ชัยภูมิ – เดินหน้าขยายผลคัดสุดยอดสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย เมืองชัยภูมิ โกอินเตอร์ไกลเพิ่มพื้นที่ส่งออกต่างประเทศ ล่าสุดลง MOU เตรียมส่งออกสู่ประเทศจีนได้เพิ่มอีกประเทศ
( 11 ก.ย.67 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ น.ส.อรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานจัดการการคัดสรรสุดยอดสินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ.2567 ของ จ.ชัยภูมิ ที่ห้องประชุมลีลาวดี โรงแรมสยามริเวอร์รีสอร์ท ต.ในเมืองชัยภูมิ โดยมี นายโดมทอง ดิเรกศิลป์ พัฒนาการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมคณะกรรมการการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ในส่วนของพื้นที่ จ.ชัยภูมิ มาจากทุกอำเภอทั้งใน 16 อำเภอ ที่ผ่านเข้ารอบมาแล้ว
มีผู้ลงทะเบียนผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP จำนวน 2,018 ราย และลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ จำนวน 3,518 ผลิตภัตภัณฑ์ ซึ่งในวันนี้ เป็นการคัดสรรสุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ระดับจังหวัด มีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP เข้าร่วมการคัดสรร จำนวน 370 ราย/ ผลิตภัณฑ์ ประกอบด้วย ประเภทอาหาร จำนวน 74 ผลิตภัณฑ์ ประเภทเครื่องดื่ม จำนวน 13 ผลิตภัณฑ์ ประเภทผ้าและเครื่องแต่งกาย 206 ผลิตภัณฑ์ ประเภทของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก จำนวน 66 ผลิตภัณฑ์ ประเภทสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร 10 ผลิตภัณฑ์ ตามนนโยบาย กระตุ้นเศรษฐกิจ ลดความเลื่อมล้ำ ทางสังคม ด้วยการสร้างโอกาส การเข้าถึงบริการของรัฐ สร้างอาชีพและรายได้ที่มั่นคง เพื่อแก้ปัญญาความเดือดร้อนของประชาชน จนสามารถใช้เป็นแหล่งสร้างอาชีพสร้างรายได้ และเกิดความเข้มแข็งให้กับชุมชนได้
โดยครั้งนี้หลังมีการตัดสินผลประกอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ด้าน น.ส.อรอาภา โล่ห์วีระ รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า สุดยอดหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ไทย ปี พ.ศ.2567 ของ จ.ชัยภูมิ มีอยู่มากมายกระจายอยู่ในทุกอำเภอของ จ.ชัยภูมิ
ซึ่งโดยเฉพาะในปีนี้ จ.ชัยภูมิ ได้มีการขับเคลื่อนส่งเสริมสินค้าประเภทอาหาร คือหม่ำ ที่เป็นสินค้าของฝากอันดับหนึ่งของ จ.ชัยภูมิ มีการสร้างรายได้ในพื้นที่ต่อปีหลักหลายพันล้านบาท ให้เป็นสุดยอดสินค้าของประเทศไทยไปสู่ระดับโลก หลังมีการจัดงานเทศกาลหม่ำโลก ทำลายสถิตหม่ำยาวที่สุดในโลกได้อีกด้วยในปีนี้ ที่มีความยาวรวม 111 เมตร เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
ล่าสุดผลการตอบรับจากผู้บริโภคจากทั่วทั้งประเทศเพิ่มสูงขึ้นเป็นอย่างดี รวมทั้งในขณะนี้ จ.ชัยภูมิ ซึ่งยังเป็นการเผยแพร่อัตลักษณ์ หม่ำชัยภูมิ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหม่ำตำนานรัก เกิดขึ้นมายาวนานแต่โบราณนับหลายร้อยปี จากนายพรานออกไปล่าเนื้อในป่า ได้เนื้อมาก็คิดถึงภรรยาสุดที่รักอยู่ที่บ้านและลูก จึงอยากให้คนรักและครอบครัวได้รับประทานเนื้อสัตว์ที่ล่ามาได้ที่มีความรสชาติอร่อยมาก จึงทำการสับเนื้อ ผสมตับ คลุกเคล้ากับเกลือ กระเทียม เครื่องครัวสมุนไพรที่ชาวอีสานใช้ประกอบอาหารมาช้านาน และนำไปยัดใส่กระเพาะปัสสาวะของสัตว์เก็บไว้เพื่อถนอมอาหารไม่ให้เน่าเสือก่อนที่จะเดินทางกลับไปถึงบ้านเพื่อให้คนรักได้รับประทานอาหารชั้นเลิศแบบตัวเองบ้าง และการเดินทางกว่าจะลงจากป่ามาถึงบ้านก็ใช้เวลานานกว่า 1-3 เดือน ปรากฏว่าพอลูกเมียได้กิน หรือรับประทานหม่ำดังกล่าวกล่าว ก็ชื่นชอบ ถึงภูมิปัญญาการถนอมอาหารของคนโบราณมายาวนาน เพื่อเก็บรักษาเนื้อไม่ให้เน่าเสียทิ้งเปล่า และสามารถเก็บไว้รับประทานได้นานมากขึ้น และกลายเป็นรสชาติความอร่อยเป็นเอกลักษณ์ ของหม่ำชัยภูมิ ที่ทำมาจากทั้งการถนอมอาหารประเภทให้เป็นหม่ำเนื้อ หม่ำหมู ที่กลายเป็นอาหารชาวอีสานมาช้านานจนปัจจุบัน
ซึ่งในปีนี้ล่าสุดยังได้มีการส่งเสริมขับเคลื่อนสุดยอดสินค้าหม่ำชัยภูมิ ยกระดับสู่โกอินเตอร์ส่งออกไปต่างประเทศ โดยจะมีการลงนาม MOU กับประเทศจีน ที่จะเป็นสินค้าส่งออกไปสู่ประเทศจีนแล้ว ที่จะมีการนำส่งไปวางขายใน Modern Trade ได้ต่อไปในต่างประเทศเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
นอกจากนั้น จ.ชัยภูมิ ยังมีสินค้าประเภทผ้า มีชื่ออยู่หลากหลายประเภท ทั้งผ้าไหมโดยจะมีการจดทะเบียนรับรองมาตรฐาน GI ที่ก็จะเป็นสินค้าส่งออกที่จะเตรียมส่งไปขายในต่างประเทศให้ได้เพิ่มมากขึ้นอีกประเภทด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: