กลุ่มนักอนุรักษ์และชาวบ้าน ยื่นหนังสือ ผวจ.พัทลุง ขอให้ตรวจสอบและคัดค้านโครงการทำลายป่าต้นสาคูพืชเศรษฐกิจในพื้นที่ ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน
ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุงว่า วันนี้ 29 ตุลาคม 2567 ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายสุภเศรษฐ โอภิธากรณ์ ที่ปรึกษามูลนิธิพื้นที่ชุ่มน้ำทะเลน้อย นายพรศักดิ์ ชุมทอง ประธานสภาน้ำจังหวัดพัทลุง และคล่อง พูนสง ตัวแทนกลุ่มอนุรักษ์ป่สาคูตำบลทะเลน้อย พร้อมชาวบ้านร่วม 25 คน ได้เข้ายื่นหนังสือต่อ นางนิศากร วิศิษฏ์สรอรรถ. ผวจ.พัทลุง แต่เนื่องจากนางนิศากรฯ ได้เป็นประธานในการประชุมหัวหน้าส่วนประจำเดือน จึงได้มอบหมายให้นายก้องสกุล จันทราช รอง ผวจ.พัทลุง เป็นผู้รับหนังสือดังกล่าวแทน จากนั้นนายก้องสกุลฯ ได้นำตัวแทนผู้ยื่นหนังสือ และหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องไปประชุมปรึกษาเพื่อแก้ปัญหา ณ ห้องประชุมแพรทอง ศาลากลางจังหวัดพัทลุง
สำหรับการยื่นหนังสือดังกล่าวนี้ สืบเนื่องจากเทศบาลตำบลทะเลน้อยได้ขุดสระนำในที่ดินสาธารณะประโยชน์ หมู่ที่ 5 ตำบลทะเลน้อย อำเภอควนขนุน งบประมาณ 4,896,000.- บาท ตามโครงการการป้องกันและแก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากสถานการณ์เอลนีโญ ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวบริเวณพื้นที่ขุดสระน้ำดังกล่าว ได้นำเครื่องจักรกลขุดทำลายป่าต้นสาคูบริเวณที่ดินสาธารณะที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์ร่วมกัน จนทำให้ป่าสาคูได้รับความเสียหายเป็นพื้นที่หลายไร่ ต้นสาคูนั้นมีประโยชน์มากมายชาวบ้านในพื้นที่สร้างรายได้จากต้นสาคู สำหรับต้นสามารถเย็บเป็นตับมุงหลังคา ต้นสาคูแปรรูปเป็นแป้งสาคูเพื่อทำเป็นขนมสาคูกวน ซึ่งเป็นขนมที่มีชื่อเสียงของจังหวัดพัทลุงและได้รับความนิยมบริโภคกันทั่วประเทศ
ดังนั้น จึงขอให้ตรวจสอบว่าโครงการดังกล่าวดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ส่งให้ชะลอโครงการดังกล่าว เพื่อเปิดทางให้มีการตรวจสอบอย่างรอบด้าน และไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมเพิ่มขึ้น และขอให้ยุติโครงการขุดสระน้ำดังกล่าวแล้วปรับเปลี่ยนมาเป็นการฟื้นฟูพื้นที่ด้วยการปลูกเป็นป่าสาคูทดแทน ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ขณะที่ประชุมเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว โดยมีนายก้องสกุล จันทราช รอง ผวจ.พัทลุง เป็นประธานทีประชุมมีทั้งฝ่ายกลุ่มนักอนุรักษ์และชาวบ้าน รวมถึงนายกเทศมนตรีตำบลทะเลน้อย นางชลฑิชา หมื่นหนู นายกเทศมนตรีตำบลทะเลน้อย เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลทะเลน้อย และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอควนขนุน ซึ่งประชุมจะได้ตั้งคณะกรรมการร่วมลงตรวจสอบข้อเท็จจริง จาการดำเนินโครงการดังกล่าวฯถูกต้องหรือไม่ และเบี้องต้นนั้นให้หยุดทำลายป่าต้นสาคู บริเวณของโครงการ พร้อมกับฟื้นฟูพื้นที่ด้วยการปลูกป่าสาคูทดแทนโดยเร็ว
