ข้อมูลที่ผลศึกษากลายเป็นปัญหาการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นไม่ได้มีอยู่แล้ว แต่นักการเมืองไม่สนใจ ดันสร้างโครงการขนาดใหญ่โดยอาศัยกระแสน้ำท่วม ชาวสะเอียบวุ่นหนักเรียกแกนนำประชุมทุกวัน ข้อมูลผลวิจัยผลดีผลเสียรัฐไม่ฟัง ทิ้งงานโครงการสะเอียบโมเดลและอ่างขนาดกลางต้นน้ำยมล่าช้าเป็นสาเหตุให้น้ำท่วม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ ถึงความคืบหน้าหลังรัฐบาลเตรียมปลุกผีโครงการสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นที่ ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ล่าสุดชาวสะเอียบกว่า 2,000 ครอบครัวต่างเสียใจกับการตัดสินใจของนักการเมืองที่จะกลับมาสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นอีกครั้ง แกนนำต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีการประชุมเครียดในการตัดสินใจของรัฐบาล หลายกลุ่มชาวบ้านทั้งบ้านแม่เต้น บ้านดอนแก้ว บ้านดอนชัย และ บ้านดอนชัยสักทอง ต่างพากันออกมาพูดกันในตลาดถึงกรณีที่รัฐบาลตัดสินใจ ชาวบ้านทั้งหมู่บ้านไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของรัฐบาลในขณะนี้
นายเส็ง ขวัญยืน อดีตกำนันตำบลสะเอียบ และแกนนำต้านเขื่อนแก่งเสือเต้น เป็นแกนนำต้านเขื่อนในสมัยที่มีกระแสรุนแรงกว่า 20 ปีมาแล้ว ปัจจุบันเป็นผู้อาวุโสของหมู่บ้าน กล่าวว่า คิดไว้ในใจแล้วว่า ต้องมีคนปลุกผีแก่งเสือเต้นขึ้นมาจากนักการเมือง การต่อสู่เรื่องแก่งเสือเต้นสู้มาหลายยุค หลายรัฐบาล พบว่ามีการอนุมัติงบศึกษาโครงการสร้างเขื่อน ใช้เงินงบประมาณครั้งละ 100-200 ล้าน แล้วก็ไม่เกิดอะไร ถ้ารัฐบาลเอางบประมาณที่ไปศึกษามาแก้ปัญหาน้ำสร้างโครงการขนาดเล็ก ขนาดกลาง บล็อกน้ำแต่ต้นทางป่านนี้คงจะบรรเทาไปได้มากแล้ว
น้ำท่วมครั้งนี้ยังถือว่าโชคดีที่น้ำสาขาแม่น้ำยมไม่มีน้ำป่าออก มีเพียงต้นน้ำที่ อ.ปง ถ้าล็อคน้ำตามโครงการกิ่วผาวอก โครงการน้ำเม่า โครงการน้ำลู ถ้าบล็อกได้น้ำยมก็จะไม่ท่วมและแทบจะไม่มีน้ำไหลลงแม่น้ำยม น้ำปี๊ในเขตอ.เชียงม่วน จ.พะเยาน้ำปี๊มีโครงการสร้างอ่างเก็บน้ำนานแล้วแต่ไม่เสร็จผู้รับเหมาทิ้งงาน น้ำปี๊เป็นสาเหตุสำคัญทีทำให้น้ำท่วมแพร่ สุโขทัยในครั้งนี้ คือน้ำที่ไหลมาจากอ.บ้านหลวง จ.น่าน อยากให้นักวิชาการทำวิจัย ถ้าบล็อกน้ำปี๊ได้ทั้งหมดจะมีความรุนแรงเมื่อน้ำหลากซักกี่เซ็นต์ กี่เมตร ศึกษาให้รู้ชัดเจน
การต่อสู้ของชาวสะเอียบ สู้มานานกว่า 30 ปี นับแต่ปีพ.ศ. 2532 เป็นต้นมา มีแกนนำต่อต้านเขื่อน สิบกว่าคนแล้ว บางคนอายุมาก แก่ เสียชีวิตไปก็มา โดยเฉพาะกำนันชุม สะเอียบคง ที่เสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว เรื่องนี้ไม่รู้จบเพราะรัฐบาลเลี้ยงไข้มากกว่า ประชากรใน 4 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวจากปี 2538 เป็นต้นมา สะเอียบมีเศรษฐกิจที่ดีเก็บภาษีได้ปีละ 500 ล้านเศษ ถือว่าไม่ธรรมดาแล้ว สะเอียบเป็นชุมชนที่อยู่รวมกันหนาแน่น ถ้าเป็นไปตามรัฐบาลว่า จะเป็นเรื่องใหญ่สร้างความวุ่นวายมีความเดือดร้อนกับประชาชนในพื้นที่ ที่ได้รับบาปจากภัยธรรมชาติ
ชาวสะเอียบคงต้องกลับไปใช้วิธีเดิมๆ มาแบบเดิมเราก็ไปแล้วเดิม ฟังจากการประชุมสรุปว่าไม่มีวิธีไหนที่จะดีกว่าวิธีที่เคยปฏิบัติมา แบบนุ่มนวลก็เคยทำมาแล้วแต่อยู่ได้ชั่วขณะหนึ่ง ต่อไปก็คงต้องใช้ระบบเหมือนปี 2538 คงจะมีการประกาศปิดพื้นที่ ห้ามผู้เกี่ยวข้องเข้ามาหาข้อมูลต่างๆ อย่างเช่นกรมชลประทานที่ทำโครงการค้างๆ ไว้ ต้องมาพูดกันอีกครั้งว่ามีความจริงใจมากแค่ไหน ถ้าจะทำเหมือนที่ผ่านๆ มาก็เหมือนว่า “หลากกัน”นายเส็ง ขวัญยืนกล่าว
นายณัฐปคัลภ์ ศรีคำภา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลสะเอียบ ในฐานะ แกนนำต้างเขื่อนแก่งเสือเต้น กล่าวว่า ได้ติดตามข่าวจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี คือจะเอาป่า 100,000 ไร่ที่แพร่ไปแลกกับที่ทับลาน เรื่องนี้ทำไม่ถูกต้อง รัฐบาลไม่เคยคิดศึกษาผลกระทบในแต่ละจังหวัดก่อน จะเอาป่าของชาวแพร่ไปแลกกับทับลาน ชาวสะเอียบไม่ยอม การต่อสู่ต่อต้านเขื่อนขาวชาวสะเอียบ แกนนำสำคัญๆ หลายคนเสียชีวิตไปโดยเฉพาะกำนันชุม สะเอียบคง แต่ชาวสะเอียบมีคนรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ อย่าคิดว่า นายชุม สะเอียบคง นายกอบต.สะเอียบ หมดไปแล้วคิดว่าจะไม่มีคนไหนขึ้นมาอีกอย่าหวังเลย คนรุ่นใหม่ยืนยันจะขอสู้ต่อไปจะปกป้องผืนป่าสักทองที่เป็นป่าสำคัญแห่งสุดท้ายของประเทศให้ได้ และโครงการที่ชุมชนเสนอ คือ “โครงการจัดการน้ำแบบสะเอียบโมเดล” มีปัจจัยหลายอย่างที่ภาครัฐทำไม่เสร็จหรือไม่ให้ความสำคัญ ถ้าทำตามปกติจะแล้วเสร็จจะสามารถบรรเทาภัยพิบัติได้อย่างสมบูรณ์ การที่ยังดำเนินการล่าช้าเพื่อสร้างเขื่อนขนาดใหญ่หรือเปล่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความตั้งใจของชุมชนสะเอียบครั้งนี้ มีกระแสแรง แม้แต่ผู้อาวุโสของหมู่บ้านยังเชื่อว่า ชาวสะเอียบต้องใช้วิธีรุนแรง เช่นในอดีต มีการปิดถนน ปิดหมู่บ้าน ประณาม การกระทำของภาครัฐ อย่างไรก็ตามหลังจากตกเป็นกระแสทำให้มีผู้สนใจกล่าวถึงเรื่องราวของชาวสะเอียบอย่างมาก กลายเป็นกระแสสร้างไม่สร้างเริ่มเกิดความขัดแย้งทางความคิดในตัวเมืองแพร่ และอาจบานปลายไปถึงการสร้างความเกลียดชังแบ่งแยกอย่างไรก็ตามทางราชการในจังหวัดแพร่ ยังไม่มีกระแสออกมาดำเนินการใดๆ ในเรื่องนี้ แต่ชาวบ้านในชุมชนสะเอียบกำลังประชุมเตรียมการและจำกัดคนเข้าออกในหมู่บ้าน มีการนำรายชื่อนักการเมืองทั้ง 3 คนคือ นายภูมิธรรม เวชยชัย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายปลอดประสพ สุรัสวดี ไปให้ผีเจ้าบ้านที่บริเวณศาลผีเจ้าบ้านหอแดงดูและขอคำแนะนำว่าจะจัดการกับนักการเมืองทั้ง 3 คนอย่างไร ซึ่งหลังจากนั้นจะมีการนัดชุมนุมใหญ่ในวันที่ 7 กันยายน ชาวบ้านสี่หมู่บ้านแห่โลงศพของนักการเมืองไปทำพิธีสาปแช่งที่หอแดง หน้า รพ.สต.สะเอียบ /
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: