สระแก้ว – สถิติคนไทยถูกหลอกเข้าไปตกระกำลำบากในเขมร เฉลี่ยวันละ 20-30 คน แต่ช่วยออกมาได้วันละ 3-4 คน โดยภาคเอกชน ขณะที่ภาครัฐช่วยอะไรไม่ได้
เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงาน ข้อมูลจากหัวหน้าทีมช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชาและแอดมิน เพจ “ก็แค่ คนธรรมดา” เปิดเผยล่าสุดในเพจ ระบุว่า สถิติคนไทยที่ถูกหลอกให้ไปทำงาน”สายดำ”ในเขมร ยังคงพุ่งสูงขึ้น เฉลี่ยวันละ 30-40 คน แต่ทางทีมงานของเพจ สามารถช่วยเหลือออกมาได้เพียง วันละ 3-4 คน เท่านั้น ลองคิดดูว่า จะมีคนไทยอีกจำนวนมากขนาดใหน ที่ถูกจับขัง ถูกบังคับให้ทำงานอยู่ในปอยเปต และสภาพความเป็นอยู่จะเลวร้ายขนาดใหน จะประสบชะตากรรมอย่างไร จะกลับออกมาก็กลับไม่ได้ จะหวังให้ทางราชการไทยช่วยเหลือ ก็ไม่มีทางเป็นไปได้เลย ถ้าโชคดีติดต่อมาทางเพจได้ ก็พอจะมีความหวังกลับออกมาได้
ทั้งนี้ คุณเบิร์ด หัวหน้าทีมช่วยเหลือคนไทยในกัมพูชา ยังได้โพสต์ในเพจอีกว่า ตนจะเตือนคนไทยอย่างไรว่า งานดี ๆ เงินเดือนสูงๆ ในปอยเปตมันไม่มีแล้ว มีแต่งานสายดำเท่านั้น ร้อยละ 90 จะโดนหลอกให้ไปทำงานเป็นแอดมิน คอยตอบแชตลูกค้า เงินเดือนสูง 25,000-40,000 บาท มีสวัสดิการเยี่ยม มีที่พัก มีอาหาร บริการฟรี มีโบนัสให้ สารพัดที่มันจะยกมาพูดหลอกลวง แถมบอกอีกว่า ถ้าไม่เป็นงานยินดีสอนให้อีก ทำไมไม่คิดกันบ้างว่ามันเป็นไปไม่ได้ อย่าหลงเชื่อโฆษณารับสมัครงานทางออนไลน์ และอย่าหลงเชื่อคนชักชวน แม้จะรู้จัก มักคุ้น หรือสนิทสนม ก็อย่าไปเชื่อ เพราะพวกนี้มันหวังค่านายที่สูงลิ่ว ถ้าหลอกเราเข้าไปได้
“ระยะหลัง ๆ นี้คนถ้าไทยที่ถูกหลอกจะมีพาสปอร์ต จึงไม่ถูกกักขัง แต่ไม่จ่ายเงินเดือน ไม่มีที่พักให้ ถูกทิ้งขว้าง ปล่อยให้อยู่ตามยถากรรม ไม่พอใจก็หาเงินกลับไทยเอง แต่เกือบทุกคนไม่มีเงินติดตัว หวังแต่จะได้รับเงินเดือนสูง ๆ ที่เขาหลอก สุดท้ายต้องกลายเป็นคนเร่ร่อน ไม่มีที่นอน ต้องขอชาวบ้านกินประทังชีวิตไปวัน ๆ บางคนถูกส่งเข้าไปทำงานที่อยู่ไกลเข้าไปจากปอยเปต ต้องใช้เวลาเดินเท้าเป็นเดือน กว่าจะมาถึงพรมแดนคลองลึกและถ้าเป็นหญิงสาวหน้าตาดีแน่นอน ต้องถูกกักขังไว้ข่มขืนจนกว่าจะพอใจ ถึงปล่อยตัวออกมา ทั้งหมดคือข้อเท็จจริงที่ผู้ที่ถูกช่วยเหลือออกมาเล่าให้ฟัง
นอกจากนั้น ยังมีแง่มุมของชีวิตคนไทยที่ถูกหลอกอีกมากมาย ที่น่าสงสาร ผมยินดีช่วยทุกคนที่เป็นคนไทยที่ติดต่อขอความช่วยเหลือเข้ามายังทีมงาน เพราะเราคนไทย ไม่ทิ้งกัน “เบิร์ดกล่าวในที่สุด
—————————
ข่าวโดย/สมยศ สินธุพันธ์ ทีมข่าวสระแก้ว
