Action Alert เตรียมพร้อมสู่การท่องเที่ยวภาคบังคับ
ททท. และพันธมิตร กระตุ้นภาคธุรกิจรับมือระเบียบโลกใหม่ จัดสัมมนา“Action Alert: Accelerating Towards Sustainable Tourism in Thailand” เตรียมพร้อมสู่การท่องเที่ยวยั่งยืนภาคบังคับ
กรุงเทพฯ – การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนด้านการท่องเที่ยวยั่งยืนระดับนานาชาติ จัดงานสัมมนา Action Alert ! Accelerating Towards Sustainable Tourism in Thailand ติดอาวุธ เตรียมความพร้อมให้กับภาคธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อเตรียมรับมือกับข้อบังคับใหม่ด้านสิ่งแวดล้อมของสหภาพยุโรปที่จะมีผลบังคับใช้ภายใน 2 ปีข้างหน้า โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งในรูปแบบ On-site ณ โรงแรม อวานี พลัส ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ และรูปแบบ Online รวม 1,000 ราย เมื่อวันที่ 26 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา
นายธีระศิลป์ เทเพนทร์ รองผู้ว่าการด้านดิจิทัล วิจัย และพัฒนา ททท. กล่าวว่า ภายใต้ข้อกำหนดใหม่ของสหภาพยุโรป (European Union – EU) คือ Corporate Sustainability Reporting Directive (CSRD) ซึ่งเป็นข้อบังคับใหม่ว่าด้วยการรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม และ Corporate Sustainability Due Diligence Directive (CSDDD) ข้อบังคับว่าด้วยการสอบทานด้านสิทธิมนุษยชนและสิ่งแวดล้อม ซึ่งกำหนดให้ EU ต้องทำงานกับคู่ค้าที่มีมาตรการด้านการจัดการความยั่งยืนที่น่าเชื่อถือ และจะต้องเริ่มเข้าสู่กระบวนการภายในปี 2026 ซึ่งเป็นประเด็นที่มีความสำคัญที่หากผู้ประกอบการไทยยังไม่มีแนวทางการจัดการด้านความยั่งยืน อาจเป็นอุปสรรคในการเป็นคู่ค้ากับบริษัทท่องเที่ยวจากสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา และลดโอกาสในการเข้าถึงตลาดที่มีขนาดใหญ่และกำลังซื้อสูง
ข่าวน่าสนใจ:
ททท. จึงเล็งเห็นว่า การยกระดับในการเตรียมตัวรับมือกับกฎ กติกา ข้อบังคับใหม่ของโลก และจัดการ “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ธุรกิจท่องเที่ยวไทยต้องเตรียมรับมือและปรับตัว เพื่อสร้างความเชื่อมั่นจากคู่ค้านานาชาติ ตอบรับความต้องการของนักเดินทางทั่วโลกที่จะให้ความสำคัญกับการเลือกผู้ประกอบการที่มีแนวทางการจัดการที่ยั่งยืนมากขึ้น และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันในตลาดสากลให้การท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน
งานสัมมนา Action Alert ! Accelerating Towards Sustainable Tourism in Thailand มีผู้ประกอบการจากทั่วประเทศเข้าร่วมการอบรมฯ กว่า 1,000 คน ได้แก่ รูปแบบ on-site 300 คน และออนไลน์ 700 คน ภายในงาน ผู้เข้าร่วมงานจะได้เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน พร้อมกับรับฟังแนวทางในการปรับตัว และจัดการให้สอดคล้องกับมาตรฐานความยั่งยืนในระดับสากล พร้อมคำแนะนำที่จะพลิกโฉมธุรกิจของผู้ประกอบการท่องเที่ยวไทยให้พร้อมรับมือกับกฎกติกาโลก
โดยการบรรยายในช่วงแรก ในหัวข้อ “การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงในกฎระเบียบ ความอยู่รอดของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย” โดย ผศ.ดร.จุฑามาศ วิศาลสิงห์ ผู้ก่อตั้ง Roaming Elephants แพลตฟอร์มเพื่อการท่องเที่ยวยั่งยืน เน้นย้ำว่า การปรับตัวครั้งนี้ ไม่ใช่ทางเลือกอีกต่อไป แต่เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องดำเนินการสำหรับความอยู่รอดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ภูมิทัศน์กฎระเบียบทั่วโลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปฏิบัติตามมาตรฐานความยั่งยืนที่เกิดขึ้นควรมองว่าเป็นโอกาสในการเพิ่มมูลค่าและดึงดูดนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และความร่วมมือระหว่างธุรกิจกับหน่วยงานกำกับดูแลมีความสำคัญอย่างยิ่งในการปรับตัวอย่างราบรื่น ต่อด้วยการเสวนาใน หัวข้อ “กระบวนการและหลักเกณฑ์การรับรอง: ทำอย่างไร?” โดยวิทยากร 3 ท่าน ได้แก่ นายปีเตอร์ ริชาร์ดส์ แห่ง SWITCH-ASIA TOURLINK Project, ECEAT, นางสาวปิ่นปินัทธ์ ไชยเดช จาก Earth Check และ ผศ.ดร.แก้วตา ม่วงเกษม จาก Green Destinations
นายปีเตอร์ ริชาร์ดส์ ผู้จัดการโครงการ SWITCH-ASIA TOURLINK Project ได้อธิบายถึงขั้นตอนการขอการรับรองมาตรฐานความยั่งยืนสำหรับธุรกิจการท่องเที่ยวซึ่งมีรูปแบบการให้การรับรองที่แตกต่างกัน ตลอดจนเกณฑ์พิจารณาต่าง ๆ ขณะเดียวกันได้แนะนำแนวทางทางที่เหมาะสมในการก้าวสู่ธุรกิจการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน และมีความน่าเชื่อถือ โดยผู้ประกอบการต้องดำเนินการตามขั้นตอนไปตามลำดับ ซึ่งเมื่อผ่านการรับรองแล้ว มีโอกาสสามารถเข้าถึงตลาดท่องเที่ยวระหว่างประเทศ
นางสาวปิ่นปินัทธ์ ไชยเดช ผู้แทนจาก Earth Check กล่าวว่า ความน่าเชื่อถือจากการใช้ข้อมูลที่ชัดเจนเป็นเรื่องสำคัญ ในการแสดงถึงความโปร่งใสขององค์กรภายใต้นโยบายด้านความยั่งยืน “นักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมจะเรียกร้องความโปร่งใสจากองค์กรอย่างต่อเนื่อง ทำให้องค์กรจำเป็นต้องปรับไปสู่การใช้แนวทางความยั่งยืนที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเป็นสำคัญ การเลือกโปรแกรมการรับรองที่เหมาะสมจึงเป็นเรื่องสำคัญ และต้องมั่นใจว่าโปรแกรมนั้นมีระบบการจัดการข้อมูลความยั่งยืนที่เข้มงวดและโปร่งใส เพื่อให้สามารถติดตามผล รายงาน และพัฒนาความยั่งยืนได้อย่างต่อเนื่อง
ผศ.ดร.แก้วตา ม่วงเกษม ผู้แทนจาก Green Destinations กล่าวว่า อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นธุรกิจที่ต้องมีความเข้าใจเรื่องสิ่งแวดล้อม การใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ความเข้าใจในชุมชนและท้องถิ่น มีความเคารพในเรื่องความหลากหลายทางชีวภาพและความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งในการเชื่อมโยงความสำคัญและความสัมพันธ์ต่าง ๆ เหล่านี้ในการดำเนินธุรกิจ โดยใช้หลักความยั่งยืนเป็นกรอบในการดำเนินงานเพื่อจะสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน และก่อให้เกิดผลลัพธ์เชิงบวกให้กับสังคม
นายอนุพงษ์ เกรียงไกรลิปิกร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสิร์ชเอ็นจินอ็อปทิไมเซชั่น จำกัด และผู้ก่อตั้ง Gother.com ในฐานะผู้ร่วมจัดงานกล่าวว่า นักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบันมองว่าการท่องเที่ยวแบบยั่งยืนมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ได้รับการรับรองมาตรฐานด้านความยั่งยืนจึงมีข้อได้เปรียบทางการตลาดที่เหนือกว่าคู่แข่ง
ทั้งนี้ ททท. เชื่อมั่นว่า งาน Action Alert ! Accelerating Towards Sustainable Tourism in Thailand จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญสู่การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ซึ่งไม่ได้เป็นเพียงทางเลือกโดยสมัครใจ แต่เป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนที่ธุรกิจท่องเที่ยวไทยต้องเตรียมรับมือ และปรับตัว เพื่อสร้างระบบนิเวศใหม่ (New Ecosystem) ด้วยสินค้าและบริการที่ได้รับการรับรองจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ (Sustainable Certified Operators) อันจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับคู่ค้านานาชาติ ขณะเดียวกันก็เพิ่มศักยภาพของเราในการแข่งขันในตลาดสากล
#ททท #actionalert #ท่องเที่ยว #อุตสาสหกรรมท่องเที่ยว #ความยั่งยืน #สภาวะโลกร้อน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: