มิจฉาชีพอาละวาดหนักหลังเงินหมื่นของรัฐบาลสะพัด ป้าวัย 59 ปีร้องสื่อมีกลุ่มคน 3-4 คนบุกเข้ามาบ้านเหมือนกองโจร คนหนึ่งถามหาเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อีกคนบุกเข้าไปในบ้านกระชากขอบยางตู้เย็นออกบอกเสื่อมสภาพ เรียกเงิน 700 แบบต้องจ่ายเพราะตัดของเก่าแล้ว
วันที่ 7 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้าน ต.สำโรง อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพมาในรูปช่างซ่อมตู้เย็นแต่มาในรูปแบบเหมือนกองโจร เกรงว่าจะไปสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านทั่วไป หรืออาจจะเกิดอันตรายได้
จากการตรวจสอบพบ นางจำเนียร จะริตรัมย์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103 หมู่ที่ 7 บ้านประดู่ ต.สำโรง อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ หนึ่งในผู้ประสบเหตุเล่าว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค.เวลาประมาณ 13.00 น.ตอนนั้นตนกำลังเลี้ยงหลานสาวอายุ 4 เดือนอยู่หน้าบ้าน
ได้มีกลุ่มคนจำได้มีชาย 2 หญิง 1 วัยกลางคน เดินมาเป็นกลุ่มมาสอบถามถึงค่าไฟฟ้าแต่ละเดือนสูงหรือไม่ จากนั้นได้ถามหาเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านว่ามีอะไรบ้าง ตนบอกไปว่ามีตู้เย็นกับแอร์
หนึ่งใน 3 คนบอกว่าตู้เย็นต้องเปลี่ยนขอบยาง เพราะเสื่อมสภาพทำให้ค่าไฟแพง ตนตอบไปว่า”ตู้เย็นใหม่เพิ่งซื้อได้เพียง 1 ปี”และค่าไฟฟ้าก็ไม่แพงเพียงเดือนละ 500-600 บาท เท่านั้น
จากนั้นชายกับหญิงที่เหลือเดินเข้าไปเปิดประตูแล้วเข้าไปในบ้าน ตนพยายามจะวิ่งตามแต่ห่วงหลานที่นอนอยู่ในเปล และยังห่วงว่าหญิงกับชายทั้งสองคนเข้าไปทำไมในบ้าน
จึงคว้าหลานวัย 4 เดือนวิ่งตามเข้าไปในบ้าน พบว่าทั้งสองเปลี่ยนขอบตู้เย็นใหม่แล้วพร้อมกับเอาขอบยางตู้เย็นของเดิมแต่ถูกตัดขาดเอามาให้ตน บอกว่า”ค่าขอบยางตู้เย็น 700 บาท
นางจำเนียร เล่าด้วยว่า ยอมรับว่าตกใจมากที่มากันแบบนี้ ทั้งกลัวจะเป็นอันตรายทั้งเป็นห่วงหลานเล็ก จึงจำเป็นต้องจ่ายอีกทั้งกลุ่มนี้มากันแบบกองโจร บุกเข้าไปในบ้านโดยไม่เกรงใจ ยังไม่รู้จะแจ้งความอย่างไรเพราะมูลค่าทรัพย์สินไม่มาก
จึงได้แค่อยากแจ้งเตือนชาวบ้านทั่วไปให้ระวังกลุ่มนี้ และอยากให้เจ้าหน้าที่รัฐหาแนวทางแก้ไขปัญหาในลักษณะนี้ เพราะหากเปลี่ยนแล้วไม่จ่ายจะเกิดอะไรขึ้น เท่าที่ทราบมีชาวบ้านหลายรายโดนแบบนี้กันหลายคน ส่วนตัวเชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้จะอาศัยในช่วงที่ชาวบ้านพอมีเงินหลังได้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลคนละ 10,000 บาท
