ชุมพร-เหลือกางเกงตัวเดียว!! ฝนหนักนาน ดินไหลลงแม่น้ำนำบ้านทั้งหลัง 2ผัวเมียตะเกียกตะกาย
เมื่อเวลา 14.00น.วันที่ 23 ธค.61 นายบุญก้อง ศรสงคราม ปลัดอำเภอ หัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นางพยอม กรแก้ว ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคง ได้รับคำสั่งจาก นายวิบูลย์ รัตนภรณ์วงศ์ ผวจ.ชุมพร ให้เดินทางเข้าไป เยี่ยม ครอบครัวชาวบ้านที่ประสพภัยธรรมชาติ ในพื้นที่ หมู่ที่ 4 ต.วิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร พร้อมด้วย ตำรวจน้ำชุมพร หน่วยกู้ภัยสายชล ชาวบ้านจำนวนหนึ่ง เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ
ที่บ้านเลขที่ 73 บ้านหนองจาก หมู่ที่ 4 ต.วิสัยใต้ อ.สวี จ.ชุมพร ตั้งอยู่ริมแม่น้ำสวีเฒ่า พบชาวบ้านจำนวนหนึ่ง กำลังช่วย นายอุทัย แท่นแก้ว อายุ 65 ปีกับ นางจันทร์แก้ว แก้วใจอายุ 50 ปี 2สามีภรรยา อาชีพประมง ที่ยังคงพยายามกู้ซากบ้าน และ ค้นหาทรัพย์สินมีค่าในแม่น้ำสวีเฒ่า ในสภาพที่ นายอุทัยเหลือแต่กางเกง ส่วนนางแก้วใจเหลือเพียงเสื้อผ้าชุดเดียว สอบถามคนทั้งสองได้เล่าเหตุการณ์เฉียดตายให้ฟังว่า เมื่อกลางดึกเวลา ประมาณ 01.30 น.ในขณะที่กำลังนอนหลับภายในบ้านเป็นบ้านไม้สองชั้น ยกสูง จู่จู่ๆได้ยินเสียงดังลั่นเหมือนฟ้าผ่า แล้วบ้านทั้งหลังพังลงในแม่น้ำลงทับร่างของทั้งสองคน เมื่อรู้สึกตัวว่ากำลังจะจมในแม่น้ำ และมีชิ้นส่วนของบ้านทับบนร่างกาย นายอุทัยเห็นช่องระหว่างไม้พอจะลอดตัวออกไปได้ กว้างประมาณ 1 ฟุต หันไปเห็นนางจันทร์แก้วภรรยา กำลังถูกไม้ทับจึงช่วยลากร่างของนางจันทร์แก้ว แบบถู่ลู่ถู่กัง ออกมาจากบ้านท่ามกลางความมืด เนื่องจากสายไฟฟ้าขาด เมื่อขึ้นมาบนตลิ่งได้ ก็วิ่งไปขอความช่วยเหลือจากญาติข้างบ้าน กลับไปดูบ้านที่ จมหายลงไปในแม่น้ำ แผ่นดินที่เป็นพื้นบ้านก็ทรุดหายไปกับแม่น้ำด้วย ทั้งบ้านทรัพย์สิน เรือประมง อุปกรณ์ประมงต่างๆ มูลค่าร่วม 500,000 บาท สูญหายไปกับแม่น้ำ อยู่ในสภาวะหมดเนื้อหมดตัว
นายอุทัย เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าว สร้างมานานร่วม 20 ปี ปกติ ตลิ่งห่างบ้าน4เมตร แต่ ทุกครั้งที่มี ฝนตกหนัก น้ำท่วม ตลิ่งก็ จะทรุดลงไปเรื่อยๆ จนเหลือราว2 เมตร ทำให้ อยู่ใกล้แม่น้ำสวีเฒ่ามากขึ้น ก็ ไม่สามารถย้ายไปไหนได้อีกแล้ว เนื่องจาก บ้าน ที่ได้รับมรดกจากพ่อแม่ ก็ เสียหาย กลายเป็นบ้านร้าง เนื่องจากฐานะยากจนมากไม่เงินซ่อมแซม พอเก็บเงินได้จากการทำประมง ก็ มาสร้างบ้านยกพื้นสูง แต่แข็งแรงมั่นคงจนอยู่ได้มานานร่วม20 ปี และประกอบอาชีพประมง มีเรือประมง ขนาด10 เมตร 1 ลำ จนกระทั่งวันนี้เรือประมงก็ ถูกบ้านทับจมลงใต้น้ำ พร้อมอุปกรณ์ประมง และ ปลากระบอก อีกหลายร้อยตัว ที่ตั้งใจจะนำไปขายที่ตลาดช่วงเช้ามืด จนถึงเวลานี้เหลือแต่เพียงชีวิตกันทั้ง 2 สามีภรรยา ทุกอย่างในชีวิตจมหายไปกับสายยน้ำ รวมทั้ง แผ่นดิน เพียงไม่กี่ตารางเมตร ก็หายไปเกือบหมด ไม่รู้จะตั้งตัวเริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างไร อายุก็มากแล้ว ภรรยา ดั้งเดิม ก็ มาจาก อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไม่มีญาติพี่น้อง ลุงอุทัย กับ นางแก้วใจ เล่าไป ปาดน้ำตาไป ชาวบ้านที่ทราบเรื่องได้ช่วยกันระดมอาหารมาให้พอประทังชีวิตไปก่อน นายบุญก้อง ศรีสงคราม ปลัดอำเภอสวีฯ กล่าวว่า “ สาเหตุจากดินอิ่มตัวหลังจากฝนตกหนักติดต่อกันนานหลายวัน ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน จนอุ้มน้ำไม่ไหว จึงทรุดลงไปในแม่น้ำ พร้อมทั้งฉุดบ้านของคนทั้งสองลงไปด้วย” ส่วนการช่วยเหลือ ตอนนี้ต้องให้ชาวบ้านช่วยกันตามมีตามเกิดก่อน ทางราชการต้องไปดูระเบียบไว้ก่อนว่าจะช่วยอย่างไรได้บ้าง ผู้สื่อข่าวขอบัญชี ของนายอุทัย ธนาคารออมสิน สาขาสวี 053330561431ชื่อ นายอุทัย แท่นแก้ว
