X

ชาวกันตัง ไม่ทน! จ่อแจ้ง 157 หากตรวจรับงานมิชอบ โครงการปรับภูมิทัศน์ริมท่าน้ำกันตัง-เกาะเนรมิต 73.7 ล้าน บ.รับเหมาดังภาคใต้ขอขอขยายสัญญากรมโยธาฯ 3 รอบ ยังสร้างไม่เสร็จ

ชาวกันตัง ไม่ทน! จ่อแจ้ง 157 หากตรวจรับงานมิชอบ โครงการปรับภูมิทัศน์ริมท่าน้ำกันตัง-เกาะเนรมิต 73.7 ล้าน บ.รับเหมาดังภาคใต้ขอขอขยายสัญญากรมโยธาฯ 3 รอบ ยังสร้างไม่เสร็จ ปูด งานไม่เรียบร้อยอื้อ ท่วมขังหลายจุด โยธาฯตรัง โร่แจงเหลือแค่ 10% ก็เสร็จแล้ว ผงะอีก บริษัทเดียวกัน ควงงานปรับภูมิทัศน์ใจกลางเมือง “จัตุรัสเมืองตรัง” 43 ล้าน ส่อไม่เสร็จตามกำหนด ขยายสัญญาอีก 121 วัน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดตรังเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2567 ว่า เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันในโลกโซเชี่ยลจังหวัดตรัง กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Thaksaaut Jirotmontri สมาชิกเครือข่ายชมรมเสียงประชาชน จังหวัดตรัง(สปช.ตรัง) ชาวอำเภอเภอกันตัง จังหวัดตรัง โพสข้อความพร้อมภาพประกอบ ระบุ โครงการพัฒนาพื้นที่เฉพาะเพื่อรองรับการท่องเที่ยวบริเวณเมืองเก่ากันตัง ครบสัญญาแล้ว , ก่อสร้างไม่เสร็จ , ก่อสร้างไม่เรียบร้อย คือ ปัญหาของเมืองกันตัง ทั้งนี้โครงการดังกล่าวมีกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย เป็นผู้ว่าจ้าง บริษัทเอกชนชื่อดังในภาคใต้รายหนึ่งซึ่งเป็นคู่สัญญาหลายโครงการกับกรมโยธาฯ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดตรัง กระบี่ สงขลา ไปจนถึงนราธิวาส เข้าปรับปรุงภูมิทัศน์ริมท่าเรือกันตัง ภายในเขตเทศบาลเมืองกันตัง รวมทั้งบริเวณเกาะเนรมิต ซึ่งเป็นเกาะกลางน้ำที่ตั้งของ ขนาดเล็กที่สุด มีเนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ ส่วนหนึ่งเป็นป่าชายเลน ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านท่าเรือ ตำบลกันตังใต้ หรือตั้งอยู่ห่างจากท่าน้ำเมืองกันตัง เพียงแค่ 100 เมตร ใช้ระยะเวลาในการเดินทางด้วยเรือหางยาวประมาณ 5 นาที และเป็นสถานที่ตั้งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวประมง และชาวอำเภอกันตังให้ความเคารพนับถือ คือ พระตำหนักและอนุสาวรีย์พลเรือเอกกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือ เสด็จเตี่ย

ทั้งนี้ โครงการพัฒนาพื้นที่เฉพาะเพื่อรองรับการท่องเที่ยวบริเวณเมืองเก่ากันตัง วงเงินรวมทั้งสิ้น 73.7 ล้านบาท เเบ่งเป็นการปรับภูมิทัศน์ฝั่งท่าเรือกันตัง 43 ล้านบาท เเละฝั่งเกาะเนรมิต 30 ล้านบาท มีการปรับปรุงทั้งหมด จำนวน 6 จุด ได้แก่ อาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อาคารเอนกประสงค์ อาคารบริการแพขนานยนต์ อาคารห้องสุขสาธารณะ อาคารกิจกรรม และ งานภูมิทัศน์ ระเวลางาน 790 วัน เริ่มสัญญาก่อสร้างเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2565 สิ้นสุดสัญญา วันที่ 4 มีนาคม 2567 ต่อมากรมโยธาฯอนุมัติตามที่รับจ้างขอขยายสัญญา โดยสิ้นสุดขยายสัญญาครั้งแรกไปเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 หลังจากสิ้นสุดขยายสัญญาครั้งแรก กรมโยธาฯจึงเริ่มคิดค่าปรับตามสัญญาที่ 60,000 กว่าบาท/วัน ต่อมากรมโยธาฯอนุมัติตามที่รับจ้างขอขยายสัญญาครั้งที่สอง และสิ้นสุดขยายสัญญาไปแล้วเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา โดยการก่อสร้างก็ยังไม่แล้วเสร็จ โดยประชาชนชาวอำเภอกันตังตั้งข้อสังเกตว่าอย่างไรก็เสร็จไม่ทันตามสัญญา เพราะผู้รับจ้างเข้ามาทำงานล่าช้าตั้งแต่เริ่มโครงการ เสี่ยงต่อและกระทบประชาชนในพื้นที่เสียโอกาส หากมีการทิ้งงานหรือใช้เวลาก่อสร้างนาน

ผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Thaksaaut Jirotmontri ระบุอีกว่า จากความคืบหน้าก่อสร้างล่าสุด ปัญหาที่พบเห็น คือ 1.ลู่เดิน-วิ่ง สีเขียวโดยรอบ มีน้ำท่วมขังหลายจุด เมื่อฝนตก 2.ลานจอดรถมีน้ำท่วมขังเป็นบางจุด 3.ทางรถยนต์ขึ้น-ลง ลานจอดรถ ต่างระดับมากเกินไป หนึ่งในคณะกรรมตรวจงานและรับงาน คือ นายกเทศมนตรีเมืองกันตัง เมื่อเห็นว่าการก่อสร้างไม่เรียบร้อย จะต้องสั่งแก้ไข เพราะถือว่าเป็นเจ้าของพื้นที่โครงการด้วย

ด้านนางอรษา จันทร์สีดำ โยธาธิการและผังเมือง จังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวเหลืองานเพียงแค่ร้อยละ 10 และหากมีการอนุมัติให้ต่อขยายสัญญา ก็จะเป็นการพิจารณาตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาจ้าง รวมทั้งเรื่องการคิดคำนวณค่าปรับส่งมอบงานล่าช้าด้วย นอกจากนี้ในส่วนของโครงการจัตุรัสเมืองตรัง ภายในเขตเทศบาลนครตรัง ความคืบหน้าการก่อสร้างขณะนี้อยู่ที่ 80% และหากจะมีการขยายสัญญา ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญาจ้าง

ต่อมานายทักษ์อัตถ์ จิโรจน์มนตรี สมาชิกสปช.ตรัง เจ้าของเฟสบุ๊คดังกล่าว พร้อมด้วยคณะกรรมการชมรมสปช.ตรัง นำโดยนายรัตน์ ภู่กลาง ประธานสปช.ตรัง นายจิรศักดิ์ ควนจันทร์ แกนนำสปช.ตรัง และนายโยธิน ตุลยกุล ที่ปรึกษาด้านกฎหมายสปช.ตรัง ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ก่อสร้าง โดย นายทักษ์อัตถ์ กล่าวว่า ในการขยายสัญญาครั้งล่าสุดนี้ ยังมีการที่ต้องเข้ามาปรับปรุง ตัดแต่งตนไม้ และงานอีกหลายส่วน รวมถึงสภาพพื้นผิวการก่อสร้างให้สะอาดเรียบร้อย ทั้งนี้การปรับปรุงภูมิทัศน์หากแล้วเสร็จก็จะกลายเป็นสถานที่ที่สวยงาม แต่ปัญหาคือการก่อสร้างไม้แล้วเสร็จและมีการขอขยายสัญญาไปเรื่อยๆ และจากข้อบกพร่องการก่อสร้างที่พบ เมื่อส่งมอบงาน ถ้าคณะกรรมการตรวจรับเซ็นต์รับงานทั้งๆที่ไม่เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไป คือ แจ้งความเอาผิด และร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.ตรัง , สตง.ตรัง และ ป.ป.ท. เพื่อลงมาตรวจสอบ สืบหาผู้กระทำผิดและลงโทษผู้กระทำผิดในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐ ละเลย ละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ต่อไป เพราะคนกันตัง ต้องช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของเมืองกันตัง

ด้านนายรัตน์ ภู่กลาง ประธานสปช.ตรัง กล่าวว่า สิ่งที่น่าดีใจเพราะกันตังมีเกาะที่สวยงาม มีเกาะเนรมิตที่น่าเสียดายเพราะตอนนี้ยังก่อสร้างไม่เสร็จ และยังมีการต่อสัญญา ถือว่าเป็นการเสียโอกาสของคนกันตัง ดังนั้นกรมโยธาฯที่เป็นเจ้าของโครงการ ต้องเร่งรัดการก่อสร้าง รวมถึงจังหวัดตรังและหน่วยงานด้านการท่องเที่ยว ก็ต้องเข้ามาดูแล เพราะตอนนี้จังหวัดตรังเองเป็นจังหวัดที่มีเศรษฐกิจตกต่ำ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องต้องลงมาดู เพราะการต่อขยายสัญญาที่ไม่แล้วเสร็จไปเรื่อยๆ จะสร้างความเสียหายแก่ชาวตรังมาก

ขณะที่นายจิระศักดิ์ ควนจันทร์ แกนนำสปช.ตรัง กล่าวว่า โครงการนี้ใช้งบกว่า 73 ล้านบาท ซึ่งเป็นงานของกรมโยธาฯ ตอนนี้มีการขยายสัญญาอีก แต่จากการลงพื้นที่ตอนนี้เท่าที่เห็นทั้งฝั่งของท่าเรือกันตังและฝั่งบนเกาะเนรมิต คืบหน้าไประดับหนึ่ง และในช่วงหมดสัญญาแล้วและมีการต่อสัญญาเพิ่ม คาดว่าฝั่งในเขตเทศบาลเมืองกันตังน่าจะเสร็จทัน แต่ทางฝั่งเกาะเนรมิตคาดว่าจะมีการยืดเวลาออกไปอีก ส่วนที่โยธาธิการและผังเมืองตรังบอกว่างานเหลือแค่ประมาณ 10% นั้น หากประเมินด้วยสายตาและดูการทำงานการ การขนถ่ายวัสดุไปยังเกาะเนรมิตมันมีอุปสรรคและความล่าช้าเกิดขึ้น กรมโยธาฯต้องมาดูว่าเมื่อถึงเวลานั้น ผลปรากฏเป็นอย่างไร ด้วยความปรารถนาดีจากสปช.ตรังอยากให้งานเสร็จโดยสมบูรณ์แม้จะช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร แต่ที่เรากลัวที่สุด คือกลัวการทิ้งงาน นอกจากนี้ยังพบว่าบางส่วนชำรุดแล้ว เรื่องนี้กรรมการตรวจรับงานต้องดูแลอย่างถี่ถ้วน ไม่เช่นนั้นเมื่อตรวจรับงานผ่านไปแล้ว ชาวบ้านมาเห็นหรือนักท่องเที่ยวที่มากันตังจะมาดูความสวยงามของสถานที่ท่องเที่ยวแล้วเห็นว่าบางจุดของการก่อสร้างไม่เรียบร้อย จะเกิดผลเสียในอนาคตได้ การตรวจรับงานจึงต้องดูว่าตรงไหนไม่ดี ตรงไหนมีจุดบกพร่องสมควรที่จะแก้ไขก่อนรับมอบงานจะดีที่สุด

ทั้งนี้ สำหรับโครงการดังกล่าว เป็นโครงการประกวดราคาจ้างก่อสร้างโครงการพัฒนาพื้นที่เฉพาะเพื่อรองรับการท่องเที่ยวบริเวณเมืองเก่ากันตัง จังหวัดตรัง เลขที่โครงการ : 64027253733 ราคากลาง : 77,617,000.00 บาท วงเงินงบประมาณ : 80,000,000.00 บาท ราคาที่ตกลงซื้อ/จ้าง : 73,765,500.00 บาท ประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรัง ตามสัญญาเลขที่ สสถ. 96/2565 มีบริษัท ตากใบการโยธา จำกัด เป็นคู่สัญญา วงเงินงบประมาณ : 73,765,500 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะเดียวกัน ที่ใจกลางเมืองตรัง บริเวณหอนาฬิกาตรัง ถนนวิเศษกุล ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ประชาชนชาวตรังได้แสดงความเป็นห่วงการก่อสร้างที่ล่าช้าของโครงการจัตุรัสเมืองตรัง หรือ ตรังสแควร์ ระยะที่ 1 วงเงิน 43 ล้านบาท โดยกรมโยธาฯ เป็นคู่สัญญากับบริษัทดังกล่าวเช่นกัน มีสำนักสถาปัตยกรรม กรมโยธาฯ เป็นเจ้าของโครงการ โดยในภาพใหญ่โครงการตั้งงบประมาณผูกพัน 3 ปี สนับสนุนให้กับจังหวัดตรัง และว่าจ้าง 3 บริษัท ศึกษาความเหมาะสม และออกแบบรายละเอียดโครงการ ก่อนเปิดให้มีการประกวดราคา โดยบริษัทตากใบการโยธา จำกัด 163/1 ม.4 ต.เจะแห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เป็นผู้ชนะการเสนอราคา ในวงเงิน 43,097,000 บาท เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ต่ำกว่าราคากลางที่คำนวณไว้ ณ วันที่ 7 มิถุนายน 2565 กว่า 6 ล้านบาท สัญญาเริ่มต้นวันที่ 28 ธ.ค.2565 สิ้นสุดวันที่ 26 พ.ย.2567 รวมระยะเวลา 700 วัน มีโยธิการและผังเมืองเป็นผู้ควบคุมงานและเป็นกรรมการร่วมตรวจรับงาน รวมทั้งเทศบาลนครตรัง ทั้งนี้ผู้รับเหมาได้เริ่มการก่อสร้างโดยการเข้ารื้อเกาะกลางถนนซึ่งเดิมเป็นสวนหย่อมพักผ่อนหย่อนใจพร้อมเทคอนกรีตพื้นที่รื้อถอนในช่วงเดือนเม.ย.2566 จากนั้นได้หยุดการก่อสร้างไปโดยไม่ทราบสาเหตุนานหลายเดือน จนชาวตรังหลายรายได้ออกมาทวงถามผ่านโซเชี่ยล จนสื่อนำเนอข่าว จึงได้กลับมาก่อสร้างอีกครั้ง กระทั่งปัจจุบันเหลือเวลาเพียง 1 วัน ก็จะครบกำหนดสัญญาส่งมอบงาน ก็ยังไม่แล้วเสร็จ เหลืองานอีกมาก โดยล่าสุดโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดตรังออกมาระบุความคืบหน้าการก่อสร้างอยู่ที่ 80% ซึ่งยังค้านสายตาประชาชนผู้พบเห็นที่มองว่ายังเหลืองานค้างอีกเป็นจำนวนมาก

รายงานข่าวล่าสุดแจ้งว่า ผู้รับจ้างได้ทำเรื่องขออนุมัติขยายสัญญาก่อสร้างไปอีก 121 วัน (นับตั้งแต่ 26พ.ย.67เป็นต้นไป) ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาโดยกรมโยธาฯ โดยยังไม่ทราบเหตุผลอ้างอิงประกอบคำขอขยายเวลาแต่อย่างใด

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน