วันที่ 30 ต.ค.67 เวลา 11.00 น.ผู้สื่อข่าวลงพื้น พบ นางสาวกานต์สินี โพธิ์ขำ อายุ 43 ปี ชาวบ้านพื้นที่บ้านวังยาง ต.ปลาปาก อ.ปลาปาก จ.นครพนม อดีตครูอัตราจ้างสอนเด็กปฐมวัยยังโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งของจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งในหลายๆคนที่ได้รับผลกระทบและได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของนายหัสนันท์ หรือกิตติพงษ์ ที่เข้ามาหลอกชักชวนให้ไปทำงานในฟาร์มเกษตรยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอ้างว่ากำลังติดตามหาญาติเพื่อชวนไปทำงาน ซึ่งกำลังต้องการคนงานเพิ่มอีก 2คน พร้อมที่กล่าวชักชวนตนและอ้างว่าจะมีรายได้เดือนละกว่าหนึ่งแสนบาท มีค่าใช้จ่ายและค่าเดินทาง 35,000 บาท หากสนใจอยากจะไปจริงๆจะลดค่าใช้จ่ายให้เหลือ 32,000 บาท ตนจึงได้ตอบตกลงโดยทันที ทั้งนี้จึงได้หยิบยืมเงินจากคนใกล้ตัวและญาตืพี่น้อง โดยแบ่งจ่าย 3 งวด งวดแรกจ่ายก่อน 10,000 บาท เมื่อวันที่ 13 มีนาคม งวดที่ 2 โอนให้อีก 18,000 บาทเมื่อวันที่ 16 มีนาคม และงวดที่ 3 วันที่ 17 มีนาคม 2567 โอนที่เหลืออีก 4,000 บาท รวมจำนวนเงิน 32,000 บาท เพื่อจะได้เดินทางไปทำงานที่สหรัฐ จากนั้นจึงนำรถจักรยานยนต์พาหนะคู่ใจไปขอสินเชื่อจากบริษัทปล่อยเงินกู้ เพื่อนำเงินมาจ่ายคืนให้กับญาติพี่น้องที่ตนได้หยิบยืมมา แต่หลังจากนั้นมานายหัสนันท์หรือนายกิตติพงษ์ได้ขาดการติดต่อและหายหน้าไป ตนจึงพยายามติดต่อกระทั่งได้รับคำตอบว่า ยังขาดคนงานอีกเพียง 2 คนก็จะได้เดินทางไปแล้วและจะเป็นอย่างนี้ทุกครั้งเวลาติดต่อไป จนทราบภายหลังว่ามีผู้เสียหายจากการกระทำของนายหน้าเถื่อนรายนี้หลายคน จึงแน่ใจว่าโดนหลอกแน่นอนและได้ตัดสินใจนำเรื่องดังกล่าวไปปรึกษายังสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนม ทำให้ทราบว่ามีผู้ที่ได้ความเสียหายจากการกระทำของนายหน้าเถื่อนรายนี้จำนวนหลายราย และกำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อความดำเนินคดี ตนเองจึงได้เดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ พนักงานสอบสวน สภ.ปลาปาก ให้นำตัวมาเพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำและขอให้ดำเนินคดีไว้แล้ว นางสาวกานต์สินี กล่าวว่า ทุกวันนี้ตนต้องได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก ซึ่งเดิมตนเคยประกอบอาชีพครู ส่วนสามีทำงานเป็น อส. ต่างเคยมีรายได้รวมกันราว สามหมื่นบาทต่อเดือน แต่ด้วยมีภาระหนี้สินอยู่จำนวนหนึ่งและมีลูกๆอีก 3 คนที่กำลังเรียนหนังสือ จึงตัดสินใจลาออกเพื่อหวังว่าจะได้ปลดหนี้สินและหวังเพื่อให้สภาพชีวิตของครอบครัวดีขึ้น จึงได้หลงเชื่อยอมโอนเงินจำนวนดังกล่าว
นายประนอม ชวดเมืองปักษ์ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สนง.จัดหางานจังหวัดนครพนม กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะนี้ได้มีผู้เสียหายเดินทางมาร้องเรียนยังสำนักงานจัดหางานแล้ว จำนวน 8 ราย ทั้งนี้ได้รวบรวมข้อมูลการกระทำผิดของนายหน้าคนดังกล่าว เพื่อแจ้งความดำเนินคดีในข้อหาหลอกลวงประชาชน เพราะมีอายุความถึง 15 ปี พร้อมทั้งฝากเตือนผู้ที่เชื่อว่าถูกหลอกลวงจากนายหน้าเถื่อนรายนี้หลอกแน่นอนแล้ว ขอให้รีบเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดนครพนมหรือจังหวัดอื่น ๆ ได้ทั่วประเทศ นอกจากนี้ขอให้ระมัดระวังการถูกหลอกลวงให้ไปทำงานยังต่างประเทศให้รอบคอบ โดยเฉพาะประเทศออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ขอให้ตรวจข้อมูลยังสำนักงานจัดหางานให้แน่ชัดก่อนตัดสินใจ
ขณะที่ พล.ต.ต. ธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครพนม กล่าวว่า ขณะนี้ได้ทราบเรื่องราวของนายหัสนันท์หรือกิตติพงษ์ นายหน้าแรงงานเถื่อนที่ถูกกล่าวหาแล้ว ซึ่งขณะนี้ ทางสภ.หนองฮี ได้ทำการออกหมายเรียกตัวในครั้งแรกไปแล้ว และกำลังอยู่ในระหว่างการออกหมายเรียกครั้งที่สอง หากไม่มาตามหมายก็จะออกหมายจับ แต่สำหรับทาง สภ.ปลาปาก มีผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษไว้แล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งทางนายหน้าคนดังกล่าวได้ปฎิเสธข้อกล่าวทั้งหมด อ้างว่าตนเองก็ถูกหลอกมาให้หาคนงานมาอีกที ทั้งนี้เรื่องทั้งหมดก็คงให้ไปแก้ต่างในชั้นศาลที่จะมีขึ้นใน กลางเดือน พ.ย 67 ที่จะถึงนี้
