ตรัง-ผบก.ภ.จว.ตรัง แถลงด่วน! คดีโจรดอดลักสายไฟอาคารสนามบินตรัง อึ้ง! ลงมือลักนาน 3 เดือน เรื่องเพิ่งแดง พาขายฉ่ำ รัวๆ 29 ครั้ง นน.ทองแดงเกือบครึ่งตัน รวบ 6 ผตห. มีเยาวชนด้วย ร้านรับซื้อของเก่ารอดเฉย ข้อหารับซื้อของโจร เหตุ มีบันทึกรับซื้อตามกม. ผู้การตรัง ยกเป็นตัวอย่าง ทำตามระเบียบเหมือนมีเครื่องปกป้องตัวเอง เตือนอาคารรัฐ-เอกชน เร่งติดวงจรปิด จัดเวรยามให้เข้มงวด เพราะศก.ไม่ดี โจรชุกชุม
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2567 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พล.ต.ต. ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมด้วย พ.อ.กฤษฎา คงพันธุ์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดตรัง (ทหาร) พ.ต.อ.ประพัตร์ ศรีอนันต์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง , พ.ต.อ.ภาสกร ภักดีวานิช รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง , พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง , พ.ต.อ.เอกณรงค์ สวัสดิกานนท์ รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง , พ.ต.อ.ภูมิสิทธิ์ นาวัง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง , ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง และ หน.สภ.ในสังกัด ภ.จว.ตรัง ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลระดมกวาดล้างอาชญากรรม การจับกุมอาวุธปืน และระดมจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับตามหมายจับ จับกุมความผิดซึ่งหน้าในคดีต่างๆ และคดีที่น่าสนใจ ผลการปฏิบัติประจำเดือน พฤศจิกายน 2567
โดย พล.ต.ต. ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง แถลงว่า สำหรับคดีที่มีความสำคัญและน่าสนใจ ในความรับผิดชอบคดีของสภ.เมืองตรัง คดีร่วมกันลักสายไฟทองแดง
เหตุเกิด บริเวณภายในอาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานนานาชาติตรัง หลังใหม่ มูลค่าโครงการ 1.2 พันล้านบาท ในพื้นที่ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง จ.ตรัง วันที่เกิดเหตุ ระหว่างวันที่ 16 ก.ย.67 จนถึงวันที่ 4 พ.ย.67 เกิดเหตุนานร่วมกว่า 3 เดือน ผู้เกี่ยวข้องจึงเพิ่งจะพบว่ามีการโจรกรรม สำหรับพฤติการณ์คดี เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2567 ด้วยนายสมชาย สุขธรรม อายุ 67 ปี เจ้าหน้าที่ท่าอากาศยานตรัง มาร้องทุกข์กับ พนักงานสอบสวนสภ.เมืองตรัง ว่ามีคนร้ายก่อเหตุลักสายไฟลวดทองแดง ภายในอาคารที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานนานสชาติตรังหลังใหม่ หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.สานิตย์ พลเพชร ผกก.สภ.เมืองตรัง และ ผกก.สส.ภ.จว.ตรัง ได้วางกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวนดักซุ่มโป่งยังสถานที่เกิดเหตุ พบคนร้ายจำนวน 3 ราย ขับขี่เข้ามาภายในท่าอากาศยาน แต่หลบหนีไปได้ จึงได้จัดทำรายงานสืบสวน จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 5 ราย ขณะนี้จับได้ จำนวน 2 ราย (เยาวชน 1 ราย) ต่อมามีการขยายผลทราบว่ามีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งสิ้น รวม 6 ราย
“โดยของกลางทั้งหมดนำไปขายที่ร้านดุสิตของเก่า ย่านต.บ้านโพธิ์ อ.เมืองตรัง จำนวน 29 ครั้ง ซึ่งทางร้านรับซื้อไว้ในราคา กก.ละ 270 บาท รวมเป็นเงิน 128,493 บาท ขณะนี้ของกลางทั้งหมดทางร้านได้นำไปขายต่อที่ บ.สิรภพฯ ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา ในราคา กก.ละ 300 บาท สำหรับความเสียหาย ประกอบด้วย สายไฟลวดทองแดง น้ำหนักประมาณ 475.9 กก. ความยาวประมาณ 230 เมตร”ผบก.ภ.จว.ตรังระบุ
พล.ต.ต. ภัทรวิชญ์ กล่าวว่า สำหรับพยานบุคคลในคดีนี้ คิอ นายดุสิต แซงบุญนาง เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า ด้านวัตถุพยาน ประกอบด้วย กล้องวงจรปิดจากท่าอากาศยานตรัง และกล้องวงจรปิดจากร้านดุสิตของเก่า ” โทรศัพท์มือถือของนายดุสิตฯ ส่วนผู้ต้องหารวม 6 ราย ประกอบด้วย 1.นายธนวัฒน์ (สงวนนามสกุล) (จับกุม) 2.นายกมลภพ (สงวนนามสกุล) (เยาวชน/จับกุม) 3.นายศรศิลป์ (สงวนนามสกุล) (หมายจับ) 4.นายอนุชา (สงวนนามสกุล) 5.นายธีระพัฒน์ (สงวนนามสกุล) (หมายจับ) และ 6.นางสาวอมรทิพย์ (สงวนนามสกุล) ส่วนการขยายผลคดีทางตำรวจได้ขยายผลแล้วซึ่งใน ส่วนของผู้ต้องหาทั้งหมดชัดเจนว่าเป็นการลักทรัพย์
“อย่างไรก็ตามในส่วนของผู้รับซื้อจากการสอบสวนขยายผลพบว่ายังไม่เข้าคายว่ามีเจตนาในการรับซื้อของโจร เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนและตรวจพบการทำบันทึกการรับซื้อของเก่าตามระเบียบข้อกฎหมายการรับซื้อของเก่าเช่น การจดชื่อที่อยู่ ถ่ายบัตรประชาชน บันทึกเลขประจำตัว 13 หลักไว้เพื่อเป็นหลักฐาน ซึ่งถือเป็นตัวอย่างให้กับร้านรับซื้อของเก่าอื่นๆได้ว่าหากท่านมีมาตรการเหล่านี้ก็จะช่วยให้ไม่เกี่ยวข้องกับการรับซื้อของโจร ทั้งนี้ทางตำรวจอยากฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงเจ้าของอาคารสถานที่ตั้งอาคารภาครัฐ เอกชน และประชาชนทั่วไป ว่าในภาวะเศรษฐกิจที่ไม่ดีแบบนี้ ท่านต้องดูแลระมัดระวังทรัพย์สินของท่านก่อนเป็นอันดับแรก ถ้ามีกำลังในเรื่องของการจัดให้มีเวรยามหรือผู้ดูแล หรือติดตั้งกล้องวงจรปิด ก็จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเหล่านี้ได้”ผบก.จว.ตรัง กล่าวทิ้งท้าย
