ราชบุรี จากกรณีที่มีคนร้ายเป็นชาย 1 คน สวมหมวกกันน็อคแบบเต็มใบ สวมเสื้อคลุมสีเทา นุ่งกางเกงขาสามส่วน ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าสะดวกซื้อซึ่งตั้งอยู่บริเวณปากซอย 15 ถ.มนตรีสุริยวงศ์ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี แล้วเข้าไปก่อเหตุใช้อาวุธมีดจี้ชิงทรัพย์พนักงานในร้านกวาดเงินไป 2600 บาท โดยอ้างว่าจะนำเงินไปให้พ่อ เหตุเกิดเมื่อช่วงเวลา 03.30 น. ของวันที่ 12 ก.ย.67 ที่ผ่านมา
ล่าสุดในวันนี้(13 ก.ย. 67) พล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี พร้อมด้วยพ.ต.อ.ทรงวุฒิ เจริญวิชยเดช ผกก.สภ.เมืองราชบุรี และ พ.ต.ท.ต้องชนะ อารีมิตร รองผกก.ป.สภ.เมืองราชบุรี ได้นำตัวนายธนวัฒน์ ปิ่นแก้ว อายุ 30 ปี เป็นชาวต.คูบัว อ.เมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นคนร้ายที่ชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อ มาทำแผนหลังไปติดตามจับกุมมาได้เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา
โดยนายธนวัฒน์ ปิ่นแก้ว ยอมรับว่าเป็นคนร้ายที่เข้าไปจี้ชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อจริง โดยวันที่ 10 ก.ย.67 เวลาประมาณ 01.50 น. ได้เข้าไปก่อเหตุชิงทรัพย์ในร้านสะดวกซื้อบริเวณสี่แยกห้วยชินสีห์ โดยใช้อาวุธมีด ได้เงินสดไปประมาณ 1,700 บาท และในวันที่ 13 ก.ย. 67 เวลาประมาณ 03.30 น. ได้ไปก่อเหตุที่ร้านสะดวกซื้อบริเวณปากซอย 15 ถ.มนตรีสุริยวงศ์ เขตเทศบาลเมืองราชบุรี โดยใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังก่อเหตุได้ขี่รถหลบหนีไปอยู่ตามบ้านญาติจนมาถูกเจ้าหน้าที่จับได้เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าทุกครั้งที่ก่อเหตุไม่ได้ใช้ความรุนแรง แต่ใช้คำพูดขอดีๆ ซึ่งเงินที่ได้มาก็จะนำไปซื้อเฮโรอีนมาเสพ ไม่ได้นำเงินไปให้พ่อตามที่บอกกับพนักงาน ส่วนตัวนั้นมีอาชีพเป็นช่างติดตั้งฝ้าเพดาน แต่เงินไม่พอใช้จึงมาก่อเหตุ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยติดคุกในคดีเสพและค้าเฮโรอีน และเพิ่งจะพ้นโทษมาได้ไม่นานก็มาก่อเหตุชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้ออีก
ด้านพล.ต.ต.วชิรพงษ์ อมราพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี ก็บอกว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งในเคสแรกคือชิงทรัพย์ที่ร้านสะดวกซื้อ สี่แยกห้วยชินสีห์ เจ้าหน้าที่ก็ได้ออกติดตามสืบสวนหาตัวคนร้ายและเมื่อคนร้ายมาก่อเหตุชิงทรัพย์อีกจุด จึงทำให้มีข้อมูลของคนร้ายเพิ่มมากขึ้น จึงได้ออกติดตามจนทราบว่าคนร้ายเป็นใคร และได้ไปติดตามจับกุมตัว ซึ่งคนร้ายไม่ได้ใช้อาวุธร้ายแรงในการชิงทรัพย์แต่ก็ถือว่าเป็นคดีอุกอาจ ที่ผ่านมาในรอบหลายปีไม่มีเหตุการณ์ชิงทรัพย์ร้านสะดวกซื้อในจ.ราชบุรี มีแต่ร้านทอง และตู้เอทีเอ็มบ้าง ซึ่งทำให้ทางตำรวจต้องปรับแผนในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย โดยจัดกำลังทั้งสายตรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบไปดูแล แต่เนื่องจากมีร้านสะดวกซื้อและแบรนด์อื่นจำนวนมากแต่กำลังเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ แต่ทั้งนี้ก็จะดูแลให้ดีที่สุด โดยจะเน้นช่วงหลังคืนไปแล้ว ซึ่งอาจจะต้องมีการตั้งด่านสกัดลอย นอกจากนี้ก็อยากให้ทางร้านสะดวกซื้อหรือแบรนด์อื่นๆ ได้ดูแลตัวเองด้วย ซึ่งอาจจะต้องมีการจ้างผู้รักษาความปลอดภัยมาเพิ่มในช่วงเวลาหลังเที่ยงคืน โดยเฉพาะร้านที่มีแต่ผู้หญิงก็ควรจะเพิ่มผู้ชายเข้ามาด้วย ทั้งนี้ก็อยากส่งเสียงไปยังผู้บริหารของร้านสะดวกซื้อและแบรนด์อื่นๆ ให้เห็นใจเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย เนื่องจากมีกำลังน้อยและจะต้องไปดูแลพี่น้องประชาชนในส่วนอื่นๆ ด้วยจะมาดูแลร้านสะดวกซื้ออย่างเดียวก็ไม่ได้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: