ฉะเชิงเทรา – เครื่องบินเล็กโหม่งโลกครบ 1 เดือนเต็ม ยังไร้วี่แววสาเหตุการตก ขณะชาวบ้านกังขานับวันรอคอยฟังความกระจ่างชัด จากหน่วยงานรัฐและผู้เกี่ยวข้อง ส่วนบรรยากาศในพื้นที่กลับมาเงียบสงบ สุดวังเวงแทบไร้ผู้คนสัญจรผ่านอีกครั้ง ทั้งสภาพร่องรอยพื้นที่บ่อหลุมจากการขุดคุ้ยค้นหาซากและชิ้นส่วนมนุษย์ ยังคงอยู่ในสภาพเดิม นับจากเมื่อวันที่ทุกหน่วยงานถอนตัวออกจากพื้นที่จนหมดเกลี้ยง
วันที่ 23 ก.ย.67 เวลา 15.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศสภาพของพื้นที่ บริเวณจุดเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินเล็กยี่ห้อเชสนา รุ่นคาราวาน C208 เที่ยวบิน TFT 209 สุวรรณภูมิ-เกาะไม้ชี้ จ.ตราด ตกในพื้นที่ชุ่มน้ำ ม.6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อเวลา 14.56 น. ของวันที่ 22 ส.ค.67 ที่ผ่านมา จนทำให้มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที จำนวน 9 ราย โดยหายไปพร้อมกับซากของเครื่องบินที่แหลกละเอียดจมลงสู่ภายใต้บ่อโคลน เมื่อกว่า 1 เดือนที่ผ่านมา ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น
ข่าวน่าสนใจ:
ล่าสุดในพื้นที่ขณะนี้ ได้กลับมาสู่ความเงียบสงบลงอีกครั้ง โดยมีเพียงยานพาหนะที่สัญจรผ่านบนถนนสาย เขาดิน-บางหัก เป็นระยะอย่างประปราย ขณะที่เต็นท์อำนวยการซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ และเครื่องกั้น สิ่งกีดขวางที่เคยกันพื้นที่ไว้ ได้ถูกเก็บออกไปจนหมดแล้ว เหลือเพียงแต่เทปแบ่งแนวเส้นพลาสติก ที่ถูกนำมาขึงกันพื้นที่เกิดเหตุไว้ตั้งแต่ในวันแรกเพียงบางส่วนเท่านั้น และยังคงมีเศษสิ่งของ อุปกรณ์การเก็บค้นหาซากมนุษย์ เช่น กะละมัง และตะกร้าพลาสติก กองทิ้งไว้บางส่วน
ขณะที่ร่องรอยของการขุดคุ้นค้นหาซากเครื่องบิน และชิ้นส่วนมนุษย์ และหลุมบ่อที่ถูกขุดไว้ในพื้นที่การค้นหายังคงอยู่สภาพเดิม โดยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ หลังจากวันสุดท้ายที่ทาง จนท.AAIC พร้อมด้วยทางบริษัทผู้เป็นเจ้าของเครื่องบิน ที่ได้กลับมาค้นหาชิ้นส่วนเพิ่มเติมอีกครั้ง เมื่อวันที่ 6 ก.ย.67 ที่ผ่านมา ก่อนที่คณะกรรมการสอบสวนกรณีเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยาน (AAIC) จะยุติการประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมกรณีอากาศยานตก และมีการเปิดพื้นที่ให้เป็นไปตามปกติ
สอบถาม นายยุรนันท์ สว่างแจ้ง อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/2 ม.6 ต.เขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมีบ้านพักอาศัยอยู่ตรงข้ามกับจุดเกิดเหตุ กล่าวว่า หลังจากทาง จนท.ชุดสุดท้าย คือ คณะกรรมการสอบสวนกรณีเกี่ยวกับอุบัติเหตุของอากาศยาน (AAIC) และบริษัทไทยฟลายอิ้งเซอร์วิส จำกัด ผู้เป็นเจ้าของเครื่องบินเล็กที่ตก ได้เดินทางลงมาในพื้นที่เพื่อค้นหาเศษซากชิ้นส่วนของเครื่องบินเพิ่มเติมเมื่อวันที่ 6 ก.ย.67 ที่ผ่านมาแล้ว ยังไม่มี จนท.จากหน่วยงานใดลงมาในพื้นที่อีกเลย
โดยมีเพียงกลุ่มญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ เดินทางเข้ามาในพื้นที่อีก 1 ครั้ง ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นญาติของผู้สูญหายหรือผู้เสียชีวิตรายใด เนื่องจากเขาขับรถเข้าไปยังที่ด้านในบริเวณจุดเกิดเหตุ ขณะที่ประชาชนทั่วไปนั้น ไม่พบว่ามีใครสนใจเข้ามาดูในพื้นที่เกิดเหตุอีกเลย เพราะเหตุการณ์เริ่มผ่านเลยมานานมากถึง 1 เดือนแล้ว ส่วนสาเหตุของการตกของเครื่องบินนั้น ชาวบ้านในพื้นที่ทั่วไปก็อยากรู้ว่ามีสาเหตุเกิดจากอะไรที่แน่ชัด
เพราะถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงในพื้นที่ และสะเทือนใจต่อคนทั่วไปทั้งตำบล ขณะที่บรรยากาศในเวลาค่ำคืนนั้น ไม่พบว่ามีสิ่งผิดปกติอะไร แม้ตนเองจะรู้สึกหวาดกลัวอยู่บ้าง เพราะมีผู้มาเสียชีวิตเป็นจำนวนมากถึง 9 คนในพื้นที่หน้าบ้าน แต่ก็เป็นเพียงความเงียบสงัดในเวลาค่ำคืนเท่านั้น โดยไม่ได้มีเสียงแปลกปลอมหรือสิ่งผิดปกติอะไรที่เหนือธรรมชาติ ดังออกมาจากจุดเกิดเหตุเครื่องบินตก นายยุรนันท์ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: