค.67 และกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 1 ก.ย.67 ที่จะถึงนี้ โดยชูนโยบาย 4 ส. คือเศรษฐกิจ การศึกษา สาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งขอให้ประชาชนชาวจ.ราชบุรี ได้เปิดใจรับฟังนโยบายของพรรคก่อนจะตัดสินใจเลือกใคร
ในวันนี้( 24 ก.ค.67) ผู้สื่อข่าวได้ไปพูดคุยกับนายชัยรัตน์ ศักดิ์อิสระพงศ์ (หวุน) ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.ราชบุรี ปัจจุบันอายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120/23 หมู่ 2 ต.จอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ซึ่งถือว่าเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ที่ลงชิมลางในสนามเลือกตั้งนายกอบจ. เป็นครั้งแรก โดยนายชัยรัตน์ มีพี่น้อง 4 คน เป็นคนโตของครอบครัว จบการศึกษาปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ สาขารัฐประศาสนศาสตร์ มีอาชีพเกษตรกรทำไร่อ้อย และรับเหมาก่อสร้างทั่วไป เริ่มสนใจการเมืองมาตั้งแต่เด็ก เพราะพ่อกับแม่เคยเป็น สจ. เขตพื้นที่ อ.จอมบึง หลายสมัย จึงคลุกคลีกับการเมืองตามประสาวัยรุ่น ต่อมาได้ไปทำงานและมีโอกาสได้พูดคุยกับนักการเมือง ติดตามหาประสบการณ์มาอย่างเงียบ ๆ ศึกษานโยบายของแต่ละพรรค มีการทำงานเป็นอย่างไรแต่ละยุคเป็นอย่างไรจนมาสู่ยุครัฐประหารเป็นสิ่งที่เลวร้ายที่สุด สำหรับประเทศไทย ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต ที่แสดงผลของการทำรัฐประหารมาถึงวันนี้ กระทบกับการทำมาหากินยากลำบาก เรื่องนี้ถือเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ตนเองอยากจะทำงานการเมือง เพื่อพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวราชบุรี เป็นปัจจัยสำคัญ ซึ่งเมื่อเห็นสภาพปัญหาแล้ว จึงอยากจะลองเล่นการเมืองจึงได้ศึกษาพรรคการเมืองต่างๆ กระทั่งอยู่มาวันหนึ่งพรรคก้าวไกลมีลิ้งค์รับสมัคร นายกอบจ. คือมิติใหม่ของการเมืองไม่เคยรู้จักกัน จึงลองสมัครกดลิ้งค์เข้าไปสมัครดู ประมาณอาทิตย์ผ่านไปมีการติดต่อเข้ามาสอบถามพร้อมนัดสัมภาษณ์ หลังที่ได้สัมภาษณ์แล้วก็ได้ไปร่วมทีมจังหวัดซึ่งมีโครงสร้างกรรมการจังหวัดราชบุรี มีตัวแทนแต่ละอำเภอ ตนสนใจทำงานด้านนโยบายมองว่าประสบการณ์ที่สะสมมาคิดว่าจะนำสิ่งเหล่านี้มาทำเป็นนโยบายได้ เพื่อพัฒนา จ.ราชบุรี และได้รับเลือกจากพรรคให้ลงสมัคร นายกอบจ.
ซึ่งวาระเลือกตั้งนี้เป็นวาระพิเศษเลือกตั้งเร็ว จึงอาจมีเวลาน้อยที่จะทำความเข้าใจเรื่องนโยบาย ต้องอาศัยสื่อช่วยประชาสัมพันธ์ด้วย และรู้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะเป็นศึกระหว่างคนตัวเล็กกับช้าง แต่ก็จะขอสู้ซึ่งทางพรรคมุ่งหวังว่าเมื่อเป็นนายก อบจ.แล้วจะสามารถทำงานได้เลยในวันแรกที่ได้รับตำแหน่ง
สำหรับนโยบายพรรคเน้นชู 4 หลัก ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ สาธารณสุข สิ่งแวดล้อม ด้านการศึกษา เรื่องด้านสาธารณสุข การทำรพ.สต. ยกระดับ รพ.สต.ขั้นพื้นฐานให้สามารถที่จะบริการได้กับประชาชนในท้องถิ่น ในการปรับปรุงพัฒนาโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่มีอยู่ให้ดีขึ้น มีการดูแลประชาชน ผู้ป่วยรักษาเท่าเทียมกัน มีการเพิ่มบุคลาการทางการแพทย์เข้ามาสนับสนุน เพื่อช่วยลดความแออัดของโรงพยาบาล ลดการเดินทางให้ประชาชนเดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลแต่ละพื้นที่แทนการเดินทางไปที่โรงพยาบาลในจังหวัด ด้านการศึกษา จะสนับสนุนด้านภาษา การเรียนการสอนพัฒนาครูการเรียนการสอน 2 ภาษา จะเพิ่มครูต่างชาติเข้ามาในโรงเรียนให้มากขึ้น อาจจะเริ่มที่โรงเรียนประจำจังหวัดก่อนเพื่อให้นักเรียนมีความรู้ด้านภาษาที่ดี จะอุดหนุนครูต่างชาติได้ในเกือบทุกโรงเรียนที่เป็นโรงเรียนประจำอำเภอก่อนเบื้องต้น และยังจะมีการทำศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีต่างๆประจำอำเภอ เช่น พวกเอไอต่างๆ ให้ความสำคัญมากขึ้น และนโยบายหลักพรรคจะเน้นความโปร่งใสในการทำงาน จะมีการไลฟ์สดการประชุมสภา เพื่อสร้างความโปร่งใสในการทำงาน แต่ละโครงการประชาชนสามารถรับทราบข้อมูลข่าวสารได้ โดย จ.ราชบุรีถือเป็นธงท้องถิ่นที่ปักเป็นจังหวัดแรก ถ้าทำให้เกิดได้ความโปร่งใสของประเทศนี้ก็จะตามมามากขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
- นครพนม : หมอสงค์ หมอผู้สร้าง เปิดตัวสมัครนายก อบจ.นครพนม พร้อม ส.อบจ.นครพนม
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
อีกเรื่องจะดูเรื่องระบบขนส่งมวลชน ซึ่งถือเป็นบทบาทหน้าที่ของ อบจ.ที่ต้องทำเรื่องนี้ด้วย ซึ่งจะช่วยการบริการรถสาธารณะแต่ละพื้นที่ ทั้งช่วยเรื่องปลอดภัยและช่วยเรื่องประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง อีกเรื่องที่เป็นแนวคิดในอนาคตจะมีขบวนรถไฟ อบจ.ราชบุรี ซึ่งราชบุรีมีสถานีรถไฟเริ่มจากอ.บ้านโป่ง ไปถึง อ.ปากท่อรวม 13 สถานี เป็นระยะทางประมาณ 70 กม. อบจ.จะเข้าไปทำรถไฟวิ่งจากบ้านโป่งมาปากท่อ จะวิ่งระยะทางต่อสถานีประมาณ 5 นาที เป็นการเดินทางเชื่อมต่อพื้นที่กัน และจะมีรถเมล์ที่วิ่งอยู่ในพื้นที่เพื่อขนคนไปตามสถานที่ต่างๆทั้งโรงเรียน วัด โรงพยาบาลสถานที่สำคัญและแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งจะลดความแออัดของการจราจร รวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง และยังมีนโยบายต่างๆ อีกมากที่อยากจะพัฒนาจ.ราชบุรี จึงอยากให้ชาวราชบุรี ได้เปิดใจให้กับตนเองและพรรคก้าวไกล เพื่อจะได้เริ่มต้นพัฒนาไปพร้อมๆ กัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: