เกิดเหตุไฟไหม้บ้านเรือนชาวบ้านวอดทั้งหลัง เผยได้กลิ่นมาก่อนไม่นานเสียงระเบิดดัง ก่อนลุกพรึบวิ่งหนีแทบไม่ทันชาวบ้านช่วยขนได้แค่ข้าวเปลือกออกมา ส่วนเงินสด 2 หมื่นกับไม้ที่เลื่อยเก็บไว้เตรียมสร้างบ้านใหม่วอดไปด้วยกันทั้งหมด
วันที่ 11 ธ.ค.67 เมื่อเวลา 16.00 น.ร.ต.อ.สำรวย อกกลาง รองสารวัตร(สอบสวน)สภ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้นำชุมชนว่ามีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนชาวบ้านที่บ้านโคกใหญ่ หมุ่ 5 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ จึงประสานรถดับเพลิงพื้นที่ใกล้เคียงไปช่วยระงับเหตุ
ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวเลขที่ 65 ม.5 ต.ตาเป๊ก อ.เฉลิมพระเกียรติ เมื่อรถดับเพลิงไปถึงพบว่าไฟกำลังลุกไหม้อย่างรุนแรง รถดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 40 นาที จึงสามารถดับไฟให้มอดสนิท
ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าตัวบ้านและทรัพย์สินที่อยู่ภายในเสียหายทั้งหมด มีเพียงข้าวเปลือกที่กองไว้อยู่หน้าบ้านประมาณ 20 ถุงปุ๋ย ที่ชาวบ้านช่วยกันขนออกมาได้ก่อนหน้านี้
หลังเจ้าหน้าที่ดับไฟมอดสนิทแล้ว เจ้าของบ้านได้รีบเข้าไปค้นหาถุงใส่เงินจำนวน 20,000 ที่เก็บไว้ใต้หมอนมาดู ปรากฏว่าถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมด ส่วนผู้บาดเจ็บถูกหามส่งโรงพยาบาลคือนาง ตุ๊ ทิศกระโทก อายุ 78 ปี ภรรยาเจ้าของบ้านเป็นลมหลายครั้งเกรงว่าจะเป็นอันตรายจึงพาไปให้หมอตรวจดูอาการ
สอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่าก่อนหน้านั้นตนได้กลิ่นเหม็นไหม้ ไม่นานได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด ก่อนจะมีควันไฟลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว ถึงแม้รถดับเพลิงจะมาถึงอย่างรวดเร็วก็ตาม แต่ยังไม่ทันเพราะเพียง 10 นาทีไฟได้ไหม้ลามไปแล้วเกือบทั้งหลัง
ขณะที่นายวุ่น ทิศกระโทก ทิศกระโทก อายุ 80 ปีเจ้าของบ้านเล่าว่าบ้านหลังนี้มีอายุมากกว่า 40 ปีรวมถึงสายไฟภายในบ้านที่มีอายุพอๆกัน เงินสดจำนวน 20,000 บาท เป็นเงินที่ตนเบิกมาจะเอามาซ่อมรถไถ ยอมรับว่าเสียใจเพราะข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านที่มีเป็นจำนวนมากเสียหายทั้งหมด
นอกจากนี้ยังมีไม้ที่ตนเลื่อยมาเก็บซุกไว้ตามพื้นบ้าน ข้างบ้านอีกเป็นจำนวนมาก เพื่อจะเอามาสร้างบ้านหลังนี้ที่ทรุดโทรมมากแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะถูกไฟไหม้แบบนี้
ด้านนายสุวิท อ้อมวิหาร อายุ53 ปี กำนันตำบลตาเป๊ก กล่าวว่าบ้านหลังนี้เป็นครอบครัวใหญ่อยู่กันหลายคน สาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะเป็นบ้านเก่า สายไฟเก่าที่ผ่านมาได้แจ้งเตือนชาวบ้านเรื่องให้ระวังเหตุเพลิงไหม้เป็นประจำโดยเฉพาะหน้าแล้งซึ่งอากาศแห้ง
