X

ปราจีนบุรี “น้องเอวา”จากอกแม่เมย์ไปแล้ว หลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย 

ปราจีนบุรี – น้องเอวาจากอกแม่เมย์ไปแล้ว หลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย บอกลาครั้งสุดท้าย ผ่านโชเชียล มีคนส่งกำลังใจให้ท่วมท้น

เมื่อวันที่ 19 ก.ย.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม่เมย์ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Natsuda Klinkham เป็นภาพแม่เมย์จับมือน้องเอวา เพื่อบอกลาครั้งสุดท้าย เพราะลูกนั้นเสียชีวิตลงแล้ว จากอาการป่วยมะเร็งต่อมหมวกไตระยะสุดท้าย โดยแม่เมย์ระบุว่า “เดินทางไปรอแม่ที่ดาวก่อนนะลูก เดินไปตามทางสวนดอกไม้สวย ๆ ไม่เจ็บปวด ไม่ทรมานอีกแล้ว ลืมมันไปให้หมดเลยนะลูก ทิ้งความเจ็บปวดไว้ในชาตินี้ให้หมด พอแล้ว.. เกิดมาใหม่ขอให้หนูร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บนะ รักสุดหัวใจน้องเอวา”

โดยโพสต์ดังกล่าว สร้างความใจหายให้กับผู้ที่ติดตามเรื่องราวการต่อสู้ของแม่เมย์ และน้องเอวา จนมีการแชร์ออกไปกว่า 3 หมื่นครั้ง โดยต่างส่งกำลังใจให้แม่เมย์ ชื่นชมที่เข้มแข็งเพื่อลูกมาเต็มที่แล้ว พร้อมอวยพรให้น้องเอวา ไปเป็นนางฟ้าตัวน้อยอยู่บนสวรรค์ จากนี้ไม่ต้องทนทุกข์จากโรคร้ายอีกแล้ว


ต่อมา แม่เมย์  พร้อมญาติ ได้นำร่าง ด.ญ.ภัทรศยา กลิ่นขำ หรือน้องเอวา ไปทำพิธีรดน้ำศพ เวลา 14.00 น. ที่วัดสระแท่น ต.นาดี อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และในช่วงค่ำของทุกคืนจะมีพิธีสวดพระอภิธรรมศพ รวม 3 คืน และวันอาทิตย์ที่ 22 กันยายน เวลา 15.00 น. จะมีพิธีฌาปนกิจ โดยบรรยากาศในวันนี้มีญาติและคนในพื้นที่ ที่รักในตัวน้องเอวาไปร่วมงานเป็นจำนวนมาก

แม่เมย์ น.ส.ณัฐสุดา กลิ่นขำ แม่ของน้องเอวา กล่าวว่า น้องให้เคมีบำบัดและฉายแสง จนครบกระบวนการที่หมอวางแผนให้ น้องป่วยเป็นมะเร็ง จะต้องให้คีโมแล้วต้องไปฉายแสง พอครบคอส หมอนัด MRI  เพื่อสแกนดูเชื้อ พบว่า เชื้อสงบดี ใช้เวลารักษา 8 เดือนแล้ว เชื้อก็กลับมากระจาย ที่กลับมารักษาใหม่น้องปกติทุกอย่าง กินเก่ง พูดเก่ง เล่นได้เหมือนเด็กปกติ แต่ให้คีโมแล้วผมร่วง พูดปกติไม่มีเหนื่อยไม่มีอะไรผิดปกติเลย ร่างกายก็ไม่ได้ผอมโซ เพราะเป็นเด็กที่กินเก่งมากตอนที่น้องจะจากไป หนูไม่ได้พูดอะไรเลย


เธอบอกอีกว่า เมื่อวานตอนเย็นยังเห็นน้องว่ายังดีอยู่ ไม่คิดว่าเพียงกี่ชั่วโมง เขาก็ไปแล้ว  ไม่ได้บอกลาอะไรกันเลย แต่ช่วงก่อนหน้านั้น ที่จะนิมนต์พระมาสวด น้องดูแย่มาก ๆ ดูไม่ดี หนูคิดว่าน้องคงไม่อยู่แล้ว เขาคงจะไปแล้ว คนโตก็บอกว่า ให้บอกลาลูก วันนั้นหนูก็บอกลาลูก  แต่วันนี้มันเร็วไปหมดตอนที่เขาไม่มีลมหนูยังช็อก มาพูดตอนที่น้องไปแล้ว ถ้าน้องรับรู้ได้ ตนอยากบอกเขาว่า ไม่ต้องห่วงหนู หนูจะใช้ชีวิตให้ดีที่สุด เพราะน้องเอวาห่วงหนูมาก จะบอกลูกให้ไปรอแม่ก่อนเดี๋ยวแม่ตามไป เดี๋ยวได้เจอกัน  เขาเก่งที่สุด หนูกับลูกสู้กันมามาก ๆ แล้ว ไม่ติดใจอะไรแล้ว หนูรู้สึกว่าเขาไปสบายจริง ๆ

ก่อนที่น้องจะเสีย เขาปวดด้วยตัวโรค เขาปวดมากมาก ขนาดนั่งกอดกันสองคน หนูก็คุยถามลูกว่า เอวารู้ไหม ตายแล้วจะเป็นอย่างไร เอวาบอกว่าหนูไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหน หนูรู้แค่ว่าหนูอยากอยู่กับแม่ ถ้าหนูตายแม่ไปอยู่กับหนูได้ไหม หนูไม่อยากอยู่คนเดียว หนูก็ได้แต่บอกลูกว่า หนูจะมีแม่อยู่ข้าง ๆ อยากรู้ความรูสึกเขาตอนนี้เขาเป็นอย่างไร เอวาถามว่า ตัวโรคของหนูเป็นหนักเลยเหรอ  เราก็บอกว่า โรคหนูดื้อมาก ๆ แต่ไม่เป็นไร แม่จะอยู่ข้าง ๆ ลูกตลอด

น้องมีไข้สูง 39 องศา และอวัยวะของน้องเป็นหนอง ลิ้นฮ่อเลือด มีหนองไหลออกจากปาก  แม่ก็พาน้องไปแอดมิดเลย ก็ดูเรื่องติดเชื้อ พอติดเชื้อผ่าน ก็เป็นงูสวัด ขึ้นตา น้องมีภูมิต่ำ ช่วงนั้นเป็นไวรัสมาขึ้นมาที่ตา หนูก็ไม่รู้ว่าเป็นงูสวัด เป็นตุ่มเล็ก ๆ ใส ๆ พอตุ่มแตกก็ลามไปหมดเลย ตาปิด 2 ข้างไปเลย น้องก็สู้ขนาดตาปิดก็ยังกินข้าวได้ แม่จ๋าขอระบายสีได้ไหม น้องสู้จริง ๆ ที่น้องสู้เพราะน้องอยากอยู่กับหนูจริง ๆ หนูก็รู้ว่าใจเขาไม่อยากไป แต่น้องใจสู้


ต่อมา  ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถาม เรื่องมีเพจและใน TIKTOK มีการลงว่า แม่ “น้องเอวา” ขอเงินบริจาคเพื่อช่วยเหลือในการรักษาน้องจริงหรือไม่นั้น น.ส.ณัฐสุดา กลิ่นขำ แม่ของน้องเอวา ได้บอกว่า ตนเองไม่เคยขอบริจาคเงินแต่อย่างใดเลย เคยมีเพื่อนโทรมาบอกว่า ใน TIKTOK ได้เอาชื่อตนเองไปลงเพื่อขอบริจาค ซึ่งตนเองก็ได้ลงเพจไปแล้วว่า ไม่เคยขอบริจาคเงินแต่อย่างใด จึงขอให้สื่อมวลชนลงข่าวเรื่องนี้ให้ด้วย


————————–
ข่าว-ภาพโดย/ทองสุข สิงห์พิมพ์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"