X

เปิดแหล่งผลิต ค้าเฟอร์นิเจอร์ฟอกขาว หลังลอบตัดไม้ในพื้นที่อนุรักษ์ยังลอยนวล

โรงงานแปรรูปไม้ในอำเภอเด่นชัย แหล่งนำไม้ผิดกฎหมายฟอกขาวเป็นเฟอร์นิเจอร์ถูกกฎหมาย ตัวการใหญ่ลักลอบตัดไม้มีค่าสองข้างทางและสวนป่าของชาวบ้าน ในขณะที่การขออนุญาตโรงงานแปรรูปไม้ โรงงานสิ่งประดิษฐ์และร้านค้าเฟอร์นิเจอร์เป็นใบอนุญาตจอมปลอม เปิดช่องคอร์รัปชั่น กินเงียบไร้การตรวจสอบ

กว่า 1 สัปดาห์แล้วที่ เกิดเหตุคนร้ายลักลอบตัดต้นไม้สักขนาดใหญ่เส้นรอบวงกว่า 200 เซนติเมตรไปจากพื้นที่สาธารณะเขตอนุรักษ์ป่า ซึ่งอยู่ในบริเวณป่าช้าของหมู่บ้านเปาปม – ดงยาง หมู่ที่ 7 บ้านเปาปม-ดงยาง ต.นาพูน อ.วังชิ้น จ.แพร่ ปากทางเข้าป่าชุมชนบ้านเปาปม-ดงยาง การลักลอบกระทำการในคืนวันที่กรรมการป่าชุมชนไปรับรางวัล “คนรักษ์ป่า ป่ารักชุมชน”เป็นถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระกณิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ถือเป็นการตบหน้าผู้รับผิดชอบในชุมชนอย่างแรง เย้ยกฎหมาย ทำให้นายก อบต.นาพูน นายวิเชียร สมฤทธิ์ ผู้รับผิดชอบพื้นที่สาธารณะของชุมชนต้องเข้าแจ้งความด้วยตัวเอง เพื่อให้ตำรวจและกระบวนการยุติธรรมเข้ามาคลี่คลายหาคนผิดมาดำเนินคดีให้ได้

นายวิเชียร สมฤทธิ์ นายก อบต.นาพูน เข้าแจ้งความต่อ ร.ต.ท.พิตตินันท์ คำศรีวาท พนักงานสอบสวนเวร สภ.นาพูนเมื่อเวลา 11.30 น.ของวันที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา หลังแจ้งความ ได้มีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งไว้ที่ด่านปราบปรามยาเสพติด ด่านตำรวจบ้านดงยาง จุดสกัดบนทางหลวงหมายเลข 101 พบสภาพรถต้องสงสัย เป็นรถ 6 ล้อบรรทุกสีฟ้ามีเครนยกในตัว ผ่านจากบ้านบ่อแก้ว ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย ไปทางบ้านดงยางเวลา 22.00 น. และเวลา 24.00 น.มีรถไถสีส้มผ่านมาอีก 1 คัน จนเวลา 05.58.32 น.รถคันดังกล่าววิ่งกลับผ่านด่าน ภาพประกฎในกระบะมีท่อนซุงไม้สักจำนวน 2 ท่อน เวลา 05.58.54 น.รถไถคันสีส้มได้เดินทางกลับตามหลังรถกระบะบรรทุกท่อนซุง ในจำนวนรถสองคันที่ตัองสงสัย ยังมีรถเก่งไม่ทราบยี่ห้อสีออกดำมองในเวลากลางคืน วิ่งผ่านในเวลาใกล้เคียงกันด้วย

มีผู้พบเห็นในตอนเช้ามืดก่อนเวลาเข้าด่านตำรวจเล็กน้อย เห็นมีรถเก๋งคันสีออกดำ เป็นรถนำจอดซุ่มอยู่ และรถไถมากกว่า 1 คัน พร้อมทั้งรถกระบะคันสีฟ้าดังกล่าวกำลังเดินทางอยู่บนทางหลวงหมายเลข 101 มีโคลนติดล้อทำให้ถนนเลอะเป็นทางยาว จุดที่ชาวบ้านเห็นอยู่ห่างจากปากทางเข้าป่าชุมชนบ้านเปาปมดงยางเพียง 100 เมตรเท่านั้น ช่วงก่อนสว่างของวันที่ 25 กันยายน มีรอยดินออกจากบริเวณปากทางอย่างชัดเจน

หลังจากนายวิเชียร สมฤทธิ์ นายก อบต.นาพูน ได้เข้าแจ้งความแล้ว พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี มิได้มาที่เกิดเหตุในทันที ซึ่งในสภาพที่เกิดเหตุ มีรอยรถยนต์ขนาดใหญ่ และรถไถมากกว่า 1 คันจากขนาดล้อรถไถที่ไม่เท่ากันสามารถแยกได้ มีรอยรถติดหล่ม จนต้องตัดต้นไม้ที่กีดขวางทางทิ้งอีกหลายต้น มีร่องรอยขวดน้ำและรองเท้าแตะที่ตกอยู่ชาวบ้านสันนิษฐานว่าต้องมีคนร่วมกันลักลอบมากกว่า 6 คน แต่พนักงานสอบสวนไม่ให้ความสนใจกับหลักฐานเหล่านี้

ต่อมาในวันที่ 28 กันยายน ชาวบ้านพบบัตรประชาชนตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 ใบ เจ้าของบัตรชื่อ นายวันชัย พันธ์สำโรง ที่อยู่ตามบัตรประชาชน 368 หมู่ 1 ต.แก้ง อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี จึงได้แจ้งต่อ ร.ต.ท.พิตตินันท์ คำศรีวาท พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ร.ต.ท.พิตตินันท์ เดินทางมาที่เกิดเหตุ ในขณะเดียวกัน นายวันชัย ก็เดินทางมาที่เกิดเหตุ เพื่อมาขอบัตรคืนโดยอ้างว่า “ตนเป็นเจ้าของรถบรรทุกสีฟ้า ได้ไปให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวนแล้วเพราะไม่ใช่ผู้ตัดไม้แต่อย่างใด เมื่อกลับจาก สภ.นาพูน ได้ขึ้นมาที่เกิดเหตุและทำบัตรตกไว้ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ยึดบัตรประชาชนไว้ ไม่คืนให้เจ้าของบัตรเพราะเป็นหลักฐานที่ชาวบ้านตรวจพบ

แนวทางสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.นาพูน ยังดูจะไม่คืบหน้าในขณะที่เหตุการณ์ผ่านไปแล้ว 7 วัน ใครเป็นเจ้าของรถไถ รถไถกี่คัน ทำไมพนักงานสอบสวนไม่นำมาสอบ ตามที่พยานเห็น การที่พยานไปให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็พบว่ามีผู้อ้างถึงผู้มีอิทธิพลในบ้านดงยางเพื่อเป็นการสร้างความหวาดกลัวให้กับพยาน ซึ่งขณะนี้ตำรวจไม่มีมาตรการใดที่จะคุ้มครองพยาน
จากการสอบถามชาวบ้านบ่อแก้ว นายวันชัย ผู้ที่ทำบัตรประชาชนตกอยู่ที่บริเวณตัดไม้สักที่ชาวบ้านอนุรักษ์ไว้ ปรากฏว่า นายวันชัยตั้งโรงงานแปรรูปไม้นอกประเภท และทำเฟอร์นิเจอร์จากเศษไม้รากไม้ ไม้ฉำฉา อยู่ที่บ้านบ่อแก้ว ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย จ.แพร่ และยอมรับว่า รถบรรทุกสีฟ้าที่ผ่านด่านเป็นรถยนต์ของตน ขณะผ่านด่านนั้นไปขนไม้ในสวนทุเรียนที่บ้านดงยาง ติดกับด่านตำรวจประมาณ 100 เมตร ทางเข้าสวนทุเรียนอยู่ข้างๆ ดงยางโฮมสเตย์ เจ้าของดงยางโฮมสเตย์เป็นพยานได้ และไปดูร่องรอยการนำไม้ออกได้เป็นไม้แห้ง

แหล่งข่าวกล่าวว่า นายวันชัย ให้การกับพนักงานสอบสวนและตอบข้อซักถามผู้สื่อข่าว เป็นการขัดแย้งกับพยานที่เห็นเหตุการณ์รถขนไม้ปรากฎอยู่ห่างจากทางเข้าป่าชุมชนบ้านเปาปม-ดงยาง 100 เมตร มีรถเก๋งสีออกดำเป็นรถนำ ตามด้วยรถบรรทุกไม้สีฟ้า และ รถไถตามหลัง

มีผู้รู้เห็นเหตุการณ์ที่ด่านตำรวจดงยางในเวลาที่ รถต้องสงสัยผ่าน ปรากฏว่า มีการจอดรถเจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำด่าน ก่อนขับรถออกไป “เจ้าหน้าที่พูดอะไรกับรถต้องสงสัยเหล่านี้” เป็นข้อสงสัยที่ผู้ค้าไม้ในเมืองแพร่เดาได้ว่า “ตำรวจกับผู้ต้องสงสัยคุยอะไรกัน” คงไม่ใช่ทักทายกันธรรมดา

เป็นที่น่าสงสัยกับโรงงานที่มีทั้งเลื่อยยนต์ เลื่อยวงเดือนแปรรูปไม้ซุงขนาดใหญ่ และ ประกอบเป็นเฟอร์นิเจอร์ภายในโรงงานเดียวกัน โดยเฟอร์นิเจอร์มีไม้สักประกอบด้วย โรงงานเหล่านี้ขออนุญาตประเภทใด เสียภาษีอย่างไร และนำออกไปจำหน่ายในร้านค้าเฟอร์นิเจอร์ริมทางได้อย่างไร เรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้จากหลักฐานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่รับผิดชอบ ซึ่งเชื่อแน่ว่า ไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง เมื่อไม่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง ธุรกิจนี้จึงจำเป็นต้องมีผู้เอี่ยวรับผลประโยชน์ด้วยแน่นอน โดยเฉพาะผู้รับผิดชอบในเมืองแพร่

เรื่องลักลอบตัดไม้สักในพื้นที่ที่ชาวบ้านอนุรักษ์จนได้รับรางวัลถ้วยพระราชทานจากพระกณิษฐาธิราชฯ อาจไม่สำคัญเท่า “ธุรกิจทำไม้ที่อาจเป็นสีเทา และการคอรัปชั่นที่เกิดขึ้นกับประเด็นที่ผู้ประกอบการมิได้ทำตามกฎหมายแต่ก็มิได้ถูกจับดำเนินคดี หรือเรื่องนี้จะมีการส่งส่วยไปถึงข้าราชการระดับสูงในจังหวัดหรือระดับภาคก็เป็นได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม้มีค่าสองข้างทางหลวงหมายเลข 101 ระหว่างเขตอ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ขึ้นเหนือผ่าน ต.นาพูน อ.วังชิ้น และ ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย เป็นไม้สัก ไม้ประดู่ ไม้มะค่า ที่สร้างความสวยงามร่มรื่น ดูดซับคาร์บอนในอากาศได้เป็นอย่างดี ไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเจ้าหน้าที่ป่าไม้ดูแล ไม้สองข้างทางกรมทางหลวงดูแล ส่วนที่สาธารณประโยชน์ มีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและนายอำเภอเป็นผู้รับผิดชอบ แต่พื้นที่เหล่านี้กำลังอยู่ในความเสี่ยง ต้องกลายเป็นทรัพย์สินของมิจฉาชีพภายใต้การเปิดทางโดยระบบราชการไปเสีย น่าเสียดายมากกับธรรมชาติแถบนี้ต้องโดนทำลาย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน