วันที่ 6 ส.ค.67 เวลา 8.15 น. พ.ต.ท.ธานินทร์ กันภัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม ได้รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุ 191 ว่ามี ผู้เสียชีวิตอยู่ภายในรถเก๋ง ที่บริเวณลานจอดรถ หน้าศาลเจ้าพ่อสมติ สวนเทิดพระเกียรติฯ ท้ายเมือง เขตเทศบาลเมืองนครพนม จึงเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลนครพนม กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม ถึงที่เกิดเหตุพบรถเก๋ง ยี่ห้อ ซูซูกิ สีขาว ทะเบียน กง 9822 นครพนม มีผู้เสียชีวิต เพศหญิง ติดอยู่ภายในรถ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลังคือ นางปัญญารักษ์ พิมพ์พงษ์ อายุ 46 ปี อาชีพ ครูพี่เลี้ยงที่ศูนย์เด็กเล็ก วัดศรีชมชื่น ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม นอนเสียชีวิต สภาพปรับเบาะเอนนอนอยู่ที่เบาะคนขับ ภายในรถที่พื้นข้างเบาะคนขับ พบเตาอั้งโล่วางอยู่ ในเตามีรอยถ่านไหม้ไฟจนมอดสนิทหมดแล้ว ตามร่างกายไม่พบร่องรอยบาดแผลใด ๆ
จากการสอบสวน นายแมน สามีผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ไม่ได้เจอภรรยามา 1 วัน แล้ว เนื่องจากตนเองก็ไปเข้าเวรทำงาน ล่าสุดที่เจอกันกับภรรยาเมื่อตอนเที่ยงของวันที่ 4 ส.ค.67 โดยเมื่อวาน (วันที่ 5 ส.ค.67) ตามหาภรรยาไม่เจอ ในวันนี้ จึงขับรถตามหาภรรยาที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง เป็นจุดที่ภรรยาชอบแวะมานั่งเล่น ตนจึงเริ่มต้นขับรถหา มาเจอรถของภรรยาที่บริเวณลานจอดรถ หน้าศาลเจ้าพ่อสมติ สวนเทิดพระเกียรติฯ ท้ายเมือง เขตเทศบาลเมืองนครพนม
สามีผู้เสียชีวิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ภรรยามีปัญหาเรื่องหนี้สิน ไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ เจ้าหนี้ติดตามทวงถามทุกวัน ตนไม่ติดใจในการเสียชีวิตของภรรยา
นายธนภัทร อายุ 16 ปี บุตรชายของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มารดาหายออกจากบ้านเมื่อวาน (5 ส.ค.67) ก่อนแม่จะออกจากบ้านประมาณเที่ยงคืน แม่จะออกไปซื้อสินค้ามาขาย แม่บอกว่าตะไปซื้อเตา จะเอาไปคืนตา เนื่องจากทำเตาของตาแตกเสียหาย ไปซื้อที่ร้านขายของหน้าโรงเรียนแห่งหนึ่ง น้องอยากได้สี แม่จะวางเงินไปโรงเรียนไว้ให้ ไม่ได้เอะใจอะไร เพราะแม่ทำแบบนี้เป็นประจำ แม่ไปซื้อเตา วันที่ 3 ส.ค.เป็นวันคล้ายวันเกิดของตนและแม่ แม่พาไปรับประทานอาหารนอกบ้าน รับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย แม่จึงกลับมาส่งตนที่บ้าน
พ.ต.ท.ธานินทร์ กันภัย รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม กล่าวว่า จากการสอบถามสามีผู้เสียชีวิต สาเหตุที่ผู้เสียรมควันฆ่าตัวตายครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าน่าจะมาจากความเครียดปัญหาเรื่องหนี้สิน นำศพมอบให้ญาติ เพื่อบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: