ชัยภูมิ – พร้อมเรียกถกด่วนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งสร้างความเข้าใจประชาชนทุกพื้นที่อย่าแตกตื่นข่าวเฟคนิวส์ หรือข่าวปลอม ที่ออกมาจำนวนมากที่เกี่ยวข้องเกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดชัยภูมิในขณะนี้ด้วย ซึ่งมีเพียงพื้นที่บางส่วนที่มีผลกระทบในพื้นที่รับน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำเท่านั้น พร้อมมีมาตรการรองรับเร่งระบายน้ำออกนอกพื้นที่-แก้ไขในระยะยาวไปจนถึงเตรียมรับมีแนวโน้มจะมีพายุลูกใหม่จะเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย และ จ.ชัยภูมิ ได้อีกลูกใหม่ในช่วงต้นเดือน ต.ค.67 นี้อีกด้วยแล้ว ขอ ปชช.ทุกพื้นที่ติดตามสถานการณ์การแจ้งเตือนข่าสารจากทางจังหวัด-ผู้นำชุมชนโดยตรง ขออย่าตื่นตระหนก!
( 23 ก.ย.67 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ หลังจากพายุซูลิกสลายตัว กลายเป็นร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทย รวมทั้งในพื้นที่ภาคตะวันออกแยงเหนือ หรือ ภาคอีสานตอนบน และ จ.ชัยภูมิ เกิดฝนตกหนักติดต่อกันมาต่อเนื่องกว่า 4 วัน ที่ผ่านมา
และเกิดมีความตื่นตระหนกรวมทั้งมีข้อมูลการเผยแพร่ข่าวสารที่นำเสนอออกไปในโลกโซเชียลไม่ตรงกับข้อเท็จจริง หรือเฟคนิวส์ออกมาจำนวนมากในขณะนี้ว่า จ.ชัยภูมิ เกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่หนักในขณะนี้นั้น จนทำให้คนไม่กล้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ในขณะนี้ตามมาเป็นจำนวนมากด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
ล่าสุดเมื่อช่วงเวลา 11.00 น.- 14.00 น.วันที่ 23 กันยายน 2567ที่ผ่านมา นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ได้มีการเรียกประชุมด่วนคณะทำงานติดตามสถานการณ์น้ำอุทกภัย จ.ชัยภูมิ ร่วมกับตัวแทนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ
เพื่อสรุปสถานการณ์น้ำ ในการการป้องกันแก้ไขปัญหาอุกภัย หรือ น้ำท่วม และปัญหาน้ำแล้งในพื้นที่ ล่าสุด ทางกรมอุตุนิยมวิทยา ได้แจ้งผลการติดตามสถานการณ์น้ำฝนตกในพื้นที่หลังจากวันนี้ 23 ก.ย.67 เป็นต้นไป จะเริ่มมีปริมาณฝนตกในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ลดลงลงต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 25 ก.ย.67 นี้ จากนั้นฝนก็จะทิ้งช่วงตกน้อยลงต่อเนื่องไปจนถึงสิ้นเดือน ก.ย.67 นี้
ก่อนที่ทางกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าจะมีพายุลูกใหม่เข้ามาประเทศไทย และ จ.ชัยภูมิ ได้อีกครั้งประมาณตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.67 ที่จะมีฝนตกหนักเข้ามาเพิ่มในพื้นที่อีกครั้งได้อีกช่วงวันที่ 1-3 ต.ค.67 นี้ ซึ่งก็คาดว่าจะไม่รุนแรงไปมากกว่าอิทธิพลพายุซูลิก ที่จะสลายตัวเป็นร่องมรสุมพาดผ่านประเทศไทยได้อีกครั้ง ก่อนที่จะหมดฝนยาวไปจนถึงสิ้นปี 2567 นี้
โดยล่าสุดผลสรุปภาพรวมของ จ.ชัยภูมิ ที่ได้รับอิทธิพลจากพายุซูลิกสลายตัวเกิดฝนตกหนักเข้ามาในพื้นที่ในขณะนี้แล้ว ใน จ.ชัยภูมิ มี 16 อำเภอ มีแหล่งเก็บกักน้ำทั้งเขื่อนขนาดใหญ่ กลาง เล็ก ทั้งหมดรวม 14 แห่ง ที่มีความจุดเต็ม 100 % ในปัจจุบันเพียง 2 แห่ง ที่อ่างเก็บน้ำบ้านเพชร อ.ภูเขียว และที่เขื่อนลำประทาว ตอนล่าง รอยต่อ อ.แก้งคร้อ และ อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่เขื่อนลำประทาวมี 2ตอน คือตอนบน มีความจุด 44 ล้าน ลบ.ม. แต่ปัจจุบันเหลือน้ำน้อยเพียง18 ล้าน ลบ.ม.ที่ยังสามารถรับน้ำได้อีกมาก ส่วนเขื่อนลำประทาวตอนล่าง มีความจุด 14 ล้าน ลบ.ม.ปัจจุบันมีความจุดเต็ม 100 % ซึ่งปัจจุบันเกิดปัญหาการบริหารจัดการน้ำท่วมแล้งไม่มีศักยภาพ โดยมีโครงการพลันสูบน้ำจากเขื่อนประทาวล่างที่เต็มไปเก็บไว้บนเขื่อนประทาวบน ที่ขาดน้ำอีกมาก โครงการนี้ต้องรอว่าโครงการนี้จะเสร็จได้ยาวนานไปถึงปี 2569 ซึ่งหากโครงการนี้แล้วเสร็จจะช่วยลดปัญหาน้ำล้นสันเขื่อนประทาวล่างหลากผ่านมาท่วมตัวเมืองโซนเศรษฐกิจกลางเมืองชัยภูมิไม่ให้เกิดปัญหาน้ำท่วมหนักซ้ำซากในช่วงหน้าฝนทุกปีได้ดีเพิ่มขึ้นอีกทางได้อีกด้วย และในปัจจุบันแหล่งเขื่อนเก็บน้ำที่เหลืออีก 12 แห่ง ที่ยังมีน้ำเก็บกักในเขื่อนน้อยมากประมาณไม่เกิน 50-60 % เท่านั้น ที่หากไม่มีฝนตกมาเติมน้ำในเขื่อนเพิ่มได้ ส่วนนี้ก็จะทำให้เกิดปัญหาภัยแล้งหนักยาวข้ามปีไปจนถึงปี 2568 ของพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ด้วย
รวมทั้งปริมาณน้ำในส่วนลำน้ำชีไหลผ่านที่ จ.ชัยภูมิ เป็นจังหวัดเป็นจุดต้นกำเนิดแม่น้ำชีที่จะไหลลงมาจากเทือกเขาภูเขียว อ.หนองบัวแดง ผ่านมายังอำเภอต่างๆก็ยังมีปริมาณน้ำต่ำกว่าตลิ่งอีกจำนวนมากต่ำกว่าตลิ่งเฉลี่ยอีกกว่า 5-6 เมตร เป็นส่วนใหญ่ ที่ยังสามารถพอรับน้ำฝนที่ตกลงมาอีกเพิ่มได้ หากไม่เกิดปัญหามีพายุลูกใหม่เข้าถล่มหนักจริงๆจนทำให้เกิดฝนตกนักมากไปกว่านี้ได้จริงๆจนเกิดรับน้ำไม่ไหวได้ ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ ในปีนี้ จึงมีแนวโน้มที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่หรือเกิดท่วมหนักครั้งใหญ่ที่จะเกิดขึ้นได้ยากมากในปีนี้ด้วย
ซึ่งในปัจจุบันมีพื้นที่เกิดน้ำท่วมบางส่วนที่เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ และเป็นพื้นที่เคยเกิดปัญหาน้ำท่วมหนักจากปีที่ผ่านมาทั้งมีจุดฝาย ริมตลิ่ง ประตูระบายน้ำพังเสียหายที่ปีนี้ยังไม่มีงบประมาณเข้ามาช่วยซ่อมแซมสร้างให้ใหม่ได้ทัน จากช่วงที่มีฝนตกธรรมดาก็จะเกิดปัญหาน้ำหลากท่วมขังรอการระบายอยู่แล้ว และช่วงมีฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุซูลิกสลายตัวเป็นร่องมรสุมทำให้มีฝนตกหนักในช่วงขณะนี้จากช่วง 4 วันที่ผ่านมา ที่ขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบบางส่วนในจุดเส้นทางน้ำที่เขื่อนลำปะทาวตอนล่างมีน้ำล้นสันเขื่อนออกมามีปริมาณน้ำเกินความจุออกมาประมาณ 1.2 ล้าน ลบ.ม.ที่ทางเขื่อนมีการระบายน้ำออกมาวันละ 400,000 ลบ.ม. ซึ่งจะใช้เวลาระบายน้ำล้นออกมาได้ไม่เกิน 3 วันจากนี้ไป ที่จะมีน้ำไหลผ่านเข้าตัวเมืองโซนเศรษฐกิจตัวเมืองชัยภูมิ เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ
ที่ก็จะมีผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่บางส่วน เกิดทำให้มีพื้นที่มีพื้นที่การเกษตร เส้นทางถนนบางจุด ในเขต ต.โคกสูง, ต.นาเสียว,ต.บ้านเล่าบางส่วน , ต.โพนทอง ,ต.บุ่งคล้า ,ต.ลาดใหญ่ และ ช่วงถนนสายชัยภูมิ-ตาดโตน เยื้องหน้าสิน 2000 เขต อ.เมืองชัยภูมิ และรอยต่อเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ที่ได้รับผลกระทบเกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่บางส่วนที่มีการติดตั้งเครื่องระบายน้ำของเทศบาลเมืองชัยภูมิ สามารถระบายน้ำออกได้ต่อวันกว่า 300,000 ลบ.ม.เพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมขังในพื้นที่ตัวเมืองได้ รวมทั้งที่ประตูระบายน้ำโนนทัน ของกรมชลประทานที่ก็เป็นอีกจุดที่จะระบายน้ำออกพื้นที่ผ่านไป ที่ อ.คอนสวรรค์ จ.ชัยภูมิ ที่เป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดของ จ.ชัยภูมิ ในขณะนี้ มีน้ำหลากท่วมหมู่บ้าน ถนน พื้นที่การเกษตร ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้รวมกว่า 12 หมู่บ้าน ในรอยต่อตำบลบ้านโสก และอีก 3 ตำบล ที่อยู่ระหว่างที่ทางชลประทานเร่งลงไปช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้ในไม่น่าจะเกินสัปดาห์นี้ ก่อนที่น้ำจะไหลผ่าน อ.คอนสวรรค์ ที่เป็นพื้นที่รับน้ำท้ายสุดของ จ.ชัยภูมิ ที่จะไหลผ่านลงสู่ลำแม่น้ำชีไหลผ่านต่อไปที่ จ.ขอนแก่น
รวมทั้งในโซน อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ ที่มีฝนตกนักที่ผ่านมาสะสม มีน้ำจากลำน้ำพรม-เชิญ ไหลผ่านลงมาจาก อ.คอนสาร, อ่างเก็บน้ำบ้านเพชร อ.ภูเขียว,อ.เกษตรสมบูรณ์ ที่ อ.บ้านแท่น เป็นอีกจุดรับน้ำสุดท้ายของ จ.ชัยภูมิ ก็จะเกิดน้ำหลากลงไหลผ่านเข้าท่วมขังในพื้นที่ ก่อนที่จะไหลผ่านต่อไป ที่เขตรอยต่อ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่นต่อไป ที่ก็ได้มีการเร่งให้เจ้าน้าที่เร่งลงไปช่วยระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่องแล้ว
และอีกจุดสุดท้ายที่ อ.บำเหน็จณรงค์ ที่มีน้ำฝนตกหนักสะสมสูงสุดเมื่อช่วงที่ผ่านมาสูงกว่า 103 มิลลิเมตร ที่คาดว่าน้ำจะไหลผ่านตัว อ.บำเหน็จณรงค์ ในช่วงวันสองวันนี้ได้ เพราะมีปัญหามีสิ่งปลูกสร้างขวางทางน้ำ ที่ได้เร่งมีการเข้าไปดำเนินการติดตามปริมาณน้ำหลากในจุดนี้เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ในขณะนี้ให้ได้โดยเร็วด้วย รวมทั้งในโซนที่มีจุดลุ่มต่ำแม่น้ำชีไหลผ่านที่จุดวัดบ้านเสี้ยวน้อย ต.บ้านค่าย อ.เมืองชัยภูมิ ที่อาจจะมีฝนมากที่จะทำให้น้ำหลากเข้าท่วมพื้นที่อย่างรวดเร็วได้ในช่วงนี้ที่จะต้องเร่งเข้าไปติดตามสถานการณ์น้ำในจุดนี้อย่างใกล้ชิดต่อไปอีกจุดด้วย
โดยภาพรวมสถานการณ์น้ำหลากน้ำท่วมขังในพื้นที่บางส่วนดังกล่าวทั้งหมดจะสามารถคลี่คลายลงได้หลังตั้งแต่วันที่ 26 ก.ย.67 นี้เป็นต้นไป ที่ทางกรมอุตุนิยมแจงว่า จ.ชัยภูมิ จะหมดฝน และเกิดฝนตกทิ้งช่วงน้อยลงยาวไปจนถึงต้นเดือน ต.ค.67 นี้ ที่คาดว่าจะมีพายุลูกใหม่อีกลูกผ่านประเทศไทย และ จ.ชัยภูมิ จะได้รับผลกระทบมีฝนตกหนักอีกครั้งในช่วง 1-3 ต.ค.67 นี้อีกครั้ง ที่ก็คาดว่าจะเกิดฝนตกหนักไม่ต่างจากช่วงอิทธิพลพายุซูลิกสลายตัวเป็นร่องมรสุมพาดผ่าน เมื่อช่วง 19-23 ก.ย.นี้ ที่ผ่านมา หากไม่มีพายุลูกใหม่ถล่มเข้ามาในประเทศไทยโดยตรงจนฝนตกหนักจริง ๆ ก็จะสามารถรับมือปัญหาน้ำท่วม จ.ชัยภูมิ ในปีนี้ได้
ซึ่ง นายอนันต์ นาคนิยม ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ กล่าวย้ำทิ้งท้ายด้วยอีกว่า ในช่วงนี้ขอฝากสร้างความเข้าใจต่อประชาชนทุกพื้นที่อย่าแตกตื่นข่าวเฟคนิวส์ หรือข่าวปลอม ที่ออกมาจำนวนมากที่เกี่ยวข้องเกิดปัญหาน้ำท่วมใหญ่ในจังหวัดชัยภูมิในขณะนี้ด้วย ซึ่งมีเพียงพื้นที่บางส่วนที่มีผลกระทบในพื้นที่รับน้ำพื้นที่ลุ่มต่ำเท่านั้น พร้อมมีมาตรการรองรับเร่งลงไปแก้ไขในระยะยาวไปจนถึงเตรียมรับมีแนวโน้มจะมีพายุลูกใหม่จะเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย และ จ.ชัยภูมิ ได้อีกลูกใหม่ในช่วงต้นเดือน ต.ค.67 นี้อีกด้วยแล้ว ขอประชาชนทุกพื้นที่ช่วยกันติดตามสถานการณ์การแจ้งเตือนข่าวสารสถานการณ์น้ำจากทางจังหวัด ที่จะส่งผ่านไปถึงผู้นำชุมชนโดยตรงในช่วงนี้ไปจนถึงช่วงไม่เกินกลางเดือน ต.ค.2567 นี้ อย่างใกล้ชิดไปก่อนด้วย
“ขออย่าตื่นตระหนก หรือมีสิ่งใดไม่เข้าใจหรือพบว่ามีความเสี่ยงที่จะน้ำเข้ามาในพื้นที่สามารถสอบถามมาที่ตนเอง หรือหน่วยงานทางจังหวัดโดยตรง รวมทั้งทางอำเภอ ผู้นำท้องถิ่นในทุกชุมชนพื้นที่โดยตรงได้ทันที ดีกว่าไปคิดคาดเดาเอาเองจากข่าวที่มีการโพสต์แชร์ไปทั่วในโลกโซเชียล ที่เป็นเฟคนิวส์ หรือข่าวปลอม ที่ยังทำให้กระทบต่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวใน จ.ชัยภูมิ ได้เป็นจำนวนมากในขณะนี้ไม่กล้ามาเที่ยวที่ จ.ชัยภูมิ ที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงต่อกรณีเกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ จำนวนมากในขณะนี้ด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: