นครพนม : ดีเอสไอนำส่งคืนสิ่งของคืนให้ครูหำ หรือ ร.ท.สุวรรณศรี วงศ์จันทร์ (ครูฝึก) แล้ว จากการถูกหมายค้นบ้านพัก มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง จ.นครพนม เมื่อ 29 ต.ค 2564 หลังจากตรวจสอบแล้วไม่พบหลักฐานหรือความเชื่อมโยงกับคดีหมวดบอล ถูกยิงเสียชีวิตปริศนาในค่าย แต่อย่างใด
จากกรณีที่ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) นำโดย ร.ต.ท.เสฏฐวุฒิ สายป้อง ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษเขตพื้นที่ 3 ได้ร่วมตรวจค้นกับคณะพนักงานสืบสวนที่ 96/2564 ดีเอสไอ จนท.ทหาร สห.มทบ.210 และ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม เข้าตรวจค้นบ้านพัก มทบ.210 ในค่ายพระยอดเมืองขวาง จ.นครพนม โดยได้ประสานการเข้าตรวจค้น กับ พล.ต.สถาพร บุญชู ผบ.มทบ 210 และ พ.ท.กริชเพชร โภคา รองหัวหน้ากองข่าว มทบ.210 ในขณะนั้น กรณีที่ ร.ต.รุ่งเฉลิม พันธุ์สวัสดิ์ หรือ หมวดบอล ตำแหน่ง รองผู้บังคับหมวดดุริยางค์ มณฑลทหารบกที่ 210 ถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 ก.พ.2564 เวลาประมาณ 19.30 น. เหตุเกิดที่ มทบ.210 ค่ายพระยอดเมืองขวาง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 12 ก.ย.2567 เวลา 10:00 น ที่ สภ.เมืองนครพนม ศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษพื้นทีื 4 กรมสอบสวนคดีพิเศษ จังหวัดขอนแก่น ได้นำส่งคืนสิ่งของที่ตรวจยึด จำนวน 6 รายการ ได้แก่ สมุดบันทึก 1 เล่ม กระสุนขนาด .45 มิลลิเมตร จำนวน 35 นัด ซองกระสุน .45 มิลลิเมตร จำนวน 1 ซอง โน๊ตบุ๊ค 1 เครื่อง พร้อมอุปกรณ์ เสื้อแขนยาว ลายพราง 1 ตัว โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ไปจากบ้านพัก ของครูหำ หรือ ร.ท.สุวรรณศรี วงศ์จันทร์ (ครูฝึก) ในค่ายพระยอดเมืองขวาง หลังจากที่ตรวจสอบแล้วไม่พบหลักฐานหรือข้อมูลที่เชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรมหมวดบอลแต่อย่างใด รวมทั้งการตรวจค้นบ้านพักข้าราชการอีก 2 ราย ในค่ายพระยอดเมืองขวางก็ไม่พบหลักฐานใดๆที่เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมหมวดบอลเช่นเดียวกัน แต่ยังไม่ได้รับคืนสิ่งของจากเจ้าหน้าที่ที่ตรวจยึดไปแต่อย่างใด โดยรายหนึ่งนั้น ได้เคยถูกผู้มีอิทธิพลเรียกไปข่มขู่ให้รับสารภาพว่าเป็นมือปืนในคดีนี้ด้วย แต่เจ้าตัวไม่ยินยอมเนื่องจากไม่ได้เกี่ยวข้อง จึงถูกคุกคามมาโดยตลอด
ครูหำ หรือ ร.ท.สุวรรณศรี วงศ์จันทร์ (ครูฝึก) ได้เปิดเผยว่าตนเองได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงจากการเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ในวันนั้น เนื่องจากในขณะนั้นไม่มีผู้ใดพักอาศัยอยู่ที่บ้านพัก เพราะตนเองถูกส่งไปปฏิบัติงานที่จังหวัดมุกดาหาร และไม่ได้รับการติดต่อหรือประสานงานแต่อย่างใด
ซึ่งตนจะขอใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการทวงคืนความเป็นธรรมเนื่องจากตนเองถูกละเมิด ถูกงัดบ้านมีทรัพย์สินเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงจนไม่รู้จะกอบกู้อย่างไร ถูกสังคมเข้าใจผิดเป็นตราบาปติดตัว ทั้งที่ตนเองให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่มาตั้งแต่เริ่มต้นในฐานะพยาน และเปิดเผยต่อว่าสาเหตุที่ตนเองถูกออกหมายค้นบ้านนั้น เนื่องมาจากมีพยานบางรายให้การเท็จกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนนำไปสู่การขอออกหมายค้น ต้องไปสอบถามพยานเหล่านั้นแหละว่า ใครสั่งมา เพื่ออะไร และในขณะเดี๋ยวกันนี้นได้มีการประกาศข่าวในค่ายว่าจะออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องในเร็วๆ นี้ เหมือนท่านผู้มีอิทธิพลจะชี้นำให้สังคมเชื่อว่าผู้ทีถูกออกหมายค้นเป็นผู้กระทำผิดตัวจริง ดูท่านมั่นอกมั่นใจมากกว่าเจ้าหน้าที่ผู้ทำคดีเสียอีก มีอะไรซ่อนเร้นอยู่เบื้องหลังหรือไม่
ซึ่งสาเหตุที่ตนถูกโยงให้เกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมหมวดบอลนั้น น่าจะเนื่องมาจากตนเองสอบเลื่อนฐานะเป็นนายทหารสัญญาบัตรได้ก่อนเกิดเหตุฆาตกรรมประมาณ 3 อาทิตย์ แต่ได้ไปขัดผลประโยชน์ของผู้มีอิทธิพล ซึ่งส่งคนเข้าสอบด้วยแต่ไม่ผ่าน ได้เป็นตัวอะไหล่ เลยแสวงประโยชน์นำไปเชื่อมโยงกับคดีฆาตกรรม เพื่อให้ตนมีความผิดต้องหาคดีอาญา แล้วจะเลื่อนตัวอะไหล่ซึ่งเป็นคนของตนมาบรรจุแทน แต่ก็ไม่สำเร็จเพราะไม่สมเหตุสมผล และอีกเหตุผลหนึ่งเพื่อต้องการโยนความผิดให้ ผบ.มทบ.210 ในขณะนั้น ( พล.ท.สามารถ จินตสมิทธิ์ ) ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อให้มีมลทินมัวหมอง และถูกปรับย้ายให้พ้นตำแหน่ง ผบ.มทบ.210 ในทันที เพื่อจะได้มีคนใหม่มาทดแทน แต่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวในที่สุดวันนี้ความจริงก็ปรากฏอย่างที่ทุกท่านได้เห็น ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม และศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษพื้นที่ 4 จังหวัดขอนแก่น ที่ได้คืนความเป็นธรรมให้กับตนเองและคนอื่นๆ ที่ถูกพาดพิงด้วย ที่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา และตนขอเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและดีเอสไอในการดำเนินคดีนี้ต่อไป
