ตรัง รวบแล้วลุงปืนดุ ชุดสืบ สภ.เมืองตรังนำกำลังเข้าคุมตัว ‘หลวงพาน’ ตามหมายจับ ศาล จ.ตรัง หลังประสานผู้นำท้องถิ่นขอมอบตัว ก่อเหตุฉุนทะเลาะเรื่องหมากับชายคู่กรณี ชักลูกซองจากเอวจะยิงหนุ่มคู่กรณี กระสุนดันพลาดเจาะหัวป้าเพื่อนบ้านคู่กรณีดับรับเคราะห์แทน เจ้าตัวปฏิเสธ สีหน้าเคร่งเครียด ขอให้การชั้นศาลเท่านั้น ขณะที่เมีย เชื่อสามีโมโหที่หมาถูกทำร้าย ฝากขอโทษครอบครัวคนตาย เตรียมใช้หลักทรัพย์ 5 แสนบาทขอยื่นประกันตัวชั้นพนักงานสอบสวน
ตรัง รวบแล้วลุงปืนดุ : ข่าวคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 28 ก.ค. พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก. สภ.เมืองตรัง ได้รับการประสานจากผู้นำท้องที่และญาติพาผู้ต้องหาเข้ามอบตัว จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สนธยา ด้วงเพ็ชร สว.สส.สภ.เมืองตรัง ร.ต.อ.เวชยันต์ หิรัญสุวรรณ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง นำกำลังเจ้าหน้าที่ ตร.ชุดสืบสวน เดินทางรับตัว นายสำราญ นุ่นขาว หรือหลวงพาน อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124/10 หมู่ 4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง อาชีพกรรมกรก่อสร้าง หลังตกผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จ.ตรัง ที่ จ.283/2567 ลงวันที่ 28 ก.ค.67 ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน , พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน , มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุ ในเมือง หมู่บ้านหรือที่ชุมนุมชน และทำให้เสียทรัพย์ โดยมีทางผู้นำท้องถิ่นประสานให้ตำรวจเข้ารับมอบตัวตามหมายจับดังกล่าว
สืบเนื่องจากเวลาประมาณ 18.28 น. วานนี้ 27 ก.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ ตร.สืบทราบตามประจักษ์พยานหลักฐาน ว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้อาวุธปืนลูกซองพกสั้นไทยประดิษฐ์ (ค้อนตราควาย) ยิงนางประเกี่ยว เมืองทวี หรือป้าดาว อายุ 61 ปี เข้าที่ศีรษะ บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่บ้านห้องเช่า เลขที่ 52/4 (ซอยวังมังกร) ถนนเวียนกะพังซอย 10 หมู่ 4 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.ตรัง ก่อนจะหลบหนี และได้ทิ้งรถ จยย. สามล้อพ่วงข้าง (ซาเล้ง) ทะเบียน ขงฉ 164 ตรัง ที่ใช้ก่อเหตุจอดทิ้งไว้ไม่ไกลจากที่เกิดเหตุ พร้อมกับปลอกกระสุนปืนลูกซอง 1 ปลอก
โดยวันนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ ตร.ไปควบคุมตัวตามหมายจับ ได้นำตัวมาเค้นสอบที่ สภ.เมืองตรัง โดยใช้ระยะเวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยมีภรรยา ลูก และบรรดาญาติพี่น้องตามติดมาด้วย ในเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยยืนยันขอให้การในชั้นศาลเท่านั้น และไม่พูดถึงอาวุธปืนและสุนัขตัวดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ ตร.ได้ควบคุมตัวนำเดินออกจากห้องสืบสวน ไปเข้าห้องขัง ผู้ต้องหาได้ใช้กระดาษปิดบังใบหน้า สังเกตสีหน้าที่อาการเคร่งเครียดตลอดเวลา โดยพูดกับสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวเพียงคำเดียวว่า “ขอให้การชั้นศาลเท่านั้น”
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง สับปะรดทอด-ข้าวเม่าทอด ดาวเด่นประจำร้านสมพร รสชาติอร่อย ราคาเป็นกันเอง
- ตรัง จัดใหญ่ 12 วัน งานฉลองรัฐธรรมนูญและงานกาชาดจ.ตรัง 4-15 ธ.ค.นี้ รีแบร์นใหม่! ย้อนยุคงานเหลิมแต่แรก แสดงบินโดรนพิธีเปิด วธ.ทุ่ม 3.4 ล้าน…
- สจ.ธรรมชาติ ไม่มาศาลฉะเชิงทรา ส่งสองทนายคู่หูยื่นฟ้องอัจฉริยะแทน
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
ขณะที่ นางเพียร สุดภัย อายุ 62 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ บอกว่า สามีรักสุนัขมาก เลี้ยงดูแลเป็นอย่างดี ตนก็ไม่รู้เรื่องว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะอะไรเพราะไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่จากเท่าที่ฟังก็รู้ว่าสาเหตุมาจากทะเลาะวิวาทกันเรื่องสุนัขและมีปากเสียงด่าทอกับผู้ชายอีกคน แต่กระสุนพลาดไปโดนผู้เสียชีวิต และปกติสามีจะไม่ค่อยยุ่งสุงสิงกับใคร เป็นคนเงียบ ๆ ไม่พูดมาก ไม่จู้จี้จุกจิกกับใคร และจะไม่นั่งบ้านของคนอื่น ที่รู้ ๆ หมาของสามีก็ไม่เคยทำร้ายใคร หมาที่เลี้ยงไว้ก็อยู่ตามประสาของมันไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวมั่วกับใคร
นางเพียร เล่าต่อไปอีกว่า เหตุการณ์นี้ตนคิดว่าสามีห่วงหมา เพราะมีคนมาทำร้าย ส่วนปัญหาอื่น ๆ ไม่มี ส่วนคนตายตนก็ไม่รู้จักเพราะเขามาเช่าอยู่ ก็รู้สึกเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต แต่สามีก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะยิงถูกผู้ตาย ขอโทษครอบครัวผู้ตายที่ทำลงไปก็เพราะความโมโห ตอนนี้ก็ไม่ได้คุยอะไรในเรื่องที่เกิดเหตุเลย ส่วนตนก็ไม่มีปัญญาที่จะช่วยเหลือก็แล้วแต่พี่น้องของสามีจะช่วยเหลือยังไงตามกฎหมาย
ขณะที่แนวทางการสืบสวนสอบสวน ทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายขับรถ จยย. ผ่านหน้าบ้านเช่า นายสมส่วน เดนบัวบาน คู่กรณีและบ้านผู้ตายซึ่งเป็นห้องเช่าติดกัน ระหว่างนั้นสุนัขของ นายสำราญ หรือหลวงพาน ผู้ก่อเหตุที่วิ่งตามหลังรถมา ได้วิ่งเข้ามาหานายสมส่วน ภรรยา และหลาน ภรรยานายสมส่วนจึงได้ไล่หมา ส่วนหลานได้ใช้ก้อนหินเขวี้ยงใส่หมา ทำให้ผู้ก่อเหตุโมโหจนมีปากเสียงกัน ถึงขั้นผู้ก่อเหตุด่าถึงบุพการี ก่อนจะขับรถกลับบ้านไป กระทั่งต่อมาผู้ต้องหาได้ขับรถวกกลับมาอีกครั้ง และได้ถามนายสมส่วน ว่ามีปัญหาอะไร ก่อนจะมีปากเสียงกันอีกครั้ง ผู้ก่อเหตุจึงได้ใช้ปืนหวังจะยิงนายสมส่วน แต่หลังจากผู้ก่อเหตุยกปืนขึ้นมา ผู้ตายได้ยืนใกล้ ๆ อยู่ด้วย นายสมส่วนจึงวิ่งเข้าบ้านผู้ตาย ผู้ตายจึงได้ปิดประตูบ้าน ก่อนที่ผู้เหตุจะลั่นไก แต่ปรากฏว่ากระสุนกลับไปโดนประตูบ้านทะลุเข้าศีรษะของผู้ตายดังกล่าว
ซึ่งภายหลังจากแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุ และควบคุมตัวเข้าห้องขังเสร็จสิ้น ในเบื้องต้นชั้นพนักงานสอบสวน ไม่ได้คัดค้านการประกันตัว ในส่วนของฝ่ายผู้ก่อเหตุได้เตรียมประสานของยื่นขอประกันตัวชั่วคราว โดยใช้หลักทรัพย์จำนวน 5 แสนบาทผ่านนายประกัน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ ตร.จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: