แม้จะประสบปัญหาหมอกควันปกคลุมและเกิดมลพิษทางอากาศอยู่เป็นประจำ ทำให้คุณบุญทัน ประยูรวงศ์ ชาวไร่อ้อย และเจ้าของศูนย์เพ(ร)าะสุข ตามรอยพ่อ “แดนสวรรค์ภาคตะวันตก” อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี บนเนื้อที่เกือบ 1,000 ไร่ ตระหนักดีว่าการหยุดเผาบนพื้นที่การเกษตรทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เริ่มต้นเพียง 5 ไร่ หลายสิบปีที่ผ่านมาคุณบุณทันได้แสดงให้เกษตรกรชาวไร่อ้อย เห็นว่าการหยุดเผาทำให้ดินที่ใช้ในการเพาะปลูกอ้อยไม่เสียหาย โดยเฉพาะเศษใบอ้อยที่เป็นอินทรียวัตถุทำให้ชาวไร่อ้อยได้ปุ๋ยเพิ่มขึ้นถึงไร่ละ 2 ตัน คุณบุญทันเล่าถึงปัญหาการเผาในพื้นที่การเกษตรว่า นอกจากจะทำให้หน้าดินเสียหาย เกิดมลภาวะในอากาศแล้ว ยังทำให้เกิดความล่าช้าในการตัดอ้อย เพราะใบอ้อยที่เผาไหม้จะลอยคลุ้ง และเกิดปัญหาแรงงานตามมาในที่สุด หลังหยุดเผาใบอ้อยปล่อยให้ใบคลุมดินทำให้วัชพืชไม่ขึ้น และเมื่อฝนตกลงมาใบก็จะทำหน้าที่ยึดดินไว้ไม่ให้ฝนเซาะหน้าดินจนเป็นร่อง ส่งผลให้อ้อยในไร่มีคุณภาพที่ดีขึ้น และสามารถตัดอ้อยได้มากขึ้นปริมาณผลผลิตจาก 2 ตันเป็น 10 ตัน คุณบุญทันยังบอกอีกว่า เมื่ออ้อยดีทั้งต้น มีรากลึกและใบที่ยาว ทำให้วัชพืชขึ้นน้อย เมื่อถึงเวลาไถเก็บ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้ยา ส่งผลให้ชีวิตครอบครัวเติบโตขึ้นอีกด้วย นอกจากเกษตรกรอย่างคุณบุญทันจะช่วยเป็นกระบอกเสียงให้เกษตรกรในพื้นที่ หยุดเผาในพื้นที่การเกษตรแล้ว นางศรีวรรณ์ โฉสูงเนิน เกษตรอำเภอบ่อพลอย และเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอบ่อพลอย มาสร้างการรับรู้ในเรื่องของการหยุดเผาในพื้นที่การเกษตรในช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวเป็นประจำและสำนักงานเกษตรอำเภอก็พร้อมให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ยังทำการเกษตรแบบเผาอยู่ และหากเกษตรกรท่านใดที่ต้องการคำแนะนำในการหยุดเผา ก็สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานเกษตรอำเภอหรือสำนักงานเกษตรจังหวัดใกล้บ้านท่านได้ทุกวันเวลาราชการ.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: