กรุงเทพฯ : ‘แอมเนสตี้’ ออกโรง วิจารณ์คำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญ ชี้ ยุบพรรคก้าวไกล เป็น ‘การตัดสินที่ไร้ความชอบธรรม’ ร้องกลับคำวินิจฉัยด่วน ยุติใช้กฎหมายเป็นอาวุธคุกคามนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและฝ่ายค้าน
วันที่ 7 สิงหาคม 2567 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ออกรายงาน ผ่านเว็บไซต์ แสดงความคิดเห็นในเชิงตำหนิ คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เห็นชอบตามคำร้องของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมือง กรรมการบริหารพรรค เป็นเวลา 10 ปี เนื่องจากการรณรงค์ของพรรค เพื่อเสนอปฏิรูปกฎหมายหมิ่นประมาทสถาบันกษัตริย์
โดย ดีโพรซ มูเชนา ผู้อำนวยการอาวุโส แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ระบุว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่เห็นชอบกับการยุบพรรคก้าวไกล เป็นการตัดสินใจที่ไร้ความชอบธรรม เผยให้เห็นความเพิกเฉยโดยสิ้นเชิงของทางการไทย ต่อพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ที่ไทยเคยให้คำมั่นไว้
มองว่า การยุบพรรคการเมืองเพียงเพราะเสนอให้ปฏิรูปกฎหมาย ถือเป็นการละเมิดอย่างร้ายแรงต่อสิทธิเสรีภาพ ในการแสดงออกและการสมาคม เป็นการละเมิดต่อสมาชิกรัฐสภาซึ่งเพียงแต่เสนอกฎหมายตามหน้าที่เท่านั้น
“การคุกคามอย่างต่อเนื่องของทางการไทยต่อนักการเมืองฝ่ายค้าน เป็นภาพสะท้อนถึงความย้อนแย้งอย่างสิ้นเชิงกับคำมั่นสัญญาด้านสิทธิมนุษยชน ที่ประเทศไทยประกาศเพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำโลกด้านสิทธิมนุษยชน โดยการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ทางการไทยต้องกลับคำวินิจฉัยที่สั่งให้ยุบพรรคอย่างเร่งด่วน และยุติการใช้กฎหมายเป็นอาวุธเพื่อข่มขู่และคุกคามผู้วิจารณ์ นักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักการเมืองฝ่ายค้าน”
แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ยังย้ำอีกว่า แอมเนสตี้ เป็นองค์กรที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่มีจุดยืนใดในแง่ข้อพิพาททางการเมือง และยึดมั่นอย่างเคร่งครัดต่อภารกิจในฐานะหน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชน
