จากกรณีเด็กหญิง เอ นามสมมติ อายุ 15 ปี นักเรียนโรงเรียนมีชื่อแห่งหนึ่งในอำเภอนาหว้า จ.นครพนม นำคลิปเสียงที่ตนเองแอบบันทึกไว้ ขณะที่ พ่อเลี้ยง ที่เป็นอดีตครูและเพิ่งเกษียรออกมาได้สองปี พยายามกระทำอนาจาร มาปรึกษาเพื่อนนักเรียนด้วยกัน โดยในคลิปเสียงเป็นการสนทนากันระหว่างตนเองกับ พ่อเลี้ยงทำนองแทะโลม โดยมีการจูบปากและจับหน้าอกเด็กด้วย ซึ่งเพื่อนนักเรียนได้แนะนำให้นำคลิปเสียงไปปรึกษากับตาและยาย หลังทราบเหตุตาและยายจึงพาเด็กหญิง เอ ไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.นาหว้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2567 ภายหลังผู้ก่อเหตุทราบเรื่องก็ให้แม่ของเด็กซึ่งเป็นภรรยาของตนเองมาขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับตาและยายของเด็กแต่ ตาและยายไม่ยอมยืนยันจะขอให้เด็กดำเนินคดีให้ถึงที่สุดผู้ก่อเหตุจึงมีอาการฉุนเฉียวพร้อมข่มขู่ จะฟ้องกลับ เด็กและตายายฐานหมิ่นประมาท ยายของเด็กจึงร้องผู้สื่อข่าวให้ช่วยเหลือติดตามคดีเนื่องจากผ่านมาหลายวันแล้วแต่คดีไม่มีความคืบหน้าตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ติดต่อพูดคุยกับน้องบี นามสมมติ อายุ 23 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้เสียหาย โดยน้องบีได้เปิดเผยว่าในวันเกิดเหตุคือวันที่ 8 สิงหาคม 2567 โดยปกติตนจะทำงานที่จังหวัดสมุทรปราการ ในวันเกิดเหตุตนได้กลับมาที่บ้านแต่เปิดรีสอร์ท พัก ตื่นเช้าขึ้นมาก็เกิดเรื่องเลยโดยวันก่อนที่จะเกิดเรื่องตนได้พบกับน้อง โดยน้องได้ขอตังค์ใช้ ตนก็บอกว่าจะให้โอนให้หรือจะรับเงินสดถ้ารับเงินสดก็ให้มาเอาที่รีสอร์ท และนี่คงเป็นต้นเหตุให้พ่อเลี้ยงคิดก่อเหตุ เนื่องจากตอนที่น้องขอให้พ่อเลี้ยงไปส่งที่โรงเรียนน้องได้ขอเงินแม่ใช้ แต่ไม่ไม่ให้น้องเลยบอกไปว่าจะไปเอากับพี่ที่รีสอร์ทก็ได้ ทำให้พ่อเลี้ยงคิดว่าน้องน่าจะเป็นเด็กใจแตกชอบเข้ารีสอร์ทกับผู้ชายเลยกล้าก่อเหตุ แต่ความจริงแล้วน้องจะมาเอาเงินกับตน ส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นครอบครัวเริ่มมีปัญหาเกิดขึ้นเมื่อแม่ตัดสินใจมาอยู่กินกับอดีตครู แม่เปลี่ยนไปมาก จากที่ไม่เคยดุด่าลูกเลยก็มักจะดุด่าโดยไม่มีเหตุผล มักจะเห็นสามีใหม่ดีกว่าลูกเสมอ ไม่เหมือนแต่ก่อน ตอนนี้แม่ไม่เอาลูกเลย หลังเกิดเหตุ ตนได้พูดคุยกับน้องโดยตกลงกันแล้วว่าหากแม่ตกลงยอมเลิกกับพ่อเลี้ยง พวกเราก็จะยอมความ ยินดีถอนแจ้งความให้ทั้งหมด แต่เมื่อคุยกับแม่แล้ว แม่กลับไม่ยอมแถมยังพูดทำนองน้อยใจว่าหากไม่มีแม่เสียคนเดียวทุกอย่างก็คงจบ พร้อมยื่นข้อเสนอให้น้องต่างๆ นา ๆทั้งรถมอเตอร์ไซด์ และเงินสด เพื่อแลกกับการให้น้องยอมถอนแจ้งความ แต่พวกเราไม่ยอม พวกเราอยากได้แม่ลินที่แสนดีของพวกเราคืนมาเท่านั้น หากไม่แล้วก็ต้องเอาเรื่องผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุดอย่างแน่นอน เพราะหลังเกิดเรื่องก็มีน้อง ๆที่เคยเป็นศิษย์เก่าที่โรงเรียนที่พ่อเลี้ยงเคยสอนอยู่ทักเข้ามาในเพจของตนว่า เขายังไม่เลิกนิสัยที่ชอบทำกับเด็กอีกเหรอ ทำให้ตนคิดว่าที่ผ่านมาเขาคงต้องทำแบบนี้กับเด็กนักเรียนมาไม่น้อยแต่เด็กไม่กล้าเอาเรื่อง
ขณะที่น้องเอได้กล่าวให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว ว่า ปกติพ่อเลี้ยงก็มีนิสัยดี ชอบสอนและแนะนำเรื่องราวต่าง ๆดี บางครั้งก็มีบ่นบ้างหากตนออกไปเที่ยวกลางคืน แต่พอเกิดเรื่องแล้วตนก็ไม่คิดที่จะอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับเขาต่อไปอีก หลังเกิดเหตุทั้งพ่อเลี้ยงและแม่ได้พยายามโทรติดต่อกับตนตลอด แต่ตนไม่อยากคุยด้วยจึงได้บลอคเบอร์ทั้งคู่ไปเลย โดยก่อนหน้านี้แม่พยายามตื้อให้ตนถอนแจ้งความมีทั้งคุยกับตนและคุยกับพี่สาวแต่พวกเราไม่ยอม ถ้าแม่ไม่ยอมเลิกกับเขาก็ช่างแก เราก็จะดำเนินคดีผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ซึ่งในวันจันทร์ที่ 19 สิงหาคมนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดให้มาพบพนักงานสอบสวนที่ สภ.นาหว้า เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งหากเจอกับพ่อเลี้ยงก็จะขออยู่ห่าง ๆเพื่อความปลอดภัยของตัวเอง
ข่าวน่าสนใจ:
- หญิงไทยเสียชีวิตปริศนา แฟนต่างชาตินอนอยู่กับศพ 3 วัน ตำรวจเร่งสอบหาสาเหตุ
- ชายวัย 50 ปี เปลี่ยนถังแก๊สเอง จุดเตาทำกับข้าวไฟพรึ่บคลอกเจ็บหนัก
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
- นครพนม: เลขาธิการ ป.ป.ส. และ มทภ.2/ผบ.นบ.ยส.24 ประชุมสรุปผลรอบ 3 เดือน โชว์ผลงานยึดยาบ้ากว่า 45 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 3 พันล้านบาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: