ภารกิจนี้..เพื่อคนชายแดน “ฉก.ตร.นธ.93” น้ำท่วมอ่วมทั้งจังหวัด – ธารน้ำใจหลั่งไหลทุกทิศทาง รวมทั้ง “ผบ.ฉก.ตร.นธ.93” แท็คทีมลุยน้ำ!! ระดมแจกของ...ตลอดระยะเวลาที่ “มรสุม” ซัดกระหน่ำเข้าสู่จังหวัดปลายด้ามขวาน ตั้งแต่วันที่ 26 พฤศจิกายน 67 ที่ผ่านมา แรกเริ่ม..คงไม่มีใครคาดคิดว่า ความรุนแรงจะขยายวงกว้างทั่วทั้ง 3 จังหวัด
“นราธิวาส” เป็น 1 ในจังหวัดที่ “บอบช้ำมาก่อนแล้ว” เมื่อปลายปี’ 66 ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ต่างคิดตรงกันว่า “อุทกภัย” ระลอกนั้น ถือว่าหนักและอ่วมสุดๆในรอบ 50 ปี เพียงแต่มวลน้ำไม่ได้ขยายวงกว้างครอบคลุมทั้งจังหวัด เหมือนเช่นปี’ 67 ที่มวลน้ำไหลทะลักไม่จำกัดทิศทาง เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนเกือบทุกหย่อมหญ้า รวมทั้งโรงเรียน วัด มัสยิด สถานที่ราชการ ถนนหนทาง เสียหายหนัก สร้างความท้อแท้ใจให้กับชาวบ้านที่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเป็นครั้งที่ 2
ธารน้ำใจจากทั่วทุกสารทิศ หลั่งไหลลงมาสู่ 4 จังหวัด ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และสงขลา ในทุกๆวัน ทำให้ผู้ประสบอุทกภัยมีขวัญกำลังใจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะ..ผู้ที่บินมาก่อนใคร มท.3 “ซาบีดา ไทยเศรษฐ์”ขณะเดียวกัน หน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 ที่เข้ามาดูแลพื้นที่ อ.เมืองนราธิวาส ในห้วง 2 ปีที่ผ่านมา โดยมี พันตำรวจเอก ทศม ม่วงเกษม เป็นผู้บังคับหน่วยฯ (ฉก.ตร.นธ.93) จัดกำลังลุยน้ำในเขตรับผิดชอบ งานนี้ “วางปืน นั่งเรือ” พร้อมถุงยังชีพบ้าง ข้าวกล่องและน้ำบ้าง สลับกำลังในแต่ละวัน ทั้ง ฉก.ตร.นธ. 93 / ชป.กร.ฉก.ตร.นธ.93 / 931 และไทยอาสาป้องกันชาติ (ทสปช.) ร่วมกับชาวบ้านจิตอาสาและพระสงฆ์ “วัดพรหมนิวาส” จัดทำข้าวกล่องก่อนนำไปมอบให้ผู้ประสบอุทกภัยในตำบลต่างๆ เขต อ.เมืองนราธิวาส จำนวน 2,000 กล่อง ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ภารกิจลุยน้ำเพื่อนำอาหารน้ำดื่มถึงมือชาวบ้านทุกครัวเรือน คงทำได้ไม่หมด บางจุดที่น้ำลึกและเชี่ยว ต้องใช้เรือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ต้องเซฟกำลังพลเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ความช่วยเหลือจากหน่วยฯ ยังคงต่อเนื่องกันไปเฉกเช่นเดียวกับหน่วยงานและองค์กร มูลนิธิฯ ที่ลงมาด้วย “ใจ” ล้วนๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเป็นไปอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว เป้าหมายมีทุกหมู่บ้านทุกตำบล ทยอยๆไปทั้งที่ ต.ลำภู, ต.บางปอ, ต.โคกเคียน, ต.กะลุวอเหนือ, ต.กะลุวอ, ต.บางนาค, ต.มะนังตายอ อ.เมือง ซึ่ง ฉก.ตร.นธ.93 ได้ตระเวนแจกจ่ายข้าวและน้ำดื่มให้กับชาวบ้าน บางคนถึงกับน้ำตาไหลที่มีข้าวกิน ซึ่งอาหารทุกกล่องที่นำไปมอบในเขตเมือง ได้ใช้โรงทานวัดพรหมนิวาส ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส ที่มีแม่ครัวทั้งพุทธและมุสลิมร่วมกันประกอบอาหารและแพ็คข้าวกล่อง…จะเห็นได้ว่า ในยามคับขัน ผู้ที่ห่วงใยและส่งความช่วยเหลือมาให้เรา น้ำสักแก้ว ข้าวสักจาน คือผู้ที่เราต้องรักษาไว้ให้ดี ส่วนผู้ที่มองความทุกข์เราแล้วเมินเฉย นั่นคือให้คุณ “อยู่ห่างๆเค้า” ได้เลย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: