ทรู ตอกย้ำผู้นำ 5G เต็มรูปแบบรายแรกในไทย ประกาศความพร้อมพาคนไทยเข้าสู่ชีวิตดิจิทัลอย่างยั่งยืน พร้อมเปิดให้สัมผัสประสบการณ์การใช้ 5G บนสภาพแวดล้อมจริงอย่างเต็มรูปแบบครั้งแรกในไทย ที่ ทรู แบรนดิ้ง ช้อป ไอคอนสยาม ชั้น 3-4 ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 61 – 31 ม.ค. 62
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ทรูมูฟ เอช” ประสบความสำเร็จอย่างดีเยี่ยมจากการร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก ทั้งผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมหลายราย ซึ่งได้พัฒนาและทดสอบเทคโนโลยี 5G มาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2559
ในครั้งนี้ ทรู ได้รับอนุญาตจาก กสทช. เพื่อสาธิตการทำงานของเทคโนโลยี 5G บนคลื่นความถี่สำหรับ 5G โดยเฉพาะ คือคลื่นความถี่ในย่าน 28 GHz. เพื่อเป็นก้าวแรกให้คนไทยสามารถเชื่อมต่อสู่โลกดิจิทัลและนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน รวมไปถึงปฏิรูปการทำงานในอุตสาหกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มรูปแบบและยั่งยืน
ทรูมูฟ เอช ในฐานะผู้นำเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของคนไทยที่มีความหลากหลายด้านคลื่นความถี่มากที่สุด ได้แก่ 850/900/1800 และ 2100 MHz และมีความพร้อมที่จะพาคนไทยสัมผัสชีวิตดิจิทัลในยุค 5G อย่างเต็มรูปแบบ โดยพร้อมให้ทดลองใช้งานในสภาพแวดล้อมจริง ในงาน “True 5G Digital Thailand, The 1st Showcase powered by TrueMove H” ที่ ทรู แบรนดิ้ง ช้อป ไอคอนสยาม ชั้น 3-4 ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 61 – 31 ม.ค. 62
นายวิเชาวน์ กล่าวต่ออีกว่า“เราตั้งใจให้งานนี้เป็น Bestination คือจุดหมายที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนที่จะเข้ามาเรียนรู้และสัมผัสนวัตกรรมสุดล้ำอันหลากหลาย ตอบโจทย์ทุกความสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ประสบการณ์ด้านความบันเทิง กีฬา ระบบเมืองและการขนส่งยุคอนาคต รวมถึงเทคโนโลยีหุ่นยนต์ต่างๆ ที่จะเข้ามาพลิกโฉมรูปแบบการใช้ชีวิตของคนไทย รวมถึงการปฏิรูประบบการทำงานต่างๆ ในอนาคต”
ภายในงาน “True 5G Digital Thailand, The 1st Showcase powered by TrueMove H” จะได้พบกับประสบการณ์ 5G เต็มรูปแบบอย่างแท้จริงครั้งแรกของคนไทย ทดลองการใช้งานหลากหลายนวัตกรรมสุดล้ำเป็นจริงได้ด้วยเทคโนโลยี 5G
5G Speed Test, The New Experience ร่วมทดสอบความเร็วของ 5G พร้อมกับทรูมูฟ เอช สัมผัสความสำเร็จ
ครั้งแรกของไทยกับความเร็วสูงสุด 18 Gbps และการใช้งานจริง อาทิ วิดีโอ 8K Full HD, กล้อง 8K VR 360 การเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ในบ้าน และการปล่อยสัญญาณ Hot Spot ในที่ที่มีคนมากๆ เช่น คอนเสิร์ต เป็นต้น
Dancing Robot พบกับความบันเทิงและลีลาการเต้นแสนน่ารักแบบพร้อมเพรียงของเหล่าหุ่นยนต์ multi-axis โดยสาธิตการสื่อสารข้อมูลด้วยความหน่วงต่ำบนเครือข่าย 5G โดยหุ่นยนต์ตัวแรกจะถูกควบคุมท่าเต้นและจังหวะการเต้นผ่านระบบควบคุม และหุ่นยนต์ตัวแรกจะส่งต่อคำสั่งไปยังหุ่นยนต์ตัวอื่นๆ ทำให้เกิดการเต้นที่พร้อมเพรียง
Virtual Driving สัมผัสประสบการณ์ขับรถแบบเสมือนจริง และสมจริงด้วย 5G เป็นการสาธิตการสื่อสารข้อมูลด้วยความหน่วงต่ำบนเครือข่าย 5G ผ่านระบบจำลองการขับรถ โดยจะเห็นได้ชัดว่ารถยนต์จำลองจะตอบสนองต่อการการควบคุมในทันทีโดยปราศจากความหน่วง
City Model + Connected Drone พบกับเมืองต้นแบบอัจฉริยะในโลกอนาคต ที่เชื่อมต่อทุกอย่างเข้าด้วยกัน และนำโดรนเข้ามาช่วยสอดส่องความปลอดภัยและยังสามารถใช้เป็นระบบขนส่งอัจฉริยะ
Remote Operation with 5G (Excavator) สาธิตการทำงานบน latency หรือค่าความหน่วงที่ต่างกัน ในกาสั่งงานจากระยะไกล (remote) โดยใช้ รถตักจำลอง 2 คันมาทดสอบ คันแรกจะเชื่อมต่อกับเครือข่าย LTE ในขณะที่รถคันที่ 2 จะเชื่อมต่อกับ 5G ซึ่งตัวควบคุม (joystick) จะส่งคำสั่งควบคุมเดียวกันไปยังรถตักทั้ง 2 คัน โดยรถตักที่ใช้ 5G จะตอบสนองต่อการควบคุมได้แบบเรียลไทม์
3D Augmented Reality Collaboration แสดงศักยภาพการทำงานของ 3D Augmented Reality สาธิตอนาคตแห่งการทำงานร่วมกันโดยผ่านวิดีโอเสมือนจริง โดยคู่สนทนาสามารถทำงานร่วมกันจากระยะไกลแบบอินเตอร์แอคทีฟ
Robot Arm Soccer Goal Keeper ท้าดาวซัลโวพิชิตประตูของผู้รักษาประตูมือจักรกล แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำงานของ 5G ในการควบคุมการทำงานระบบ AI ที่มีทั้งความเร็วและความแม่นยำ
Rock-Paper-Scissor with Robot Arm เป่ายิ้งฉุบแบบไม่ธรรมดากับหุ่นยนต์มือกลที่ควบคุมการทำงานด้วย 5G ควบคู่กับ Machine Learning ที่เรียนรู้ท่าทางต่างๆ ของคน
360 VDO Live Streaming พิสูจน์ความแรงของ 5G ด้วยการใช้งาน 360 Live VR Streaming สาธิตการชมวิดีโอที่ให้ประสบการณ์เสมือนจริงผ่านเครือข่าย 5G โดยข้อมูลจะถูกส่งผ่านด้วยความเร็วสูงและค่าความหน่วงต่ำมายังผู้ชม ซึ่งผู้ชมจะสามารถมองรอบข้างได้ 360 องศา ประหนึ่งว่านั่งอยู่ในสถานที่จริง
Future Factories สาธิตสั่งการหุ่นยนต์ที่อยู่ในสายการผลิตผ่านระบบคลาวด์ โดยการควบคุมการเคลื่อนที่ของหุ่นยนต์จะเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดเมื่อนำเข้ามาสู่สายการผลิตจริง โดยจะต้องมีค่าความหน่วง (latency) ที่ต่ำกว่า 1 ms การสาธิตนี้จะแสดงให้เห็นถึงการควบคุมแขนกลของหุ่นยนต์ที่สามารถควบคุมผ่านการขยับมือของผู้ควบคุมบนโครงข่าย 5G
Ultrasound Robot สาธิตการทำงานของหุ่นยนต์อัลตร้าซาวด์ควบคุมการสั่งงานจากระยะไกล (remote) ซึ่งนำข้อดีของ 5G ซึ่งมี latency หรือค่าความหน่วงต่ำ มาพัฒนาใช้งานทางการแพทย์ สามารถสแกนส่วนต่างๆ ของร่างกาย เพื่อทำงานแบบเรียลไทม์และมีความแม่นยำสูง
นอกจากนี้นายวิเชาวน์ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า เทคโนโลยี 5G ที่กำลังจะเปิดให้ใช้งานจริงในอนาคตจะเข้ามามีบทบาทสำคัญปฏิวัติชีวิตของทุกคนในทุกๆ มิติ 5G มีความเร็วมากกว่า 4G ถึง 20 เท่า มี latency หรือ ค่าความหน่วงต่ำ ใช้เวลาในการตอบสนองต่อการรับ-ส่งสัญญาณที่น้อยกว่า 4G ถึง 10 เท่า เหมาะกับการใช้งานแบบเรียลไทม์ ซึ่งจะเกิดประโยชน์อย่างมหาศาล เช่น การผ่าตัดทางไกล เป็นต้น รวมถึงมีค่าการเชื่อมต่อ (Connection) ที่สามารถรองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ IoT ต่างๆ ได้มากกว่าเดิมถึง 10 เท่า
“5G จะเอื้อประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการผลิตต่างๆ เกิดระบบออโตเมชั่นสมบูรณ์แบบมากขึ้นและฉลาดยิ่งขึ้น ลดรายจ่าย เพิ่มผลผลิตได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งในอนาคตเมื่อมีการนำ 5G มาใช้งานอย่างเต็มรูปแบบ เราจะเห็นการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งใหม่ที่จะพลิกโฉมทุกชีวิต จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ประเทศไทยจะต้องเตรียมความพร้อม ทำความรู้จักกับเทคโนโลยี 5G ตลอดจนประโยชน์จากการประยุกต์ใช้งานต่างๆ อย่างรอบด้าน และเรามั่นใจว่าทรูมูฟ เอช จะเป็นผู้นำพาคนไทยก้าวสู่ยุค 5G ไปพร้อมๆ กับประชาคมโลก”
