เพชรบุรี- เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 สิงหาคม 2567 ผู้ปกครอง นำเด็กหญิงบี อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.6 และกลุ่มเพื่อนอีก 5 คน รวมทั้งหมดเป็น 6 คน เดินทางมายืนหนังสือร้องทุกข์ต่อ จ่าอากาศเอก อภิชาติ แก้วโกศล สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งเป็น ส.ส.เพชรบุรี เขต 3 ในฐานะรองประธานกรรมาธิการการตำรวจสภาผู้แทนราษฎร
กรณีถูกผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในอำเภอบ้านลาด จ.เพชรบุรี กระทำอนาจารและทำร้ายร่างกาย โดยมี นายวรุธ คอนหงาย กำนันตำบลห้วยลึก นายวิชัย ยอดพราหม์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 6 นายอิน กุลทัศน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 และนายอำพล บุตรเล็ก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.ห้วยลึก อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ร่วมรับเรื่องร้องเรียน
สอบถามเด็กหญิงบี เล่าว่าเมื่อหลายวันก่อนขณะทำกิจกรรมนั่งสมาธิภายในโรงเรียนได้ถูกผู้อำนวยการใช้แฟ้มตีที่ศีรษะโดยไม่ทราบสาเหตุซึ่งตนได้ปวดระบมอยู่หลายวัน และต่อมาขณะที่ตนเดินไปเข้าห้องน้ำหญิงภายในโรงเรียนได้ถูกผู้อำนวยการคนดังกล่าว ใช้มือโอบกอดจากด้านหลัง และพยายามใช้มือล้วงเสื้อในและจับหน้าอกตน เมื่อเพื่อนเห็นจึงได้เข้ามาช่วยดึงตัวออกจากผู้อำนวยการ
ด้านเด็กหญิงซี เล่าว่าเมื่อหลายอาทิตย์ก่อนตนก็ได้ถูกผู้อำนวยการคนเดียวกัน กระทำอนาจารโดยการจับหน้าอกตนและผ่านมาอีกไม่กี่วันขณะที่ตนเดินไปเข้าห้องน้ำหญิง ผู้อำนวยการได้เดินตามมา และพยายามจะจับหน้าอกตน แต่ครั้งนี้ตนได้พยายามขัดขืน และมีเพื่อนช่วยไว้ทัน
ด้านเด็กผู้หญิงอีก 4 คน ได้เล่าว่าเคยถูกผู้อำนวยการคนดังกล่าวทำร้ายร่างกาย อยู่ดีๆ ก็เดินมาใช้แฟ้มและสิ่งของอื่น ๆ ตีที่ศีรษะโดยไม่ทราบสาเหตุเช่นกัน นอกจากนี้ เด็กชายดำ เล่าว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์และได้พบเห็นผู้อำนวยการกระทำอนาจาร และทำร้ายร่างกายเพื่อนผู้หญิงจริง
ในขณะที่ ผู้อำนวยการโรงเรียนฯ ดังกล่าวชี้แจงว่าตนไม่ได้กระทำต่อเด็กนักเรียนผู้หญิง ตามที่ถูกร้องเรียน แค่จะคิดตนก็ยังไม่เคย ขอยืนยันว่าตนถูกกลั่นแกล้ง ซึ่งตนได้เตรียมเอกสารและหลักฐานไปชี้แจงต่อผู้บังคับบัญชาแล้ว
เบื้องต้นเด็กนักเรียนหญิงทั้ง 6 คนได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรตำบลไร่สะท้อน อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี เพื่อเข้าแจ้งความให้ดำเนินคดีกับผู้อำนวยการโรงเรียนให้ถึงที่สุดจ่าเอกอภิชาติ แก้วโกศล ส.ส.เพชรบุรี เขต 3 พรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยว่า หลังจากได้รับการร้องเรียนได้เดินทางเข้ามาตรวจสอบในทันที ซึ่งตนจะได้ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรีเขต 1 ให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป
