ตรัง ผู้นำท้องที่ พร้อมด้วยจนท.โยธาธิการและผังเมืองฯ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง สำรวจความเสียหายหลังเกิดภัยพิบัติในพื้นที่เกาะลิบง บ้านเรือน-ที่ดินของชาวบ้านถูกคลื่นกัดเซาะเสียหาย โดยชาวบ้านเรียกร้องถึงนายกรัฐมนตรีขอกำแพงกันคลื่น
นายอับดลรอหีม ขุนรักษา กำนันตำบลเกาะลิบง พร้อมด้วย นายอ่าสาน คนขยัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตำบลเกาะลิบง นายภัทรสิทธิ์ จินา วิศวกรชำนาญการ สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง นายธีระยุทธิ์ นาคเกลี้ยง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง ลงพื้นที่บ้านหลังเขา หมู่ 5 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง เพื่อสำรวจความเสียหายของบ้านเรือน และเก็บหลักฐานร่อยรอยการก่อสร้างแนวกันคลื่นเดิม เพื่อเสนอขออนุญาตใช้พื้นที่ในการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นใหม่ หลังเกิดพายุ และคลื่นสูง 3-4 เมตรถล่มบ้านเรือนชาวบ้านซึ่งอยู่แนวชายฝั่งทำให้บ้านเรือนพังเสียหายและทรัพย์สินของชาวบ้านได้รับความเสียหายจำนวนมาก ทั้งบ้านเรือนทรัพย์สินภายในบ้าน และเรือหางยาว โดยชาวบ้านยืนยันเดิมบ้านเรือนของชาวบ้านตั้งอยู่ ห่างจากชายหาดไม่ต่ำกว่า 150 เมตร แต่นานวันเข้าถูกคลื่นซัดบ้านเรือนพังและน้ำทะเลก็กลืนพื้นที่เข้ามาเรื่อยๆ โดยชาวบ้านถอยร่นจนไม่มีที่จะถอยร่นแล้ว โดยล่าสุด คลื่นซัดบ้านพังเสียหายทั้งหลังอีก 2 หลัง สมาชิกของครอบครัวรวม 11 คน ต้องทิ้งบ้านไปขออาศัยบ้านญาติพี่น้องชั่วคราว และไม่สามารถจะกลับมาสร้างบ้านใหม่ในที่ดินเดิมได้อีก หากยังไม่มีการแก้ปัญหา จึงวอนขอไปยังนายกรัฐมนตรีขอเร่งสร้างกำแพงกันคลื่นโดยเร็วที่สุด ก่อนที่ผืนดินทั้งบนจะกลายเป็นทะเลทำชาวบ้านหลังเขาทั้งหมดไม่มีแผ่นดินอยู่ ที่ผ่านมาทาง อบต.เคยมีการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นมาแล้วครั้งหนึ่ง รวมทั้งชาวบ้านก็สร้างแนวกันคลื่นด้วยตัวเองตามกำลัง เช่น นำไม้มาปักเป็นแนว ขุดทรายใส่ในท่อซีเมนต์ แล้วเอามาวางเรียงเป็นแนวกันคลื่นชั่วคราว หรือบรรจุทรายลงกระสอบทำแนวกันคลื่น ไม่ให้รุกเอาที่ดินไป หรือเอาเชือกมาผูกยึดเสาบ้านไว้กับต้นไม้ใกล้ชายฝั่ง ป้องกันไม่ให้ตัวบ้านหลุดลอยไปกับคลื่นที่พัดเข้ามาอย่างแรง แต่ก็ถูกคลื่นสูงซัดพังเสียหายไปทั้งหมดแล้ว จึงหมดหนทาง
นายอำนวยเดช ชูทอง ชาวบ้านหมู่ที่ 5 ตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง กล่าวว่า บ้านตนถูกคลื่นซัดถึงตัวบ้าน ทำห้องน้ำ และขนำหลังเล็กๆพังเสียหายไปแล้ว รวมทั้งเรืออีก 1 ลำ เสาไฟฟ้าและกำแพงหลังบ้านก็พังหมดแล้ว คลื่นที่พัดเข้าบ้านมีความสูงพอๆ กับหลังคาบ้าน ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างกำแพงกันคลื่น ที่ผ่านมาชาวบ้านแถบนี้เจอกับคลื่นแรงซัดเข้ามาทำให้พื้นดินบางสวนจมหายไปในทะเล แต่ปีนี้คลื่นสูงมากทำให้บ้านชาวบ้านเสียหายหนัก
ข่าวน่าสนใจ:
นางบุหงา กุมุดา อายุ 76 ปี กล่าวว่า เรื่องคลื่นซัดเข้าบ้าน ทำให้ที่ดินที่เคยมีถูกน้ำทะเลกลืนลงทะเล ทำให้ตนมีความทุกข์หนักทุกข์ร้องจนไม่มีน้ำตาจะไหลแล้ว เพราะกลัวบ้านที่อยู่จะพังหายไปกับคลื่น จึงพยายามป้องกันมาโดยตลอด ทั้งการทำแนวกันคลื่นด้วยสองมือ ถมกระสอบทราย จ้างคนมาช่วยทำ และถ้าปล่อยไว้บ้านคงจะพังในที่สุด โดยเดือดร้อนมานาน 7 ปีแล้ว และเคยร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบ แต่พอลงมาดูก็หายเงียบกันไป กลางคืนก็นอนผวาเพราะเสียงคลื่นที่ซัดเข้ามาพร้อมยกมือไหว้ร้องขอไปถึงนายกรัฐมนตรี ให้ช่วยเหลือชาวบ้านหลังเขาเกาะลิบง ให้ได้สร้างเขื่อนกันคลื่น
นายอ่าสาน คนขยัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 บ้านหลังเขา และนายอับดลรอหีม ขุนรักษา กำนันตำบลเกาะลิบง ตำบลเกาะลิบง กล่าวว่า รอบนี้ชาวบ้านประสบปัญหาทั้งวาตภัย และคลื่นสูงมาก 3-4 เมตร บ้านหลังเขาบ้านพังทั้งหลัง 2 หลัง สมาชิกรวม 11 คน ตอนนี้ต้องอพยพไปอาศัยบ้านญาติ ในหมู้บ้านใกล้เคียง เรือประมงของชาวบ้านเสียหาย 8 ลำ สามารถกู้ซากมาซ่อมแซมได้ 6 ลำ ส่วนอีก 2 ลำ แตกเป็นเสี่ยงๆ ชุมชนร้องขอโครงการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นมาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน งบประมาณจำนวน 84 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้ ล่าช้าเพราะทางหน่วยงานไปได้มาสำรวจในพื้นที่ โดยในระยะเวลา 3 ปีก่อนนี้ เกิดการกัดเซาะเข้ามาถึง 3 เมตร และมีความเสียหายระยะทางยาว 1 กิโลเมตร
นายอับดลรอหีม ขุนรักษา กำนันตำบลเกาะลิบง กล่าวว่า ภาพรวมตำบลเกาะลิบงเสียหายรวม 3 หมู่บ้าน คือ หมู่ 5 บ้านหลังเขา ,หมู่ 2 บ้านเกาะมุกด์ และหมู่ 3 บ้านมดตะนอย หนักสุดคือ บ้านหลังเขาและบ้านมดตะนอย เรือประมงเสียหายรวม 18 ลำ บ้านเรือนได้รับผมกระทบจากพายุเกือบ 50 หลัง ส่วนที่โดนคลื่นซัดรวม 27 หลัง ซึ่งตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังประชุมเพื่อสรุปการช่วยเหลือต่างๆตามหลักเกณฑ์
ทางด้านนายธีระยุทธิ์ นาคเกลี้ยง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง บอกว่า วันนี้ลงเก็บหลักฐานร่อยรอยการก่อสร้างกำแพงกันคลื่นเดิม เพื่อเสนอขออนุญาตใช้พื้นที่จากกรมอุทยานฯ เนื่องจากพื้นที่อยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์หมู่เกาะลิบง เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการพิจารณาให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการก่อสร้างแนวกันคลื่นใหม่ในจุดเดิมต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: