จากกรณีเหตุคานโครงเหล็กทางยกระดับพระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ ใกล้ตลาดมหาชัยเมืองใหม่ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ถล่มทับคนงานเสียชีวิต 6 คน ในจำนวนนี้มีแรงงานไทย 2 คนเสียชีวิต ที่เหลืออีก 4 คนเป็นชาวเมียนมา และมีผู้บาดเจ็บจำนวนหลายราย เหตุเกิดช่วงรุ่งสางวันที่ 29 พ.ย.67 ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
คืบหน้า วันที่ 30 พ.ย.2567 ที่บ้านวังตามัว หมู่ 9 ต.วังตามัว อ.เมือง จ.นครพนม นายสำเริง พะพันทาง อายุ 48 ปี และนางกันนิกา ทุมทอง วัย 48 ปี พ่อและแม่นายอภิวัฒน์ พร้อมญาติได้มารอรับร่างไร้วิญญาณของลูกชายลงจากรถตู้ในเวลา 24.30 น. ไปตั้งบำเพ็ญกุศลในบ้านพัก โดยนายสำเริง ผู้เป็นพ่อได้จุดธูปหน้าโลงศพมือไม้สั่นและกลั่นน้ำตาไว้ พร้อมบอกลูกชายว่า “ถึงบ้านเราแล้วน่ะลูก” ส่วนนางกันนิกา ผู้เป็นแม่ ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ตลอดเวลา
นอกจากนี้ยังมีลูกชาย 3 คน อายุ 9 ขวบ อายุ 14 ปี และอายุ 14 ปีของนายอภิวัฒน์ ซึ่งเป็นลูกติดภรรยาคนแรก นั่งร่ำไห้รอรับศพผู้เป็นพ่อพร้อมจุดธูปกราบไหว้บุพการีขอขมาลาโทษ ด้วยความเศร้าสลดเทือนใจแก่เพื่อนบ้านที่พบเห็น ส่วนลูกสาววัย 3 ขวบซึ่งเป็นลูกติดเมียคนที่ 2 ก่อนจะเลิกรากับภรรยาได้ 3 เดือนก่อนเกิดเหตุสลด ได้นอนหลับในห้องนอน โดยยังไม่รู้ว่าผู้เป็นพ่อเสียชีวิตแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
นางกันนิกา กล่าวทั้งน้ำตาว่า วิงวอนผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งบริษัทที่ลูกชายทำงานอยู่ได้ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระตามความเหมาะสม ที่เป็นห่วงอยู่ในขณะนี้คืออนาคตของหลานทั้ง 4 คนโดยเฉพาะในเรื่องทุนการศึกษา เนื่องจากลูกชายผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว ทำงานหารายได้มาจุนเจือลูกน้อยและยังติดภาระส่งงวดรถกระบะที่เพิ่งถอยมาได้แค่ 1 ปี
แม่ผู้เสียชีวิต กล่าวต่อว่า ในการเยียวยาเบื้องต้นจากเหตุลูกชายถูกคานถล่มทับครั้งนี้ นอกจากประกันสังคมที่นายจ้างทำและหักเงินลูกชายจะได้เงิน 50,000 บาท ในการค่าทำศพและเงินทดแทนรายละ 792,792 บาทไม่รวมดอกผล ผู้เป็นบุพการีจะได้เงินบำเหน็จรวมระยะเวลา 10 ปี ในจำนวนนี้แล้วแต่ค่าแรงของลูกชาย ก็จะไม่รู้จะเพียงพอส่งลูกให้เรียนจบหรือไม่
นางกันนิกา กล่าวด้วยว่า หลังจาก น.ส.บี ศรีสิงห์ อายุ 27 ปี ชาวลาว อดีตภรรยาคนที่ 2 ที่เลิกราได้ 3 เดือน ได้นั่งรถตู้พาร่างลูกชายมาส่งถึงบ้าน และโปรยเหรียญเปิดทางมาตลอด ตกดึกอดีตลูกสะใภ้รายนี้ ได้มาเล่าความฝันให้ฟังว่า ลูกชายยืนร้องไห้อยู่หน้าบ้าน เข้าบ้านไม่ได้และหนาวสั่น ขณะรับศพเข้าบ้านมัวแต่ร้องไห้เสียใจ จนลืมไปว่าลืมแต่งขันธ์ห้าเปิดทางให้เจ้าที่เจ้าทาง รุ่งเช้าจึงแต่งขันธ์ห้านำของรักษามาอธิษฐานจิตให้ดวงวิญญาณลูกได้เข้าบ้านในที่สุด
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับทราบข้อมูลจากทางญาติว่า จะเลื่อนการฌาปณกิจออกไปจากที่มีขึ้นใน วันจันทร์ที่ 2 ธ.ค.67 เป็นวันเสาร์ที่ 7 ธ.ค. 67 เนื่องจากทางบริษัทฯนายจ้างของ นายอภิวัฒน์ ขอนัดเจรจาตกลงจากเสียชีวิตในวันจันทร์ที่ 2 ธ.ค. 67 ที่จะถึงนี้ โดยเบื้องต้นทราบว่า ทางบริษัทฯจะจ่ายเงินชดเชย 1 ล้านบาท หัวหน้างานจะให้เงินช่วยเหลือเยียวยา 5 หมื่นบาท จากนั้นก็จะยื่นเรื่องการเสียชีวิตของนายอภิวัฒน์ ต่อประกันสังคมเพื่อรับเงินทำศพและเงินทดแทนต่อไป
ผู้สื่อข่าวได้สอบถามถึงความพึ่งพอใจในการที่จะได้รับเงินชดเชยและเงินทดแทนดังกล่าวหรือไม่ นางกันนิกา กล่าวว่า เงินจำนวนดังกล่าวที่จะได้รับ ตนไม่มั่นใจว่าจะเพียงพอเป็นค่าเลี้ยงดูและให้ลูกทั้ง 4คน ของ โจ้ อภิวัฒน์ จนเรียนจบการศึกษาหรือไม่ แต่ตนก็เริ่มยอมรับถึงการจากไปอย่างไม่มีวันกลับมาของลูกได้บ้างแล้ว.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: