จนถึงตอนนี้กลุ่มแบ่งแยกดินแดนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยได้ยุยงให้ประชากรมุสลิมต่อต้านรัฐบาลไทยโดยการปลุกระดมให้เข้าใจว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยกําลังถูกล่าเป็นอาณานิคม สิทธิของพวกเขากําลังถูกลิดรอนและประชากรมุสลิมถูกกดขี่
อย่างไรก็ตาม การเยือนของนายกรัฐมนตรีทั้งสองคน ได้แก่ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียดาโต๊ะ ศรีอันวาร์ อิบราฮิม และ นายเศรษฐา ทวีสินนายกรัฐมนตรีไทย เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นการพิสูจน์ให้เป็นว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยไม่เคยถูกครอบครองโดยนักล่าอาณานิคมและประชากรมุสลิมที่นั่นก็ไม่เคยถูกกดขี่
หากเป็นความจริงตามที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนกล่าวหา ก็เป็นที่แน่นอนว่านายกรัฐมนตรีทั้งสองจะไม่พบกันเป็นครั้งที่สองในพื้นที่จังหวัดดังกล่าว คราวนี้ที่รันเตาปันยังและสุไหงโกลกหลังจากการเยือนครั้งแรกเมื่อปีที่แล้วที่สะเดา
ผู้นำทั้งสองไม่ได้มาเยือนเพื่อกินส้มตําในสุไหงโก-ลก หรือ มากินข้าวยำที่รันเตาปันยังแต่พวกเขามาด้วยความตั้งใจอย่างจริงใจและบริสุทธิ์ใจเพื่อหารือเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยให้เจริญรุ่งเรืองและทำให้ประชาชนได้อยู่เย็นเป็นสุข
สิ่งนี้เห็นได้จากคําแถลงของ นายอันวาร์ ในการแถลงข่าวเขาระบุว่า เกี่ยวกับการดำเนินการก่อสร้างสะพานแห่งที่สองระหว่าง รันเตาปันยัง และ สุไหงโก-ลก ซึ่งทั้งสองประเทศจะให้ความสำคัญ
“โครงการนี้เป็นขั้นตอนสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ และปรับปรุงความสะดวกในการเดินทางและการค้าในพื้นที่ชายแดน” อันวาร์กล่าว
เขายังระบุด้วยว่าโครงการก่อสร้างสะพานแห่งที่สองคาดว่าจะให้โอกาสทางธุรกิจที่สำคัญในพื้นที่ใกล้เคียง โดยเฉพาะในเมืองรันเตาปันยัง “ด้วยสะพานแห่งใหม่ การเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่นี้จะขับเคลื่อนผ่านกิจกรรมทางธุรกิจและการลงทุนที่เพิ่มขึ้น” อันวาร์กล่าว
นอกจากนี้ ยังให้ความสนใจกับปัญหาน้ำท่วมในรัฐกลันตันและจังหวัดนราธิวาสที่เกิดจากปากแม่น้ำไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ สิ่งนี้นําไปสู่การสะสมของสารตกค้างและกากตะกอนส่งผลให้เกิดการอุดตันของการไหลของน้ำและเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม
อันวาร์ยังระบุด้วยว่า รัฐบาลมาเลเซียและไทยจะจัดการประชุมในวันที่ 6 ส.ค. 2567 (วันอังคาร) เพื่อหารือเกี่ยวกับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับน้ำท่วม หลังการประชุมจะมีการให้คําตอบและการดำเนินการติดตามผลภายในสองสัปดาห์เพื่อจัดการกับปัญหาอุทกภัย
ด้ายฝ่ายไทย นายเศรษฐา ได้สรุปการเยือนของผู้นําทั้งสอง ซึ่งครอบคลุมการหารือด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการพัฒนาที่จะส่งผลดีต่อพื้นที่ในจังหวัดดังกล่าว
เป็นการพิสูจน์ถึงความโปร่งใสและความจริงใจของรัฐบาลไทยในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย การเยือนของนายเศรษฐา ยังมีบุคคลสำคัญ 5 คนเข้าร่วมเพื่อให้ภารกิจประสบความสำเร็จ
บุคคลสำคัญดังกล่าวนั้นได้แก่ นายอนุทิน จันทร์วีระกุล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ,พลตำรวจเอก รอย อิงคไพโรจน์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ, นายฉัตรชัย บางฉวดหัวหน้าทีมพูดคุยสันติภาพจังหวัดชายแดนใต้ของไทย และ พล.อ. เจริญชัย หินเธาว์ ผู้บัญชาการทหารบก
การมีส่วนร่วมของบุคคลสำคัญดังกล่าวในการหารือกับนายกรัฐมนตรีทั้งสองไม่เพียงแต่เพื่อ “ทำให้พิธีมีชีวิตชีวา” แต่เขามีบทบาทของตนในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจการพัฒนา และการศึกษาในพื้นที่จังหวัดดังกล่าว
ดังนั้นหากเป็นความจริงที่รัฐบาลไทยเป็นนักล่าอาณานิคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย นายเศรษฐา จะไม่เสียเวลาที่จะการหารือ กับ นายอันวาร์ เพื่อพัฒนาและแก้ไขความขัดแย้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใของไทย แม้แต่ นายอันวาร์ก็ไม่น่าจะมาพบกับ นายเศรษฐา
การอ้างว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยเป็นอาณานิคมนั้น เพียงเป็นละเมอเพ้อฝันของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่ต้องการบรรลุวาระส่วนตัวของตน หากพวกเขาต้องการต่อสู้เพื่อชาวมุสลิมพวกเขาจะสนับสนุนขั้นตอนทั้งหมดที่ดำเนินการโดยนายเศรษฐา และ นายอันวาร์
ดังที่นายอันวาร์ได้กล่าวว่า แม้ว่ามาเลเซียจะยอมรับว่าความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยนั้นเป็นปัญหาภายในประเทศ แต่รัฐบาลมาเลเซียยังคงสนับสนุนความพยายามของไทยในด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และสังคม มาเลเซียพร้อมที่จะให้การสนับสนุนในรูปแบบของความร่วมมือและความช่วยเหลือตามความจําเป็น
คําถามคือ หากเป็นความจริงที่รัฐบาลไทยตั้งอาณานิคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย ตามที่กลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้กล่าวหาว่า เหมือนระบอบไซออนิสต์ที่ล่าอาณานิคมในปาเลสไตน์ นายอันวาร์และมาเลเซียจะช่วย นายเศรษฐา และรัฐบาลของเขาจะพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยหรือไม่?
ในขณะเดียวกันลองคิดดูว่า สมเหตุสมผลหรือไม่ที่ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นนักล่าอาณานิคม นั่นคือรัฐบาลไทย จะเสียเวลา กำลัง และเปลืองเงินทองเพื่อพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย
ลองนึกภาพดูว่า สำหรับโครงการสร้างสะพานแห่งที่สองที่เชื่อมต่อ สุไหงโก-ลก และรันเตาปันยัง มีการเร่งรัดและคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปี 2026 เหตุใดรัฐบาลทั้งสองประเทศจึงต้องการดำเนินโครงการ โดยให้ 10 บริษัทจากมาเลเซีย และ 10 บริษัทจากไทย? เพราะพวกเขาต้องการกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดดังกล่าว
ไม่เพียงแต่แค่นั้น นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศจะเสริมสร้างเขตเศรษฐกิจฮาลาลผ่านกรอบหลักที่ก่อตั้งขึ้น ความพยายามนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความร่วมมือในอุตสาหกรรมฮาลาล ขยายตลาด และรับประกันการผลิตและจัดหาผลิตภัณฑ์ฮาลาลที่มีคุณภาพ
ในแง่ของการสร้างสันติภาพระหว่างรัฐบาลไทยและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนมาเลเซียให้การสนับสนุนและความร่วมมือ กำลังใจ เท่าที่จําเป็นรวมถึงการเป็นผู้อํานวยความสะดวกในการบรรลุข้อตกลงอย่างสันติ
ในเมื่อมองถึงความจริงจังของ นายเศรษฐาและการสนับสนุนของรัฐบาลมาเลเซียในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยและทำให้ประชากรมุสลิมเจริญรุ่งเรือง ผู้เขียนเกิดข้อสงสัยว่าทําไมกลุ่มแบ่งแยกดินแดนถึงต้องการทำวาระที่บริสุทธิ์เหล่านั้น?
พวกเขาควรให้การสนับสนุนเพื่อในสิ่งที่ผู้นําของทั้งสองประเทศวางแผนไว้ให้ประสบความสำเร็จเพราะคนที่จะได้ประโยชน์อย่างมากคือชาวมุสลิม!
แต่จนถึงทุกวันนี้ กลุ่มแบ่งแยกดินแดนได้เพียง “หลับตาและหลับหัวใจ” เพื่อยอมรับความจริงใจของรัฐบาลไทยในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย ดังนั้นประชากรมุสลิมในจังหวัดดังกล่าวนี้จึงไม่ควรหลงเชื่อในวาระที่แคบและบิดเบือนของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน
ในทางตรงกันข้าม พวกเขาต้องให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยและมาเลเซียเพื่อพัฒนาและทำให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยเจริญรุ่งเรือง หากสิ่งที่ผู้นำทั้งสองวางแผนไว้ประสบความสำเร็จไม่เพียงแต่ประชากรมุสลิมในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงลูกหลานของพวกเขาก็จะมีความสุขตลอดไป
แต่ถ้าพวกเขาถูกหลอกโดยการโฆษณาชวนเชื่อของกลุ่มแบ่งแยกดินแดน พวกเขาจะทุกข์ทรมานใจอย่างแน่นอน ในขณะที่ผู้นําของกลุ่มแบ่งแยกดินแดนไม่เพียงแต่ไม่กลับบ้านเกิดมานานหลายทศวรรษ แต่พวกเขาอยู่อย่างสุขสบายในต่างประเทศในนามของการต่อสู้เพื่อชะตากรรมของชาวมุสลิมใรพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย
สรุปได้ว่า หากพวกเขาให้การสนับสนุนต่อวาระของรัฐบาลไทยและมาเลเซีย ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาจะเจริญรุ่งเรืองและมีความสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย แต่ถ้าพวกเขาเลือกที่จะอยู่กับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนพวก เขาจะทนทุกข์ทรมาน พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของประเทศไทยล่มสลาย อย่าปล่อยให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น! …
https://utusantv.com/2024/08/07/bukti-keikhlasan-anwar-srettha-mahu-majukan-selatan-thailand-demi-penduduk-islam/
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: