ตรัง-สุดภูมิใจ! ยูเนสโกจ่อขึ้นทะเบียนเมนู “ต้มยำกุ้งไทย” มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ร้านอาหารดังเมืองตรัง ดัน “กุ้งแม่น้ำตรัง“ ขึ้นโต๊ะเสริฟ เผยที่มาวัตถุดิบจากแหล่งธรรมชาติ สร้างรายได้ชาวบ้าน ออกตกกุ้งได้วันละพันบาท ททท.ตรัง ชู Soft powerแม่น้ำตรัง อุดมสมบูรณ์ น้ำไม่ใส กุ้งอยู่ไม่ได้ ด้วยสองมือชาวบ้านร่วมอนุรักษ์ จึงมีกุ้งแม่น้ำตรังเลิศรส ให้ลิ้มลอง
จากกรณีที่ 4 ธ.ค.นี้ กระทรวงวัฒนธรรม ออกมาชวนคนไทยฉลอง ในโอกาสที่ “ต้มยำกุ้ง-เคบายา” จ่อขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ โดยยูเนสโก โดยเมนูต้มยำกุ้งถือเป็นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้โดยยูเนสโกรายการที่ 5 ของไทย
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่บ้านกุ้งแม่น้ำตรัง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหนึ่งในร้านที่มีชื่อเสียงของจังหวัดตรังในเรื่องของการทำเมนูต้มยำกุ้ง ซึ่งกุ้งเป็นกุ้งแม่น้ำตรังและเป็นกุ้งที่สดใหม่สะอาด โดยกว่าจะมาเป็นเมนูต้มยำกุ้งจะต้องนั่งเรือไปตกกุ้งกันก่อนหลังจากนั้นนำมาปรุงอาหารที่ร้าน
นายสายชล เสาะซิ้ว เจ้าของร้านบ้านกุ้งแม่น้ำตรัง บอกว่า เรื่องต้มยำกุ้งเป็นเมนูที่คู่คนไทยมานานและเป็นเมนูรสชาติจัดจ้าน ต้มยำกุ้งของคนไทยรสชาติจัดจ้านและเต็มไปด้วยเครื่องสมุนไพรจากธรรมชาติเช่นขิงข่าตะไคร้ต้นหอมและน้ำพริกเผา ซึ่งคนที่ได้ชิมจะรู้สึกว่าอร่อยและแตกต่าง แล้วชาวต่างชาติบางประเทศจะชื่นชอบอาหารไทยเพราะมีรสชาติจัดจ้าน
โดยร้านของเราจะเน้นใช้กุ้งแม่น้ำตรัง ชื่อร้านบ้านกุ้งแม่น้ำตรัง รอบริเวณแถวนี้จากอุดมไปด้วยกุ้งแม่น้ำตรังเนื้อแน่น น้ำจะขึ้นลงวันละ 2 รอบ กุ้งที่นี่แข็งแรงเนื้อแน่น ไขมันน้อยโปรตีนสูง เพราะเป็นกุ้งที่ออกกำลังกายด้วยกระแสน้ำที่เชี่ยวต้องต่อสู้กับกระแสน้ำ ทำให้กุ้งแข็งแรงและเนื้อแน่น และนอกจากหลักๆเมนูที่นี่นอกจากกุ้งเผา ต้มยำกุ้งแล้วนั้นจะเป็นต้มข่ากุ้ง ถือเป็นเมนู signature เหมือนกันราคาเริ่มต้นถ้วยละ 250-300 บาท ขึ้นไป
“ ที่ยูเนสโกเตรียมขึ้นทะเบียนเมนูต้มยำกุ้งของไทยนั้น ผมก็รู้สึกภูมิใจเพราะเมืองไทยนี้เหมือนเป็นครัวโลก ทุกคนมาเมืองไทยก็ต้องบินมาเกี่ยวกับเรื่องกิน และเราก็อยากแนะนำเมนูต้มยำกุ้งแม่น้ำ รสชาติจี๊ดจ๊าดเผ็ด ของเราจะทำต้มทั้งตัวซึ่งได้อรรถรสในการกิน ในการที่จะมาปอกเปลือกและสีสันสวยงามกว่า หรือจะสั่งเป็นชิ้นก็ได้”นายสายชลกล่าว
นายสายชล กล่าวอีกว่า สำหรับกุ้งแม่น้ำตรังซึ่งเรารับซื้อจากชาวบ้านที่ประกอบอาชีพวิถีชาวประมงในพื้นที่ เน้นใช้วิธีตกกุ้ง บางที่ก็ทอดแหบ้างแต่ที่นี่เน้นใช้วิธีตกได้ทีละตัวกว่าจะได้มันไม่ง่าย คนที่กินต้องเห็นคุณค่าของกุ้งกว่าจะหาได้สักตัวมันไม่ง่าย ซึ่งชาวบ้านมีรายได้จากการตกกุ้งจำนวนกว่า 50 ราย และชาวบ้านในแต่ละวันที่ตกกุ้งจะมีรายได้ บางวันก็ได้ 400-500 บาท หากฟลุ๊คก็ได้ถึง 1,000 กว่าบาทต่อวันเลยทีเดียว
นายสายชล กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ลูกค้าสนใจร้านหยุดทุกวันจันทร์ เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 11.00-20.00 น.สามารถติดต่อตามเพจชื่อบ้านกุ้งแม่น้ำตรังหรือเบอร์ 099-536-5654 สายชล คนแม่น้ำตรัง
นางสาวลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผอ.ททท.สำนักงานตรัง บอกว่า ระหว่างรสชาติกุ้งแม่น้ำกับกุ้งทะเลจะมีรสชาติแตกต่างกัน กุ้งแม่น้ำเนื้อจะหนึบกว่า และมีมันเยอะมาก รสชาติอร่อยเนื้อแน่นเหนียว หากเป็นกุ้งทะเลก็จะเป็นกุ้งแชบ๊วยหรือกุ้งมังกรจะกินแบบซาซิมิแต่ในกุ้งแม่น้ำนั้นจะได้เรื่องราวชุมชนซึ่งคุณลุงคุณป้าที่นี่อายุ 70-80 ปี ทุกคนจะช่วยกันอนุรักษ์คุณภาพน้ำอนุรักษ์ป่าจากและอนุรักษ์วิถีชีวิตเดิมๆไว้ เรากินกุ้งแต่เราได้ป๋าที่อุดมสมบูรณ์กุ้งที่ไม่มีสารเคมีเจือปนและสร้างงานสร้างอาชีพเสริม ยังมีร้านอาหารที่อยู่ตลอดริมแม่น้ำตรังรับซื้อวัตถุดิบจากชุมชนชาวบ้าน เป็นเมนูที่ที่คอยต้อนรับชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวที่มาแล้วต้องมาชิมกุ้งแม่น้ำตรัง ซึ่งถือว่าเป็น Soft power ของไทยได้
