จากกรณีเด็กหญิง เอ นามสมมติ อายุ 15 ปี นักเรียนโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในอำเภอนาหว้า จ.นครพนม นำคลิปเสียงที่ตนเองแอบบันทึกไว้ ขณะที่ พ่อเลี้ยง ที่เป็นอดีตครูและเพิ่งเกษียณออกมาได้สองปี พยายามกระทำอนาจาร มาปรึกษาเพื่อนนักเรียนด้วยกัน โดยในคลิปเสียงเป็นการสนทนากันระหว่างตนเองกับ พ่อเลี้ยงทำนองแทะโลม โดยมีการจูบปากและจับหน้าอกเด็กด้วย ซึ่งเพื่อนนักเรียนได้แนะนำให้นำคลิปเสียงไปปรึกษากับตาและยาย หลังทราบเหตุตาและยายจึงพาเด็กหญิง เอ ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.นาหว้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ภายหลังผู้ก่อเหตุทราบเรื่องก็ให้แม่ของเด็กซึ่งเป็นภรรยาของตนเองมาขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับตาและยายของเด็กแต่ ตาและยายไม่ยอมยืนยันจะขอให้เด็กดำเนินคดีให้ถึงที่สุดผู้ก่อเหตุจึงแสดงอาการไม่พอใจฉุนเฉียวพร้อมข่มขู่ จะฟ้องกลับ เด็กและตายายฐานหมิ่นประมาท ยายของเด็กจึงร้องผู้สื่อข่าวให้ช่วยเหลือติดตามคดีเนื่องจากผ่านมาหลายวันแล้วแต่คดีไม่มีความคืบหน้าตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้านโนนสะอาด ตำบลนางัวอำเภอนาหว้าจังหวัดนครพนมซึ่งเป็นบ้านของ อดีตครูที่ถูกกล่าวหาว่าลวนลามลูกเลี้ยงอายุ 15 ปี เพื่อสอบหาข้อมูลเพิ่มเติมแต่ตัวครูไม่อยู่บ้านคงพบแต่ นางไพลิน โกษาแสง หรือ ลิน ภรรยา ของอดีตครูซึ่งเป็นแม่ ของน้องเอที่ถูกลวนลาม โดยนางลินเปิดเผยว่า อดีตครูซึ่งเป็นสามีตนได้ออกไปทำธุระข้างนอก โดยเหตุการณ์ที่น้องอ้างว่าถูกลวนลาม นั้น สามีตนยอมรับตั้งแต่วันแรกแล้วว่าเป็นความจริง โดยรับว่าเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบ แต่ก็มีสาเหตุเบื้องหลังที่ซับซ้อนกว่านั้น ซึ่งตนเองก็ไม่ได้นิ่งเฉยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้พูดคุยกับลูก แต่ลูกไม่ยอมฟังเพราะเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน มักเอาแต่ใจตัวเอง อย่างไรก็ตามตนก็จะพยายามพูดคุยกับตาของเด็กเพื่อขอให้ยุติเรื่อง เพราะที่ผ่านมาสามีอดีตครูก็ทำตัวเสมอต้นเสมอปลาย มาตลอดสามปีที่อยู่ด้วยกันมา แต่เนื่องจากตนเองมีปัญหาภายในครอบครัว หลังจากแม่เสียชีวิต พ่อของตนก็มีภรรยาใหม่ ทิ้งยายซึ่งเป็นแม่ยาย ให้ตนเลี้ยงดูแต่เพียงผู้เดียวทั้ง ๆ ที่ยายก็แบ่งมรดกให้จำนวนหนึ่ง แต่หลังรับมรดกแล้วพ่อก็ไปมีภรรยาใหม่ โดยไม่ดูแลแม่ยายแต่อย่างใด ปล่อยให้เป็นภาระของตนที่ต้องรับเอายายมาเลี้ยงดูแทน ทำให้มีปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัวเกิดขึ้นตลอดเวลา และหลังจากที่ตนเลิกกับสามีเก่าและมาคบหากับอดีตครู ทางบ้านก็ไม่พอใจ ด้วยเกรงว่าจะถูกอดีตครูปอกลอกเอาสมบัติจนหมดตัวจึงมักจะมีปากเสียงกันบ่อยครั้งและมักจะมีเรื่องระหองระแหงกันมาตลอด ทั้งๆ ที่อดีตครูเป็นคนมาช่วยสร้างครอบครัว ไม่ได้มาคิดจะปอกลอกตนแต่อย่างใด
ความคืบหน้าล่าสุดในช่วงสายของวันนี้ ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากตาของเด็กว่า ทางเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดนครพนมได้โทรศัพท์มาสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด และคดีความ ที่สภ.นาหว้า เบื้องต้นแล้ว โดยจะลงพื้นที่ในวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคมนี้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนได้นัดทั้งผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายมาสอบสวนต่อหน้าทีมสหวิชาชีพ ในวันดังกล่าว ส่วนเด็กผู้เสียหายหลังเกิดเหตุเกรงว่าจะไม่ปลอดภัยจึงได้เดินทางไปอยู่กับญาติทางพ่อ ที่จังหวัดสกลนคร
