เมื่อเวลา 20.00 น. ( 28 ก.ย.67 ) พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.เมืองพัทยา นำกำลังตำรวจชุดสืบสวนกว่า 20 นาย เข้าทำการปิดล้อม ลานจอดรถย่านสถานบันเทิง ลานเอ็กซ์ไซต์ พัทยากลางสายสาม หมู่ 10 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังพบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส สีบรอนซ์ ทะเบียน 8กฏ6242 กทม. ซึ่งเป็นรถเก๋งต้องสงสัย ก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่วินรถจักรยานยนต์รับจ้าง เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกำลังจะแสดงตัวเข้าตรวจค้น คนขับรถเก๋ง ซึ่งเป็นชายไทย ได้เปิดประตู แล้ววิ่งหนีเข้าไปในลานจอดรถ ตำรวจจึงกระจายกำลังปิดล้อม นานเกือบ 1 ชั่วโมง แต่ก็ยังไม่พบตัว
สืบเนื่องมาจากเมื่อช่วงเวลาประมาณ 04.47 น. ของเช้าวันที่ 28 กันยายน นายปฏิพล ประไพรัตน์ หรือโฟล์ค อายุ 20 ปี อาชีพขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ประจำวินหน้าลานเอ็กซ์ไซต์ ได้ถูกชายไทย อายุประมาณ 30-35 ปี ขับรถเก๋ง สีบรอนซ์ มาจอดใกล้กับวิน นายปฏิพล ประไพรัตน์ หรือโฟล์ค เข้าใจว่า เป็นนักท่องเที่ยวจะสอบถามทาง จะเดินเข้าข้างรถ แต่ปรากฏว่าชายคนขับได้ลดกระจกลง แล้วพูดตะโกนสวนกลับมาว่า “ มึงมีปัญหาอะไรกับกู ข้องใจหรือเปล่า” พร้อมกับชักอาวุธปืนสั้น ออกมาข่มขู่ ทำให้นายปฏิพล เห็นท่าไม่ดี จึงเดินหนี แต่ชายดังกล่าว ได้เปิดประตูรถแล้วเดินตามมาเอาเรื่องอีก พร้อมกับถืออาวุธปืนมาด้วย จากนั้นมีผู้หญิงที่นั่งมาในรถ ได้เปิดประตูลงมาห้าม ก่อนชายดังกล่าวจะเดินกลับขึ้นรถแล้วขับรถหลบหนีไป
ข่าวน่าสนใจ:
- งานตลาดสินค้าราคาประหยัด ลดค่าครองชีพ เพื่อประชาชนจังหวัดสมุทรปราการ ครั้งที่ 3
- ประชุมเตรียมความพร้อมและแถลงข่าวการจัดงาน Thailand Friendly Design Expo 2024
- ผบก.ภ.จว.ตรัง แถลงด่วน! คดีโจรลักสายไฟอาคารสนามบินตรัง อึ้ง! ลงมือลักนาน 3 เดือน เรื่องเพิ่งแดง พาขายฉ่ำ 29 ครั้ง นน.ทองแดงเกือบครึ่งตัน
- เด็กไทยเจ๋ง คว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 พร้อม 6 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 1 เหรียญทองแดง การแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ 2024 WMTC
ซึ่งนายปฏิพล ยังเล่าต่ออีกว่า ชายที่ถืออาวุธปืนมาข่มขู่น่าจะทะเลาะกับแฟนสาวที่นั่งมาในรถ แล้วพาลหาเรื่องคนอื่น ส่วนตนเองหลังจากเกิดเรื่องจึงเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ตรวจกล้องวงจรปิดใกล้กับจุดเกิดเหตุสามารถจับภาพนาทีเกิดเหตุ ได้อย่างชัดเจน จนกระทั่งช่วงค่ำในวันนี้ ตนเองเห็นรถคันที่ก่อเหตุกลับมาอีกครั้ง จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบ
ต่อมาเวลา 21.00 น. ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องกว่า 50 นาย เข้าตรึงกำลังปิดล้อม บริเวณจุดที่มีการพบรถเก๋งคันดังกล่าว จนพบคนขับ ทราบชื่อว่า นายนิรุตติ์ อายุ 39 ปี พนักงานเสิร์ฟของสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง กำลังนั่งอยู่ในมุมมืด ในมือถืออาวุธปืนไขว้ไว้ที่ด้านหลังตลอดเวลา ตำรวจเกรงว่าประชาชนและนักท่องเที่ยวในย่านดังกล่าวจะไม่ปลอดภัย จึงมีการกันพื้นที่ในรัศมี 200 เมตร และ ห้ามผู้ใดเข้าใกล้บริเวณดังกล่าว
เวลา 21.15 น. พ.ต.ท.ฐานานนท์ อธิพันสีห์ รอง ผกก.(สืบสวน) สภ.เมืองพัทยา เริ่มแผนเจรจาในเบื้องต้น โดยมีการโทรศัพท์พูดคุยผ่านข้อความ เฟซบุ๊ก ของ นายนิรุตติ์ แย้มพวง ซึ่งเจ้าตัวก็ยอมรับว่า “เป็นผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนข่มขู่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างจริง แต่ในเรื่องนี้ไม่ได้เครียด แต่ที่เครียด เพราะว่าตัวเองมีหมายจับคดีพยายามฆ่า ในพื้นที่จังหวัดราชบุรี เมื่อปี 57 และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ให้เข้ามา เพราะจะยิงตัวตาย เพื่อหนีปัญหา ” นอกจากนี้ นายนิรุตติ์ แย้มพวง มีการขอเบียร์ 1 ขวด เพื่อดื่มย้อมใจ และมีการโพสต์ข้อความสั่งเสียลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ผมรักทุกคนนะครับ ผมสร้างมันขึ้นมาเอง ผมก็ต้องจบด้วยตัวเอง ไม่เอาใครมาเดือดร้อน นี้จะเป็นโพสต์สุดท้ายในชีวิตผม ไม่ต้อง โทรมากันนะครับ แบตจะหมด ผมจะไว้คุยกับแม่ รักทุกคนเด้อ”
ต่อมาเวลา 22.25 น. พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ตัดสินใจเดินเข้าไปเจรจา กับ นายนิรุตติ์ แย้มพวง โดยมีการเดินเข้าไปใกล้ ตัวนายนิรุตติ์ ในระยะไม่ถึง 5 เมตร นายนิรุตติ์ ได้มีการกระดกเบียร์ และในมือถือปืนไว้ตลอด โดยท่านผู้กำกับ มีการเจรจา และพยายามพูดคุย ให้นายนิรุตติ์ ให้รู้สึกผ่อนคลาย โดยมีการพูดคุยนานถึง 20 นาที จน นายนิรุตติ์ เริ่มรู้สึกผ่อนคลาย และในระหว่างที่ท่านผู้กำกับ สภ.เมืองพัทยา กำลังเดินหันหลัง เพื่อมาพูดคุยกับทีมงาน ปรากฏว่าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน นายนิรุตติ์ แย้มพวง ได้ใช้อาวุธปืนยิงตัวเอง 1 นัด จนล้มลงไปนอนกองกับพื้น ทีมตำรวจจึงรีบเข้าเคลียร์พื้นที่ พร้อมกับประสานเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล และ กู้ภัย เข้าทำการช่วยเหลือ โดยพบว่ากระสุนปืนยิงเข้าขมับขวา กระสุนฝังใน ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส ก่อนจะถูกนำตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลเมืองพัทยา
ส่วนการตรวจสอบในที่เกิดเหตุเพิ่มเติมพบว่าอาวุธปืน ที่ใช้ในการก่อเหตุ เป็นอาวุธปืนแบลงค์กัน ดัดแปลงเป็นอาวุธปืนจริงขนาด .32 เจ้าหน้าที่จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
ขณะที่ นายวันชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี รุ่นพี่ที่ร่วมงานกับผู้ก่อเหตุได้ให้ข้อมูลว่า ผู้ก่อเหตุนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะทำร้ายใครทั้งสิ้น เพียงแต่กลัวที่จะถูกจับดำเนินคดีเนื่องจากตนเองนั้นมีหมายจับ คดี ฆ่าผู้อื่นและพยายามฆ่าโดยมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครอง ประกอบกับทางร้านจะไล่ออก หลังจากมีปัญหากับกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ซึ่งเป็นวัยรุ่นเจ้าถิ่นแต่เกิดเคลียร์กันไม่ลงตัว จึงเกิดความเครียดรุมเร้า จึงพยายามจะก่อเหตุดังกล่าว……
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: