X

เปิดคลิปใหม่!! นศ.เทคนิคสระแก้วถูกชนจังจัง ผอ.และครูปกครองยันไม่ได้ขับรถไล่ ส่วนตำรวจเร่งสอบพยานเพิ่ม

สระแก้ว – เปิดคลิปใหม่ นักศึกษาเทคนิคสระแก้วถูกรถชนจังจัง ลอยละลิ่ว ผอ.และครูปกครองยืนยัน ไม่ได้ขับรถไล่ พบเห็นเด็กปีนกำแพงออกไปนอกรั้ว จึงตามไปเรียก แต่เด็กพากันวิ่งหนีและข้ามแบริเออร์จนถูกชน ด้านตำรวจเรียกสอบพยานเพิ่ม ตั้งแต่ ผอ.วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว ครู คนชน เพื่อน นศ.และผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือ ยังไม่สรุปคดีจนกว่าจะได้พยานหลักฐานครบถ้วน

เมื่อ 13.00 น.วันที่ 25 ต.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีนักศึกษา ปวช.ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยเทคนิคแห่งหนึ่ง แผนกช่างไฟฟ้า ถูกรถชนจนเสียชีวิต หลังจากไม่เข้าเรียนเพราะลืมนำอุปกรณ์การเรียนมา จนมีการปีนรั้ววิทยาลัยออกไปด้านนอกพร้อมกับเพื่อน และถูกอาจารย์ฝ่ายปกครองตามไปเรียก ก่อนจะปีนข้ามแบริเออร์หน้าวิทยาลัย จนถูกรถเก๋งชนอย่างจังจนเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อบ่ายวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งพ่อและแม่ของเด็กนักเรียนรายดังกล่าวเรียกร้องให้ทางวิทยาลัยฯ ออกมารับผิดชอบกรณีนี้ โดยไปแจ้งความไว้ที่ สภ.วัฒนานคร อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว นั้น ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ คำสนิท ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว และผู้บริหารที่เกี่ยวข้องได้รับทราบกรณีดังกล่าวแล้ว โดย ผอ.ได้เดินทางพร้อมด้วย นายศิริพงศ์ ฟองสันเทียะ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ นางสาวจารุวรรณ อรุณรุ่งรัศมี รองผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียนนักศึกษา นายธีระยุทธ มอญขาม หัวหน้าแผนกช่างไฟฟ้ากำลัง และคณะครูแผนกช่างไฟฟ้ากำลัง ไปร่วมเป็นเจ้าภาพ พิธีสวดอภิธรรมศพ นายณชพล กี้ธนสมบัติ อายุ 16 ปี นักเรียนแผนกวิชาช่างไฟฟ้ากำลัง ผู้เสียชีวิต ที่วัดดงงู ม.7 ต.ป่าไร่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ตั้งแต่ช่วงค่ำวานนี้

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ สภ.วัฒนานคร ชุดสืบสวน สภ.วัฒนานคร ได้ไล่เก็บภาพคลิป จากกล้องวงจรปิดในจุดต่าง ๆ อาทิ บริเวณโรงจอดรถจักรยานยนต์ของวิทยาลัย ซึ่งพบภาพเด็กทั้งหมดกำลังปีนข้ามกำแพงกระโดดออกไปข้างนอกวิทยาลัย ก่อนจะวิ่งหนีเลาะกำแพงไปบริเวณหน้าร้านเซเว่น หน้าทางเข้า รพ. ก่อนจะมีภาพคลิปจากกล้องวงจรปิดอีกจุด ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับวิทยาลัยและ รพ.วัฒนานคร ซึ่งเป็นกล้องของร้านรับเหมาต่อเติม โดยภาพจากกล้องเห็นภาพวินาทีที่ นายณชพลฯ กำลังปีนแบริเออร์เกาะกลาง แล้วกระโดดลงไปบนถนน ทำให้รถเก๋งคู่กรณีที่วิ่งมาด้วยความเร็ว ชนเข้าจังๆ จนร่างของนักศึกษาลอยกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร เพื่อน ๆ อีกราว 4-5 คน ได้วิ่งกรูเข้าไปดูและพยายามช่วยเหลือ ถือเป็นภาพที่สยดสยองมาก โดยผู้ที่เห็นเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุเล่าให้ฟังว่า ช่วงเวลาที่เกิดเหตุเร็วมาก หลังเด็กกระโดดข้ามมาก็โดนรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงชนอย่างจังทันที


นายสมศักดิ์ คำสนิท ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุทางวิทยาลัยมีความเสียใจ ครูก็ตกใจกันทุกคน วันเกิดเหตุเมื่อได้รับรายงานจากครูปกครอง ก็รีบหาข้อเท็จจริง ได้ทราบว่า เด็กที่ออกไปไม่ได้ออกทางรั้วปกติ ซึ่งมาตรการของวิทยาลัยมีขั้นตอนในการขออนุญาตออกไป จากที่มาตรวจสอบดูกล้องแล้ว เด็กปีนกำแพงออกไป และพอดีครูปกครองที่ทำหน้าที่อยู่หน้าวิทยาลัยได้ออกไปเห็นพอดี เด็กเจอครูปกครองก็ตกใจและข้ามถนนไปโดยรถชนฝั่งตรงข้าม โดยเกาะกลางด้านหน้ามีแท่งแบริเออร์คอนกรีตสูงกั้นอยู่ ครูไมตรี ออกไปพบพอดีจึงข้ามไปดู ซึ่งได้โทรแจ้ง รพ.และตำรวจ หลังผมได้รับรายงานก็รีบออกไปไม่เกิน 5 นาที รถ รพ.ก็มารับเด็กไปไม่ได้นานถึง 30 นาทีอย่างที่เป็นข่าว


“สอบถามครูไมตรีฯ บอกว่า ออกไปพอดีไม่ได้ขับรถไล่เด็ก หลังหมดภาระและพักกลางวันก็เลยจะออกไปซื้อของที่เซเว่น ก็ไปเจอพอดี ซึ่งวันเกิดเหตุเราได้ประสานให้ผู้ปกครองรับทราบทันที เมื่อเห็นว่าอาการหนักก็ได้ประสานย้ายไปที่ รพร.สระแก้ว จนได้รับรายงานว่า เด็กเสียชีวิตลง ทางวิทยาลัยก็ได้เข้าไปร่วมแสดงความเสียใจในงานศพร่วมกับผู้บริหารและอาจารย์ด้วย ซึ่งคุณพ่อกับคุณแม่เข้าใจ ไม่ได้ติดใจอะไร เด็กมีประกันเราก็ประสานให้บริษัทดำเนินการนำเงินวงเงิน 80,000 บาท มาให้ท่านผู้ปกครอง ” ผอ.วิทยาลัยเทคนิคสระแก้ว กล่าวและว่า ตอนนี้ตนและอาจารย์ได้เข้าไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนที่โรงพักแล้ว


นายไมตรี แสนวรรณา ครูช่างยนต์และเป็นครูฝ่ายปกครองที่ประสบเหตุ เล่าว่า หลังจากที่ทำเอกสารในห้องปกครองเสร็จ ก็ออกไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อที่หน้า รพ.วัฒนานคร หลังขี่ออกไปหน้าสถานศึกษาก็เจอเด็กกลุ่มนี้ปีนรั้วออกไป 4-5 คน ก็ได้ตะโกนเรียกเด็กให้หยุด แต่เด็กไม่ได้หยุดก็ได้วิ่งหนีไปเลียบกำแพงวิทยาลัย ในฐานะเป็นครูปกครอง พ่อแม่ผู้ปกครองฝากเราไว้ ลูกเค้าโดดเรียน เราก็ต้องตาม แต่ไม่ใช่เป็นการขับไล่ เป็นการตามโดยใช้เสียงเรียกให้หยุด แต่นักเรียนก็ไม่หยุด ก่อนจะวิ่งปีนข้ามแท่งแบริเออร์ คนที่โดนชนเป็นกลุ่มแรกที่วิ่งข้ามไป จากนั้นก็ได้จอดรถดูและได้ยินเสียงรถชน จึงได้ไปจอดรถข้างชลประทานฯและปีนแทงแบริเออร์ข้ามไปดูเด็กทันที โดยได้แจ้งหมอที่รู้จักที่ รพ.วัฒนานคร แจ้งตำรวจงานจราจรและแจ้งท่าน ผอ.ทราบ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปไหน อยู่กับเด็กจนกระทั่งเด็กถูกนำตัวส่ง รพ. ส่วนรถที่เกิดเหตุถูกเคลื่อนย้ายไปที่ สภ.วัฒนานคร ที่กล่าวหาว่า เราไม่ได้ดูแลเด็กนั้นไม่จริง เราดูแลตั้งแต่ต้น


สำหรับกรณีที่ผู้ปกครองเด็กไปแจ้งความดำเนินคดีกับตนเองนั้น นายไมตรี กล่าวว่า ในบทบาทหน้าที่ของเราที่จะต้องรับผิดชอบนักเรียนนักศึกษา ของวิทยาลัยเทคนิคสระแก้วที่พ่อแม่พี่น้องชาว จ.สระแก้ว ฝากเราไว้ เราจะต้องดูแลที่สุด ไม่ว่าเค้าจะทำผิด โดดเรียนเราก็ต้องดูแลให้เท่าเทียมกันทุกคน ขณะนี้ได้ไปให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้น จนมีการนำตัวเด็กส่ง รพ. ยืนยันว่า ไม่ได้ปล่อยปละละเลยเด็ก เนื่องจากสถานศึกษามีมาตรการการออกนอกสถานศึกษาของวิทยาลัยเพื่อป้องก้นไม่ให้นักเรียนนักศึกษาออกนอกวิทยาลัยก่อนเวลาอันควร ซึ่งมีผลต่อการเรียนของนักเรียน ซึ่งงานศพของเด็กคาดว่า เย็นนี้จะเข้าไปพบกับพ่อและแม่ของเด็กที่เสียชีวิตด้วย


ทางด้าน ความคืบหน้าในคดีดังกล่าว พ.ต.อ.พิพัฒน์ เต็งถาวร ผกก.สภ.วัฒนานคร กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนเราอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยเรียกพยานกลุ่มเพื่อน ๆ มาสอบทุกคน โดยวันนี้มีการเรียก ผอ.วิทยาลัยเทคนิค อาจารย์ฝ่ายปกครองที่ถูกแจ้งความ เจ้าของเรถที่ก่อเหตุ คนที่เข้ามาช่วยเหลือ รวมทั้งสอบผู้เสียหายด้วย ตอนนี้กำลังตามตัวเพื่อน ๆ อีกหลายคนมาสอบเพิ่มให้ครบ ซึ่งตอนนี้ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า อะไรเป็นอะไร ครูมีความผิดมั้ย เพราะ รพ.ก็อยู่ตรงนั้น โดยหลังรับแจ้งทางร้อยเวรพนักงานสอบสวนได้ไปที่เกิดเหตุทันที โดยเราต้องรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบในกรอบเวลา เนื่องจากมีบางอย่างต้องมีการส่งตรวจพิสูจน์ด้วย คาดว่า จะสอบสวนเสร็จในเร็ว ๆ นี้


——————————

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of ธนภัท กิจจาโกศล

ธนภัท กิจจาโกศล

"ธนภัท กิจจาโกศล" ผู้สื่อข่าวประจำ จ.สระแก้ว "ประสบการณ์ยาวนานกับงานสื่อสารมวลชนระดับประเทศ ในกองบรรณาธิการหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จับงานด้านข่าว สกู๊ปและรายงานพิเศษ กว่า 22 ปี มุ่งสื่อสารความจริงและข่าวสารที่เป็นธรรม สู่ประชาชนในภูมิภาค ด้วยจรรยาบรรณของฐานันดรที่ 4 เพื่อสร้างความโปร่งใสการรับรู้ข่าวสารของสังคม"