จากกรณีที่มีการปล่อยให้คดีตากใบหมดอายุความ โดยไม่สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาคดีรี้มางดำเนินคดีได้ ซึ่งหลังคดีหมดอายุความแล้ว หนึ่งในผู้ต้องหาในคดีนี้ คือนายวิษณุ เลิศสงคราม ปลัดอำเภอท่าอุเทน ก็กลับเข้ามารายงานตัวต่อผู้บังคับบัญชา และกลับเข้ามาทำงานอย่างปกติ หลังจากมี่หายตัวไปไม่สามารถติดตามตัวได้ จนคดีหมดอายุความ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าในคดีนี้ นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดรักษาการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้เปิดเผยว่าตนได้รับรายงานแล้วว่านายวิษณุ เลิศสงคราม ได้กลับมาทำงานแล้ว ซึ่งในทางปฎิบัติถึงแม้จะสิ้นสุดอายุความแล้วตามระเบียบของทางราชการ จะต้องมีการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้ ซึ่งเบื้องต้นทราบว่ามีการยื่นในลาต่อผู้บังคับบัญชาก่อนที่จะถูกผู้บังคับบัญชายกเลิกใบลาและสั่งให้มารายงานตัว หลังถูกออกหมายจับ แต่นายวิษณุ ไม่มารายงานตัว ซึ่งหลังจากได้ข้อเท็จจริงแล้วจะทราบว่าการกระทำของนายวิษณุ มีความผิดแค่ไหน หลังจากนั้นก็จะมีการตั้งกรรมการสอบวินัยอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งจะเป็นการสอบวินัยร้ายแรงหรือไม่ร้ายแรงขึ้นอยู่กับข้อเท็จจริงที่ได้มา ซึ่งหากมีการสอบวินัยร้ายแรง โทษสุงสุดก็ถึงขั้นไล่ออกหรือปลดออก แต่หากผิดวินัยไม่ร้ายแรงก็จะมีโทษลอหลั่นลงมาเช่น ลดขั้นเงินเดือน ว่ากล่าวตักเตือนหรือตัดเงินเดือนซึ่งทางจังหวัดจะต้องเร่งดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการต่อไป ซึ่งที่ผ่านมาทางผู้บังคับบัญชาก็ได้เร่งติดตามตัวนายวิษณุ มาตลอด
ด้าน พล.ต.ต.ธวัชชัย ถุงเป้า ผบ.ก.ภจว.นครพนม เปิดเผยว่าเมื่อคดีหมดอายุความแล้วตาม ป.วิอาญาเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ต่ออีกซึ่งเป็นไปตามกฎหมาย ส่วนช่วงที่หายตัวไปก็เป็นเรื่องของทางผู้บังคับบัญชาที่จะต้องดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
โดยนายวิษณุ เลิศสงคราม บ้านเกิดเป็นคนจังหวัดเป็นคนกาฬสินธุ์ ในขณะเกิดเหตุเป็นทหาร ยศ จ.ส.อ.ทำหน้าที่เป็นพลขับ ขับรถบรรทุกขนผู้ชุมนุมไปยังจุดที่ได้รับคำสั่ง หลังจากนั้นได้สอบเป็นปลัดอำเภอได้และได้รับการบรรจุครั้งแรกที่อำเภอท่าอุเทนใน ปี พ.ศ. 2565หลังจากนั้นได้ย้ายไปปฎิบัติหน้าที่ที่อำเภอบ้านแพง และได้ย้าย กลับมาที่อำเภอท่าอุเทนอีกครั้งใน ปี 2567
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: