อบจ.ร้อยเอ็ด เปิด”โครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อ
นายเศกสิทธิ์ ไวนิยมพงศ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นประธานเปิดโครงการปรับเปลี่ยน พฤติกรรมสุขภาพกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(โรคเบาหวาน และ ความตันโลหิตสูง) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตอำเภอจตุรพักครพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด ปี 2567 ณ วัดป่าดอนดู่ธรรมาราม ตำบลอีง่อง อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด
โดยมีร.ต.อ.หญิง อรุณี อินทรมณี นอภ.จตุรพักตรพิมาน นายแพทย์สุพัชร์ศักดิ์ พันธุ์ศิลา ผอ.จตุรพักตรพิมาน นายแสงมณี มงคลชู สสอ.จตุรพักตรพิมาน ผู้แทนสาธารณสุขจังหวัด ทนายกพิชิต หอมพุ่ง นายก อบต.อีง่อง นายคำสี สืบเมืองซ้าย นายสุนทร วงศ์ศรีมี ส.อบจ. เขตอำเภอจตุรพักตรพิมาน น.ส.อภิสราวรรนธ์ คำวัฒน์ ผอ.กองสาธารณสุข อบจ.ร้อยเอ็ด ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 12 แห่ง คณะอนุกรรมการ กสอ.จตุรพักตรพิมาน และนางอภิรดี วรเชษฐ์ ประธานสภาพัฒนาบทบาทสตรีอำเภอจตุรพักตรพิมานร่วมเป็นเกียรติ
นายพละ พลวุฒิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านหนองครอง ตำบลโคกล่าม ประธาน กปอ.จตุรพักตรพิมาน กล่าวว่าโครงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพกลุ่มเสี่ยงเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง(โรคเบาหวาน และ ความตันโลหิตสูง) โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตอำเภอจตุรพักตรพิมาน เป็นโครงการระยะที่ 1 อบรมพัฒนาศักธภาพวิทยากรอำเภออารยเกษตรด้านภาพดี วิถีธรรม วิถีไทย ขยายผลการแก้ปัญหาโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (โรคเบาหวานและความดัน โดยมีวิทยากรจาก กองการแพทย์ทางเลือก กรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือก
สถานการณ์โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง เป็นโรคซึ่งทั่วโลกกำลังให้ความสนใจอย่างยิ่ง เนื่องจากตัวเลขของผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันพบว่า มีผู้ป่วยด้วยโรคเบาหวานทั้งสิ้น 179 ล้านคน และคาดว่าในอีก 20 ปี ข้างหน้าจะมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นถึง 324 ล้านคน ที่น่าเป็นห่วงคือผู้ป่วยส่วนใหญ่เสียชีวิตจากภาวะโรคแทรกซ้อน “มีผลการวิจัยหลายชิ้นชี้ให้เห็นว่า การควบคุมอาหารอย่างดีการออกกำลังกายเป็นประจำ ส่งผลโดยตรงต่อการป้องกันโรคเบาหวาน โรคเรื้อรัง โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงสูงทางกรรมพันธุ์ อีกทั้งยังเป็นการควบคุมโรคเบาหวานและป้องกันโรคแทรกช้อนในผู้ป่วยเบาหวานเพราะการควบคุมอาหารอย่างถูกต้อง และเหมาะสมจะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงได้” และจากการที่ทางอำเภอจตุรพักตรพิมานเป็นอำเภออารยเกษตร ในจังหวัดร้อยเอ็ด จึงเป็นเป้าหมายที่สำคัญยิ่งที่ทางกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์ทางเลือกได้ สนับสนุนทางวิชาการด้านสุขภาพดี วิถีธรรม วิถีไทย ด้วยเครื่องมือ 3ส.(สวดมนต์ สมาธิ สนทนาธรรม) 3 อ.(อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์-วิถีพุทธ) 1 น.(นาฬิกาชีวิต วิถีพุทธ) จากมูลนิธิ ดร.นพ.อุทัย สุดสุข เพื่อให้การอบรมพัฒนาศักยภาพวิทยากรนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ เกิดกระบวนการสร้างสุขภาพของประชาชนให้มีสุขภาพดี สามารถพึ่งตนเองได้ด้วยการนำหลักธรรมของศาสนา มาปฏิบัติตนด้านสุขภาพลออดคล้องกับการดำเนินชีวิตตามหลักวิถีสังคม วัฒนธรรม และวิถีแศรษฐกิจพอเพียง โดยความร่วมมือของทุกภาคส่วนในท้องถิ่นมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ดังนั้นทจงโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในเขตอำเภอจตุรพักตรพิมาน จึงได้ตระหนักถึงความสำคัญของการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกี่ยวกับการดูแลตนเองเพื่อให้ห่างไกลโรคเบาหวาน/ความตันโลหิตสูง และประกอบกับเป็นนโยบายหลักขององค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดที่ให้การดูแลสุขภาพประชากรกลุ่มเสียงไม่ให้เกิดผู้ป่วยรายใหม่เกิดขึ้น พร้อมบูรณาการเพื่อเสริมสร้างพลังจิตใจในการป้องกันและควบคุมโรคไม่ติดต่อเรื้อรังให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น จึงได้จัดทำโครงการ ครั้งนี้ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์
ให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ และเข้าใจสามารถปฏิบัติตามหลัก 3ส. 3อ. 1น. และวิธีป้องกันและควบคุบคุม
ปัญหาสุขภาพและคุณภาพชีวิตอื่นๆ สามารถนำรูปแบบการดำเนินงานต้นแบบการสร้างสุขภาพดี วิถีธรรม วิถีไทย วิถีเศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำไปใช้ได้จริงลดอัตราการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังใหม่ในกลุ่มเสี่ยงและลดอัตรการเกิดรโรคแทรกช้อนในผู้ ป่วยเบาหวานความดันโลหิตสูงและปัญหาสุขภาพและคุณภาพชีวิตอื่นๆลดปริมาณการใช้ยา ในโรคเบาหวาน และความดันโลหิตสูงลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพของผู้ป่วย ครอบครัว และชุมชนพื่อให้ กลุ่มเสี่ยงประชากรกลุ่มเป้าหมาย
โดยเน้นที่พัฒนาศักยภาพแกนนำในการที่จะสามารถนำความรู้ที่ได้นำไปพัฒนาตนเอง และกลุ่มประชากรที่
เป็นกลุ่มเสี่ยงสูงก่อน เพื่อลดอัตราการเกิดโรคเรื้อรังรายใหม่
การจัดโครงการครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากเงินบำรุงของโรงพยาบาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุกแห่ง และจากกองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลต่างๆที่รองรับในการขยายโครงการนี้ไปสู่โครงการระยะที่ 2 และระยะที่ 3 ต่อไป
